ikea

How to เทคนิคเลือกเฟอร์นิเจอร์ ikea อย่างมืออาชีพ คุณหรือใครก็ทำได้

ปัญหาอย่างหนึ่งของคุณพ่อบ้านแม่บ้านมือใหม่ และคนที่เพิ่งเริ่มสนใจเรื่องของตกแต่งบ้านมักจะเป็นเหมือนกันก็คือ อยากจะซื้อเฟอร์นิเจอร์ของ ikea มาตกแต่งบ้าน แต่เริ่มต้นไม่ถูก ไม่รู้ควรจะเริ่มอย่างไรดี เพราะทั้งเวลาและงบประมาณบางทีก็จำกัด เฟอร์นิเจอร์เป็นสิ่งค่อนข้างมีราคาเสียด้วย ซื้อแล้วถ้าไม่เหมาะกับบ้านคงเสียเงินดายแย่ เราจึงมีคำแนะนำดี ๆ มาฝาก

ลองเริ่มต้นจากการวัดขนาดดูก่อนสิ

ใครที่ตั้งใจแน่นอนแล้วว่า จะซื้อเฟอร์นิเจอร์ใหม่จากอิเกีย มาตกแต่งบ้านในส่วนต่าง ๆ ถ้าไม่รู้จะเริ่มจากอะไร ง่ายสุดแนะนำให้เริ่มต้นจากการ มองไปที่พื้นที่ที่คุณคิดว่าจะเอาเฟอร์นิเจอร์มาวาง แล้วให้ทำการวัดพื้นที่ในบริเวณนั้น 

ซึ่งคุณไม่ต้องกำหนดพื้นที่เป๊ะ ๆ ก็ได้ อาจจะกำหนดไว้ 2 – 3 จุดว่าน่าจะวางเฟอร์นิเจอร์ไว้ตรงไหนบ้าง แล้ววัดพื้นที่แต่ละจุดออกมาว่า แต่ละมุมนั้นมีความกว้าง ความยาว และความสูงอยู่ที่เท่าไหร่ เพราะนั่นจะช่วยทำให้คุณรู้ว่าควรซื้อเฟอร์นิเจอร์ขนาดเท่าไหร่ เป็นการป้องกันการซื้อเฟอร์นิเจอร์ที่ผิดขนาดนั่นเอง

การรู้ขนาดของพื้นที่นั้นจะช่วยทำให้การเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ง่ายขึ้นมาก เพราะเราจะรู้ก่อนคร่าว ๆ เลยว่าพื้นที่กว้างพอที่จะวางเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ได้ไหม ถ้าพื้นที่เล็กไปเราจะได้ตัดใจหรือวางแผนใหม่ได้ง่ายขึ้น

เรื่องการขนย้ายก็เป็นปัจจัยที่ต้องคำนึงถึง

สิ่งต่อมาที่คุณต้องไม่ลืมด้วยก็คือ เรื่องของการขนย้ายเข้า-ออกจากบ้าน เพราะบางคนภายในบ้านกว้าง แต่ส่วนของประตูอาจจะเล็กแคบ หากเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ที่ชิ้นใหญ่แบบชิ้นเดียว ไม่สามารถถอดประกอบได้ เวลาจะเข้ามาวางในบ้านอาจจะมีปัญหา 

นอกจากนั้นกรณีที่จะขนย้ายเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ขึ้นชั้นบนของบ้าน ก็ต้องประเมินกันให้ดี ทั้งพื้นที่ ขนาดเฟอร์นิเจอร์ และกำลังคน ทุกอย่างจะต้องสอดคล้องลงตัวและเป็นไปได้เท่านั้น ไม่อย่างนั้นก็จะเกิดปัญหาในการขนย้าย สุดท้ายอาจทำให้เฟอร์นิเจอร์เสียหายก่อนได้ใช้งาน

ทางเลือกหนึ่งที่ดีก็คือ หากติดข้อจำกัดเรื่องการขนย้ายไปในตำแหน่งต่าง ๆ ของบ้าน ก็แนะนำให้ซื้อเฟอร์นิเจอร์แบบถอดประกอบได้ ซึ่งเฟอร์นิเจอร์ของอีเกียก็โดดเด่นในเรื่องนี้อยู่แล้ว ทางเลือกนี้จึงถึงว่าตอบโจทย์ยุคสมัยได้ดีเลย

สำรวจงบประมาณกันหรือยัง

ปัจจัยเรื่องงบประมาณในการซื้อเฟอร์นิเจอร์เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญมาก คุณจะต้องสำรวจดูก่อนว่าในกระเป๋าสตางค์และบัญชีธนาคารมีเงินอยู่มากน้อยเพียงไร การซื้อเฟอร์นิเจอร์สักชิ้นนั้น จริง ๆ แล้วก็เป็นจำนวนเงินที่ไม่น้อย โดยปกติแล้วก็ต้องมีหลักพันบาทขึ้นไปอยู่แล้ว หากเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ออกแบบพิเศษก็อาจจะต้องมีหลักหมื่นเฉียด ๆ แสนกันเลย

ดังนั้น ก่อนที่คุณจะตัดสินใจซื้อเฟอร์นิเจอร์ ลองดูงบคร่าว ๆ ของตนเองก่อน จากนั้นค่อยไปสำรวจรูปแบบและดูราคาเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องการ ถ้าแมทช์กันพอดีก็ตัดสินใจซื้อได้ง่ายมากขึ้น

เปรียบเทียบราคาก่อนซื้อก็ดีเหมือนกันนะ

เทคโนโลยีออนไลน์ช่วยให้ชีวิตเราง่ายขึ้นหลายอย่าง แม้กระทั่งการเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ เราสามารถเช็คราคาเปรียบเทียบโปรโมชั่นต่าง ๆ ของเฟอร์นิเจอร์แต่ละแบรนด์กันได้ง่าย ๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ คุณไม่จำเป็นจะต้องซื้อจากอีเกียที่เดียวก็ได้ บางชิ้นอาจจะสั่งซื้อจากร้านอื่นก็ไม่ได้ผิดอะไร ก็ขึ้นอยู่กับความพอใจและโปรโมชั่นในช่วงนั้น ๆ ของแต่ละร้านด้วย

ต้องดูด้วยว่าใครใช้

หากในบ้านมีกันอยู่หลายชีวิตหลายช่วงวัย เฟอร์นิเจอร์หนึ่งชิ้นที่ซื้อมาก็ควรจะตอบโจทย์ทุกคนในบ้านได้ อย่างเฟอร์นิเจอร์ของ ikea จะมีการดีไซน์พิเศษให้สามารถใช้งานได้หลากหลายตอบโจทย์ทุกชิ้นในบ้าน และบางชิ้นก็อาจจะดีไซน์เฉพาะสำหรับคนในช่วงวัยต่าง ๆ ด้วย เฟอร์นิเจอร์ก็เป็นเหมือนบ้าน ก็ต้องดูว่าซื้อมาแล้วเข้ากับไลฟ์สไตล์ของคนในบ้านมากน้อยแค่ไหนด้วย

เหล่านี้เป็นเทคนิคการเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ของอิเกียอย่างมืออาชีพที่เราขอนำมาแนะนำกันในครั้งนี้ คุณจะเห็นว่าจริง ๆ การเลือกเฟอร์นิเจอร์สำหรับใช้สอย หรือตกแต่งบ้านไม่ใช่เรื่องยากเลยสักนิด แต่อาจจะต้องคิดกันสักหน่อยวางแผนกันสักเล็กน้อย ว่าของแต่ละชนิดที่คุณจะซื้อนั้นเหมาะกับการใช้งานยังไง เท่านี้คุณก็จะได้เฟอร์นิเจอร์สวย ราคาดี ที่ตอบโจทย์ตัวคุณและทุกชีวิตในบ้านแล้ว พบกับเนื้อหาสาระดีๆอัพเดททุกอาทิตย์กับเราได้ที่นี่

ikea

เครื่องตัดหญ้า

อยากได้เครื่องตัดหญ้า เลือกอย่างไรให้ถูกใจและได้ความคุ้มค่า

หลาย ๆ บ้านรู้สึกดีที่มีพื้นที่ทำสนามหญ้าหน้าบ้าน หรือ ทำไว้หลังบ้าน แต่พอหญ้าขึ้นสูงจนรกก็อาจจะมีสัตว์มีพิษอันตรายมาอาศัยอยู่ได้เหมือนกัน จึงจำเป็นที่จะต้องตัดหญ้าให้โล่งเตียนบ้าง แต่งานตัดหญ้าไม่ใช่เรื่องง่ายหากต้องตัดด้วยมือ การใช้เครื่องมืออย่าง เครื่องตัดหญ้า เข้าช่วยก็จะเป็นการผ่อนแรงและประหยัดเวลาได้มากกว่า 

แต่ทว่าหลายคนไม่รู้ว่าจะเลือกซื้ออุปกรณ์เครื่องมือชิ้นนี้อย่างไรดี เพราะรูปแบบของเครื่องก็มีให้เลือกเยอะและยังมีลักษณะใบมีดที่ไม่เหมือนกันอีก เราจึงมีคำแนะนำในเรื่องนี้มาฝากกัน

รู้จักประเภทก่อนเลือกซื้อ เครื่องตัดหญ้า

สำหรับเครื่องตัดหญ้าที่มีใช้และวางจำหน่ายกันอยู่ในท้องตลาดปัจจุบันจะมี อยู่ 3 ประเภทด้วยกัน นั่นคือ

1.แบบใช้ไฟฟ้า

ประเภทนี้เป็นเครื่องตัดหญ้าไฟฟ้าจะเป็นแบบที่มีสายปลั๊กให้เสียบ ซึ่งเวลาใช้งานจะต้องเสียบปลั๊กอยู่ตลอด

· ข้อดี: ระบบไฟและการทำงานนั้นจะมีความเสถียร เพราะใช้ไฟฟ้าทำให้เครื่องสามารถทำงานได้อย่างสม่ำเสมอโดยกำลังของเครื่องไม่ลดลงและในด้านราคาแบบนี้จะราคาค่อนข้างถูก

· ข้อเสีย: เครื่องตัดหญ้าไฟฟ้าจะใช้ได้ในพื้นที่จำกัดเท่านั้น เนื่องจากต้องเสียบปลั๊กไฟ หากพื้นที่สนามเป็นบริเวณกว้าง สายไฟอาจยาวไม่พอ

2.แบบใช้แบตเตอรี่

ประเภทนี้ระบบส่งกำลังไฟจะมาจากแบตเตอรี่ ซึ่งก็จะทำให้เครื่องสามารถตัดหญ้าได้ตามต้องการ

· ข้อดี: รูปแบบนี้ใช้งานได้ทุกสถานที่ เคลื่อนย้ายไปใช้งานตรงไหนก็ได้ เพราะไม่มีสายไฟ ถึงสนามหญ้าจะกว้าง ก็สามารถใช้งานได้ทุกบริเวณแบบไร้ปัญหา

· ข้อเสีย: ระบบการส่งกำลังไฟจะไม่เสถียร เพราะถ้าแบตเตอรี่กำลังไฟอ่อนการส่งกำลังในการตัดก็จะเบาลง รวมไปถึงราคาของแบตเตอรี่นั้นค่อนข้างสูง จึงอาจทำให้สิ้นเปลืองมากกว่าแบบใช้ไฟฟ้า

3.แบบใช้น้ำมัน

ประเภทนี้จะใช้ระบบส่งกำลังขับของตัวมอเตอร์จากน้ำมัน ทำงานเหมือนเครื่องยนต์ของรถยนต์

· ข้อดี: รูปแบบนี้มีกำลังแรงตัดที่สูงกว่าทั้ง 2 แบบที่กล่าวมา จึงเบาแรงผู้ใช้งานมากกว่าและประหยัดเวลาในการตัดหญ้ามากกว่า

· ข้อเสีย: กระบวนการจัดเตรียมก่อนใช้งานจะยุ่งยากกว่า เพราะจะต้องมีการเติมน้ำมัน อีกทั้งราคาน้ำมันที่ต้องเติมนั้นถ้าเทียบกับแบบไฟฟ้าแล้วจะสูงกว่า ทำให้แบบนี้สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมากกว่านั่นเอง

ควรเลือกลักษณะใบมีดอย่างไรดี

อีกหนึ่งส่วนที่จะต้องพิจารณาเลือกด้วยก็คือ ส่วนของใบมีดเครื่องตัดหญ้าจะมีลักษณะใบมีดให้เลือกใช้งานอยู่ 3 แบบด้วยกัน คือ

· ใบมีดแบบโลหะ: จะมีความคมสูง สามารถตัดหญ้าให้ขาดได้ง่าย แต่ในขณะเดียวกันลักษณะใบมีดตัดแบบนี้ก็เหมาะกับผู้ที่มีประสบการณ์เคยใช้งานมาก่อน เพราะด้วยใบมีดมีความคมสูง จึงมีความเสี่ยงด้านความปลอดภัยเวลาใช้งานตามมาด้วยนั่นเอง

· ใบมีดแบบพลาสติกหรือเรซิ่น: ในส่วนของความคมนั้นจะน้อยกว่าแบบโลหะ แต่ก็ปลอดภัยกว่า เหมาะสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป

· ใบมีดแบบเชือกไนลอน: ในส่วนของความคมนั้นจะน้อยกว่าทั้ง 2 แบบข้างต้นที่กล่าวมา แต่ในเรื่องความปลอดภัยแบบนี้จะถือว่าปลอดภัยที่สุด ในเรื่องของการตัดนั้นจริง ๆ ก็ถือว่าทำได้ดี ขึ้นอยู่กับกำลังของมอเตอร์ หากใช้ในบ้านเรือนทั่วไปแบบนี้จะตอบโจทย์ที่สุด

ลักษณะของที่จับก็เป็นอีกส่วนที่ต้องพิจารณาสำหรับ เครื่องตัดหญ้า

ปัจจุบันเครื่องตัดหญ้ามีดีไซน์ใหม่ ๆ ออกมาเพื่อให้เกิดความสะดวกในการใช้งาน จึงมีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งของส่วนมอเตอร์หรือมีดีไซน์ตัวด้ามจับใหม่บ้าง ซึ่งในส่วนของด้ามจับนี้ก็เป็นอีกจุดหนึ่งที่ต้องพิจารณาดูด้วย เพราะบางรุ่นเวลาใช้งานจริงจะรู้สึกว่าจับไม่ถนัด โดยหลัก ๆ แล้วด้ามจับจะมีอยู่ 2 แบบคือ

· U Shape: ลักษณะด้ามจับจะเป็นรูปตัว U แบบนี้จะเหมาะกับการใช้งานตัดหญ้าในพื้นที่ราบ ไม่ชัน

· ด้ามจับแบบสองมือ: แบบนี้เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ที่หลากหลายกว่า ถ้าต้องตัดหญ้าในพื้นที่ที่มีสิ่งกีดขวางแบบนี้จะดีกว่าแบบตัว U  

นี่คือวิธีการพิจารณาเลือกซื้อเครื่องตัดหญ้าที่คุณควรรู้ หากพิจารณาตามนี้ก็จะทำให้คุณสามารถเลือกเครื่องที่ตรงใจคุณที่สุดได้ ซึ่งนั่นก็หมายถึงความคุ้มค่าที่คุณจะได้รับตามมาด้วยจากอุปกรณ์ที่คุณถูกใจนั่นเอง พบกับบทความที่จะช่วยให้ความรู้ และ สาระ เกี่ยวกับบ้าน และ ไลฟ์สไตล์ได้ที่นี่ เครื่องตัดหญ้า

หลอดไฟ led

หลอดไฟ led เลือกซื้ออย่างไรให้ตรงใจและตอบโจทย์การใช้งาน

ในวันนี้ตามอาคารบ้านเรือนต่าง ๆ นิยมใช้ หลอดไฟ led ในการให้แสงสว่างกันมากขึ้น ส่วนหนึ่งนั้นเพราะว่าหลอด led สามารถให้ ความสว่าง มากกว่าหลอดไฟทั่วไป อีกทั้งยังประหยัดไฟกว่าและยังมีอายุการใช้งานที่ยาวนานด้วย แต่ทว่าหลอด led ก็มีให้เลือกหลายแบบด้วยกัน จนบางทีก็รู้สึกสับสนว่าจะเลือกแบบไหนดี ครั้งนี้เราจึงมีคำแนะนำในการเลือกซื้อหลอด led มาบอกกัน

อาคารที่พักอาศัยควรใช้หลอดไฟสักกี่วัตต์และควรใช้จำนวนเท่าไหร่

ก่อนจะซื้อหลอดไฟ led มาใช้สิ่งที่เราควรเข้าใจก่อนก็คือ แต่ละจุดภายในที่พักอาศัยมีความต้องการแสงสว่างที่แตกต่างกัน บางมุมภายในบ้านไม่จำเป็นต้องสว่างมากก็ได้ จะได้ช่วยประหยัดไฟ ส่วนมุมไหนของบ้านที่จำเป็นต้องใช้บ่อย หรือเป็นจุดอันตรายก็จำเป็นจะต้องให้สว่างมากขึ้นสักหน่อย

ตรงนี้จึงเป็นเหตุผลที่เราควรเลือกจำนวนวัตต์ของหลอดไฟให้เหมาะสมกับการใช้งานภายในบ้าน ซึ่งจะช่วยทำให้บ้านสว่างสดใส ดูสวยงาม ปลอดภัยและประหยัดไฟไปด้วยในเวลาเดียวกัน ซึ่งหลักเบื้องต้นในการพิจารณาเรื่องวัตต์ของหลอดไฟแอลอีดีนั้น เราจะคำนวณจากพื้นที่และความสูงของห้อง เช่น

· ห้องทำงาน: ถ้ามีพื้นที่ทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 15 ตร.ม. ความสูงอยู่ที่ 2.5 เมตร พื้นที่ประมาณนี้หากใช้เป็นหลอดไฟ led 5 วัตต์ ก็ควรใช้จำนวน 10 หลอด แต่ถ้าใช้เป็นหลอด 7 วัตต์ จำนวนก็ลดลงมาแค่ 6 หลอดก็น่าจะเพียงพอแล้ว

· ห้องนอน: ถ้ามีพื้นที่ทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 25 ตร.ม. ความสูงอยู่ที่ 2.5 เมตร ก็ควรใช้หลอดไฟแอลอีดี 7 – 7.5วัตต์ และใช้จำนวน 4 หลอดก็น่าจะเพียงพอแล้ว

· ห้องนั่งเล่น: ถ้ามีพื้นที่ทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 20 ตร.ม. ความสูงอยู่ที่ 2.5 เมตร ก็ควรใช้หลอดไฟ 9 วัตต์ ประมาณ 4 หลอดเพื่อให้ห้องมีความสว่างพร้อมกับมีบรรยากาศที่สดใสมากขึ้นอย่างนี้เป็นต้น

องค์ประกอบในการเลือกซื้อ หลอดไฟ led มีอะไรบ้าง

เมื่อเรารู้แล้วว่า เราจะติดตั้งหลอดไฟตรงไหนของบ้าน ติดห้องไหน ใช้กี่วัตต์และจำนวนเท่าไหร่ ต่อมาก็ต้องมาดูในส่วนอื่น ๆ ที่เป็นองค์ประกอบในการเลือก จะได้เลือกซื้อได้อย่างเหมาะสม ซึ่งก็จะมี

สีของแสงจาก หลอดไฟ led

โดยปกติแล้วหลอดไฟจะมีการแบ่งโทนสีของแสงจากหลอดไฟออกเป็น 3 แบบ คือ

1. Warm white – สีจะออกโทนแดงส้ม ซึ่งจะเป็นโทนสีอบอุ่น

2. Cool white – สีจะออกโทนขาว ให้ความรู้สึกเย็นสบายตา และเราจะรู้สึกว่าสว่างกว่าแบบที่ 1 

3. Day light – สีจะออกโทนขาวอมฟ้า จะให้ความรู้สึกเป็นแสงธรรมชาติเหมือนตอนกลางวัน

ทีนี้จะเลือกสีไหนก็ต้องพิจารณาด้วยว่า ห้องที่เราจะนำหลอดไปติดตั้งนั้นเป็นห้องไหน และต้องการแสงประมาณไหนถึงจะดูดีมีความเหมาะสม

ขั้วของหลอดไฟ

ขั้วของหลอดไฟนั้นมีทั้งแบบขั้วเกลียว แบบเกลียวเล็กก็มี หรือแม้แต่ แบบขั้วเสียบก็มี ดังนั้น ต้องซื้อให้ตรงกับขั้วหลอดด้วยไม่อย่างนั้นจะใส่ด้วยกันไม่ได้

รูปทรง

ปัจจุบันหลอดไฟ led มีดีไซน์รูปทรงออกมาหลายแบบ เพื่อเพิ่มความสวยงามให้กับบ้าน แต่โดยหลัก ๆ แล้วก็จะมีอยู่ 3 ทรง นั่นคือ

· ทรงกลม: เหมาะจะใช้กับโคมไฟหรือโคมโป๊ะ แบบนี้จะให้แสงในองศาที่กว้าง

· ทรงยาว: สามารถใช้ทดแทนหลอดฟลูออเรสเซนต์ได้ เหมาะสำหรับติดตั้งให้แสงสว่างทั่วไป

· ทรงจำปา: เหมาะสมสำหรับใช้กับโคมไฟประดับ แสงจะให้ออกมาคล้าย ๆ แสงแทน คือจะออกสลัว ๆ ใช้เพิ่มบรรยากาศ

ความใสและความขุ่น

ผิวเคลือบของหลอด led จะมีให้เลือกทั้งแบบใสและแบบขุ่น ซึ่งผิวเคลือบหลอดนั้นมีผลต่อการให้แสง หลอดใสนั้นจะให้การกระจายแสงที่มาก จึงเหมาะกับโคมไฟที่มีการออกแบบพิเศษเพื่อให้แสงไฟที่สวยงาม ส่วนหลอดแบบขุ่นนั้นจะเน้นให้แสงที่สม่ำเสมอ จึงเหมาะกับการใช้ทั่วไป

ทั้งหมดนี้คือหลักการเลือกซื้อหลอดไฟ led ซึ่งถ้าพิจารณาตามที่กล่าวมานี้ จะทำให้คุณสามารถเลือกซื้อได้ง่ายมากขึ้น และสามารถซื้อได้อย่างไม่มีผิดพลาดเหมาะสมกับการใช้งาน อย่างไรก็ดี ก็ควรจะดูด้วยว่าหลอดไฟนั้น ๆ มีการรับรองมาตรฐานหรือไม่ มีเครื่องหมาย มอก. และฉลากเบอร์ 5 ประหยัดไฟด้วยหรือเปล่า ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้คุณได้หลอดไฟที่ตอบโจทย์คุณมากที่สุดนั่นเอง ติดตาม บทความ และ เนื้อหาสาระมากมายเกี่ยวกับบ้าน และ ไลฟ์สไตล์ ได้ที่นี่

หลอดไฟ led

แผงโซล่าเซลล์

รู้หรือไม่ การติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ ที่บ้าน ให้ประโยชน์ได้มากกว่าที่คุณคิด

อย่างที่รู้กันว่าทรัพยากรธรรมชาติอย่างก๊าซธรรมชาติ ถ่านหิน และน้ำมันนั้นมีอยู่อย่างจำกัด แต่สิ่งที่เป็นพลังธรรมชาติอย่างแสงอาทิตย์นั้นกลับมีอยู่อย่างไม่จำกัด และสามารถนำมาทำประโยชน์ได้มากมาย สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดเจนที่สุดเลยก็คือ การผลิตกระแสไฟฟ้า ซึ่งเราจะต้องใช้ แผงโซล่าเซลล์ เป็นตัวนำความร้อนจากแสงอาทิตย์มาเปลี่ยนเป็นพลังงานกระแสไฟฟ้า

ปัจจุบันการใช้พลังงานแสงอาทิตย์มาเป็นทางเลือกในการผลิตไฟฟ้ามีการพัฒนาก้าวล้ำไปมาก จนสามารถเข้าถึงได้ในระดับครัวเรือน แม้ว่าต้นทุนอาจจะยังสูงอยู่บ้าง แต่การติดตั้งโซล่าเซลล์ไว้ที่บ้านก็ให้ประโยชน์ในหลาย ๆ ด้าน แต่จะมีอะไรบ้างนั้นมาติดตามกัน 

แผงโซล่าเซลล์ ช่วยคุณประหยัดค่าไฟไปได้อีกหลายบาท

แน่นอนเลยว่าคนที่คิดจะซื้อโซล่าเซลล์มาติดตั้งใช้งานในที่พักอาศัยแบบต่าง ๆ นั้นล้วนมีเป้าประสงค์แรกในเรื่องของการประหยัดค่าใช้จ่ายในเรื่องไฟฟ้า ซึ่งก็เป็นจริงดังนั้น การติดตั้งอุปกรณ์ตรงนี้อาจจะต้องลงทุนสูงในช่วงแรกก็จริง แต่ถ้ามองกันในระยะยาวแล้วถือว่าคุ้มค่ามาก เพราะสามารถช่วยคุณประหนัดค่าไฟฟ้าต่อเดือนและต่อปีไปได้หลายบาทเลยทีเดียว

เป็นพลังงานสะอาด ดีต่อการดูแลโลก

สิ่งที่ชัดเจนมากของการแปรเปลี่ยนพลังงานความร้อนจากแสงอาทิตย์มาใช้ในการกระบวนการผลิตไฟฟ้าก็คือ ดีต่อสภาพแวดล้อมมากขึ้น เพราะพลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานสะอาด ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม ซึ่งถ้าเรามีการติดตั้งโซล่าเซลล์ไว้ที่บ้าน หรือที่อาคารสำนักงานของเรา ก็จะเท่ากับเป็นการช่วยลดมลพิษจากโรงงานผลิตไฟฟ้าได้ด้วยอีกทางหนึ่ง

โดยปกติแล้วถ้าเราใช้ไฟฟ้าจากโรงงานผลิตไฟฟ้าที่ส่งต่อมายังการไฟฟ้า แบบที่เราใช้กันอยู่ทั่วไปในปัจจุบันนั้น เราก็ถือว่าเป็นส่วนหนึ่งในการทำลายโลกโดยไม่รู้ตัว เพราะกระบวนการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าตามปกติแล้วจะต้องมีการปล่อย Co2 หรือ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกสู่อากาศ และก๊าซนี้จะลอยขึ้นไปสู่ชั้นบรรยากาศของโลก ซึ่งทำให้โลกร้อนขึ้น และสภาพแวดล้อมจะมีมลพิษสะสม

หากว่าเราเปลี่ยนมาผลิตกระแสไฟฟ้ากันเองได้ผ่านการติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ไว้ที่บ้านหรือที่อาคารสำนักงานกันเยอะ ๆ ก็เท่ากับว่าโรงไฟฟ้าสามารถลดจำนวนการใช้ทรัพยากรธรรมชาติในการผลิตไฟฟ้าลงได้ นั่นเท่ากับว่าก็จะลดการปล่อย Co2 สู่ชั้นบรรยากาศได้ด้วย

แผงโซล่าเซลล์ ติดตั้งง่าย ใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าได้แทบทุกชนิด

หลายคนเข้าใจว่าการติดตั้งแผงโซล่าเซลล์นั้นทำได้ยากมีขั้นตอนซับซ้อน ซึ่งไม่จริงเลย ปัจจุบันเทคโนโลยีพัฒนาไปมากขึ้น อุปกรณ์หลาย ๆ อย่างผลิตได้ง่ายทำให้ต้นทุนถูกลง และสามารถลดความซับซ้อนของงานติดตั้งลงไปได้มากทีเดียว นั่นทำให้การติดตั้งอุปกรณ์ในส่วนนี้ทำได้ง่ายมากขึ้น ใช้เวลาไม่นาน เพียงวันเดียวก็สามารถติดตั้งเสร็จได้อย่างง่ายดาย

นอกจากจะติดตั้งได้ไม่ยากแล้ว การใช้งานจริงก็สามารถใช้งานได้ทันทีและ สามารถที่จะใช้จ่ายกระแสไฟฟ้าให้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านได้อย่างหลากหลาย เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านทั่วไปใช้ได้หมด ไม่ว่าจะเป็นหลอดไฟให้แสงสว่างภายในบ้าน ทีวี พัดลม ตู้เย็น แอร์ สามารถเชื่อมต่อได้หมด

ปลอดภัยไร้กังวล และคุ้มค่ากว่าที่คิด

หลายคนอาจจะกังวลเรื่องของการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่บ้าน เพราะกลัวว่าระบบไฟฟ้าภายในบ้านจะไม่เสถียร จนทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านเสียหายหรือเกิดระบบไฟฟ้าลัดวงจรได้ง่าย รวมไปถึงบางคนยังกังวลว่า ต้นทุนในการติดตั้งสูงเกินไปอาจจะไม่คุ้มค่าการลงทุน

ซึ่งความเป็นจริงแล้ว สิ่งที่หลายคนกังวลดังที่กล่าวมาข้างต้นนี้ อาจจะเป็นไปได้ในสมัยก่อน แต่ปัจจุบันนี้ไม่ใช่อีกต่อไป องค์ความรู้ในเรื่องการใช้พลังงานแสงอาทิตย์มาผลิตไฟฟ้าในทุกวันนี้พัฒนาไปมาก ระบบการจ่ายกระแสไฟฟ้าเสถียรมากขึ้นจนเทียบเท่ากับการจ่ายไฟฟ้าตามปกติ 

ส่วนในเรื่องความคุ้มค่านั้นก็ถือว่าคุ้มค่าแน่นอน เพราะอายุการใช้งานของแผงรับพลังงานแสงอาทิตย์นั้น 1 ชุดอยู่ได้ยาวนานถึง 20 ปีเลยทีเดียว 

คุณคงจะได้รับทราบกันแล้วว่า การติดตั้งแผงโซล่าเซลล์ไว้ที่บ้านหรือที่อาคารสำนักงานนั้นให้ประโยชน์ได้ในหลาย ๆ ด้านจริง ๆ เป็นประโยชน์ทั้งกับตัวเรา กับสังคมและโลกของเราด้วย ดีแบบนี้คุณน่าจะลองซื้อหามาติดตั้งดูบ้างก็ดีนะ ช่วยประหยัดค่าไฟได้เยอะเลย ติดตามอ่านบทความสาระดีได้อีกมากมายได้ที่นี

แผงโซล่าเซลล์

บลูทูธ

5 เรื่องที่ต้องรู้ในการเลือกซื้อลำโพงแบบบลูทูธ เลือกอย่างไรได้เสียงที่ดีดังใจ

ในระยะ 3 – 4 ปีที่ผ่านมานี้กระแสความนิยมลำโพงไร้สาย หรือลำโพง บลูทูธ (Bluetooth Speaker) นั้นได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นเครื่องเสียงที่มีอิทธิพลสูง กับการใช้งานฟังเพลงในปัจจุบัน ซึ่งในตอนนี้ลำโพงไร้สายแบบนี้ก็มีหลากหลายแบบ หลากหลายแบรนด์ให้เลือก มีทั้งลำโพงเข็น ลำโพงคอม ลำโพงแบบพกพา 

เมื่อมีเยอะแบบนี้ จึงมี 5 เรื่อง ที่คุณจำเป็นจะต้องรู้ ก่อนที่จะทำการเลือกซื้อ เพื่อให้คุณได้ลำโพงที่ให้คุณภาพเสียงดี ประสิทธิภาพการเชื่อมต่อเสถียร จะมีอะไรบ้างนั้น มาติดตามกันได้เลย

1.สถานที่ในการเปิดใช้ลำโพง บลูทูธ

เรื่องของสถานที่ หรือขนาดของพื้นที่นั้น เป็นปัจจัยหลักที่คุณควรจะต้องคำนึงถึงก่อนเลย เพราะการจะเลือกซื้อลำโพงบลูทูธ ขนาดไซส์เล็ก หรือไซส์ใหญ่ ก็จะต้องพิจารณาจากปัจจัยเรื่องพื้นที่ก่อน ขนาดของพื้นที่นั้นมีผลอย่างมากต่อเรื่องความดังเบา และคุณภาพของเสียง รวมไปถึงเรื่องการส่งสัญญาณเชื่อมต่อ bluetooth ระหว่างอุปกรณ์ฟังเพลงด้วย ยกตัวอย่างเช่น

· ใช้ภายในห้องนอน: พื้นที่ห้องนอนนั้น ขนาดไม่กว้างอยู่แล้ว อยู่ได้ 1 – 2 คน แบบนี้ใช้ลำโพงขนาดไซส์เล็กสุดเลยก็เพียงพอแล้ว วางตำแหน่งลำโพงให้ห่างจากเราไปไม่เกิน 1 เมตร แค่นี้ก็ได้คุณภาพระดับเสียงที่พอเหมาะสมแล้ว

· ใช้ภายในห้องนั่งเล่น: พื้นที่ห้องนั่งเล่น หรือโถงขนาดกลาง ๆ พื้นที่จะอยู่ประมาณ 10-20 ตร.ม. จุคนได้ประมาณ 3 – 5 คน แบบนี้จะใช้ลำโพงขนาดเล็ก ก็ยังให้เสียงที่คมชัดได้อยู่

· ใช้ในพื้นที่กลางแจ้ง: เป็นการล้อมวงปาร์ตี้ พื้นที่จุคน ประมาณ 5 – 10 คน แบบนี้ใช้ลำโพงขนาดกลาง ก็ให้เสียงที่ดังกระหึ่มแล้ว

2.ความจำเป็นในการพกพา บลูทูธ

จุดเด่นของลำโพง bluetooth ก็อยู่ที่เรื่องการเชื่อมต่อไร้สาย ทำให้สามารถพกพาใช้งานในสถานที่ต่าง ๆ ได้อย่างสะดวก ไม่มีสายมาเกะกะให้เป็นภาระ ทำให้ปัจจัยเรื่องการพกพา กลายเป็นอีกหนึ่งปัจจัย ที่ต้องคำนึงถึงด้วยเวลาที่จะเลือกซื้อ 

หากคุณต้องการพกพาติดตัวไปกับกระเป๋าเป้ หรือกระเป๋าสะพาย หรือ โดยสารรถสาธารณะ ลำโพงขนาดเล็ก หรือขนาดกลาง ก็จะเหมาะสมที่สุด แต่ถ้าปกติคุณเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว และต้องมีการใช้ลำโพงนอกสถานที่เสมอ แบบนี้จะเลือกได้ทุกไซส์ ทุกขนาดเลย ตั้งแต่เล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ แต่ถ้าคุณไม่สามารถเปิดลำโพงในที่สาธารณะได้ อีกตัวเลือกนึงที่ช่วยคุณได้ คือ หูฟังบลูทูธ ที่จะทำให้คุณสะดวกสบายฟังเพลงได้ทุกที่ และ ไม่รบกวนคนรอบข้าง

3.ความสมบุกสมบันในการใช้งาน

เราจำเป็นที่จะต้องนำลำโพงบลูทูธไปใช้ในสถานที่ และสภาพแวดล้อมแบบไหนบ้าง ตรงนี้ก็ต้องคำนึงถึงด้วย บางคนพกพาไปฟังที่ริมทะเล ริมสระน้ำ กลุ่มนี้ก็จะมีโอกาสที่จะสัมผัสน้ำ ความชื้น ส่วนบางคนพกพาไปใช้ในเวลาตั้งแคมป์ตามสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติ ก็อาจจะต้องสัมผัสทราย ฝุ่นโคลน 

ถ้าต้องนำไปใช้ในพื้นที่เหล่านี้ ก็แนะนำว่า ให้เลือกซื้อลำโพงแบบที่กันน้ำกันฝุ่นได้ไปเลย ปัจจุบันมีหลายแบรนด์ที่มีดีไซน์พิเศษ นอกจากจะกันน้ำได้แล้ว ยังสามารถนำไปลอยน้ำ หรือใช้บนผิวน้ำได้ด้วย แต่แน่นอน ราคาของลำโพงแบบนี้ก็จะสูงขึ้นมาอีกหนึ่งระดับ คุณจึงต้องพิจารณาลักษณะการใช้งานตรงนี้ด้วย ถ้าไม่ได้ใช้สมบุกสมบันมากนัก เลือกแบบทั่วไปก็พอ จะได้เซฟเงินขึ้นอีก

4.เรื่องของแบตเตอรี่

แบตเตอรี่ของลำโพงบลูทูธ จะมีให้เลือกหลายความจุ ถ้าคุณเป็นคนฟังนาน และไม่ค่อยมีเวลามาชาร์จไฟบ่อย ๆ ก็ให้เลือกแบบที่มีความจุแบตเตอรี่เยอะ ๆ อย่างความจุที่สามารถฟังได้ 15 – 20 ชั่วโมง ถ้าฟังไม่นาน และมีเวลาดูแลชาร์จไฟอาจเลือกความจุที่ประมาณ 6 – 7 ชั่วโมงก็เพียงพอแล้ว ตรงนี้ก็มีผลต่อเรื่องของราคาด้วยเช่นกัน

5.ฟีเจอร์และลูกเล่น 

ปัจจัยนี้ ก็เป็นส่วนเสริม ที่ควรจะต้องนำมาพิจารณาด้วย เพื่อความคุ้มค่า ลำโพงบางรุ่นอาจมีการเพิ่มฟีเจอร์การเชื่อมต่อลำโพงหลายตัวได้ บางรุ่นก็อาจจะเปลี่ยนตัวเองเป็น Power Bank ได้ด้วย ซึ่งดีต่อคนที่ต้องการชาร์จมือถือไปในตัว ปัจจัยเหล่านี้ ก็ควรจะพิจารณาควบคู่กันไปด้วย ซึ่งจะช่วยทำให้คุณได้ลำโพงตัวเก่ง ที่มีคุณสมบัติสูง ตามความต้องการ

นี่คือ 5 สิ่งที่คุณควรจะต้องรู้เอาไว้ก่อนการตัดสินใจเลือกซื้อลำโพงบลูทูธ ถ้าพิจารณาตามหลักนี้ โอกาสที่คุณจะเลือกลำโพงที่เสียงดี ตอบโจทย์การใช้งาน มีฟีเจอร์เจ๋ง ๆ แบบคุ้มราคาที่จ่ายไป ก็มีสูงขึ้นแล้ว ลองนำไปใช้กันดูนะ

อย่าลืมติดตามบทความ สาระความรู้ดี ๆ เกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ และ เทคโนโลยี ที่จะช่วยให้ชีวิตของคุณง่ายมากขึ้น และ อัพเดทเทรนสินค้าใหม่ๆ ไปกับเรา ได้ที่นี่

บลูทูธ

โดเรมอนเดอะมูฟวี่

3 ตอนสุดคลาสสิกของโดเรมอนเดอะมูฟวี่ ที่ดูกี่ทีก็ไม่เคยเบื่อ 

ต้องบอกเลยว่าคงไม่มีใครไม่รู้จักกับโดเรมอน หรือโดราเอมอน เพราะนี่คือหนังการ์ตูนที่ครองใจคนทุกรุ่นจริง ๆ ทุกวันนี้คนก็ยังหาฉบับที่เป็นหนังสือการ์ตูนและในแบบฉบับที่เป็นภาพยนตร์มาดูกันอยู่ ซึ่งใครที่คิดถึงเจ้าแมวสีฟ้าจากโลกอนาคตตัวนี้อยู่พอดี เราก็จะขอแนะนำ 3 ตอนสุดคลาสสิกของฉบับที่เป็น โดเรมอนเดอะมูฟวี่ ซีรีย์ตอนยาวที่ควรควรหามาอ่านให้หายคิดถึง

1.ตอนไดโนเสาร์ของโนบิตะ

ต้องบอกเลยว่าโดเรมอนเดอะมูฟวี่ตอนไดโนเสาร์ของโนบิตะนี้เป็นหนึ่งตอนที่ใครหลายคนยังประทับใจจนถึงทุกวันนี้ ในตอนนี้นั้นมีการทำออกมาทั้งที่เป็นฉบับหนังสือและฉบับที่เป็นหนังการ์ตูนด้วย สำหรับใครที่เคยอ่านแต่ไม่จบ หรือ อ่านมานานแล้ว เริ่ม ๆ ลืมเนื้อเรื่องไปแล้ว ลองมาทบทวนกันสักเล็กน้อย

ในตอนนี้ซึเนะโอะไปได้ฟอสซิลเล็บไดโนเสาร์มา จึงเอามาอวดเพื่อนตามเคย แต่เขาไม่ยอมให้โนบิตะดูแบบใกล้ ๆ อยู่คนเดียว โนบิตะรู้สึกเจ็บใจจึงเผลอหลุดปากไปด้วยความโมโหว่า เขาจะขุดหาฟอสซิลไดโนเสาร์แบบของแท้มาให้ซึเนะโอะได้ดูเอง และก็อีกตามเคย โนบิตะกลับไปขอให้โดราเอมอนช่วย

โดราเอมอนสวดกลับโนบิตะยกใหญ่ที่พูดไม่คิด โดราเอมอนไม่ยอมช่วย แต่โนบิตะไม่ละความตั้งใจ จึงออกไปลองขุดหาฟอสซิลไดโนเสาร์ตามที่ต่าง ๆ สุดท้ายก็เจอหินประหลาด โนบิตะเชื่อว่าน่าจะเป็นไข่ของไดโนเสาร์ เขาเอากลับบ้าน โดราเอมอนเห็นเข้าก็ใจอ่อน จึงแอบเอาผ้าคลุมกาลเวลาออกมาให้ใช้ เพื่อทำการย้อนอดีตไข่ใบนั้นไปยังยุคไดโนเสาร์

สุดท้ายไข่ใบนั้นก็ฟักตัวและออกมาเป็นไดโนเสาร์จริง ๆ และโนบิตะก็ตั้งชื่อมันว่า “พีสุเกะ” เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป ลองหามาอ่านก็ดู

2. โดเรมอนเดอะมูฟวี่ ตอนตะลุยแดนมหัศจรรย์

โนบิตะและผองเพื่อนรู้สึกเซ็งกับชีวิต รู้สึกอยากออกไปผจญภัย จึงได้ไปขอร้องโดราเอมอนให้ช่วยหาดินแดนลึกลับเพื่อที่จะได้ไปสำรวจกัน แต่การจะหาดินแดนตกสำรวจแบบนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ เลย เรื่องนี้จึงต้องรอเวลา

แต่แล้ววันหนึ่งโนบิตะก็ไปพบกับสุนัขพลัดหลงตัวหนึ่งและเขาก็เก็บมาเลี้ยงที่บ้าน โดยตั้งชื่อให้มันว่า “เปโกะ” สุนัขตัวนี้มีความแปลกประหลาดดูไม่เหมือนสุนัขทั่วไป ต่อมาโดราเอมอนก็พบดินแดนตกสำรวจที่อยู่ในโซนป่าลึกของแอฟริกา พวกเขาจึงพากันออกไปผจญภัยพร้อมกับพาเจ้าเปโกะไปด้วย

การเดินทางในครั้งนี้มีอุปสรรคมากมาย ถึงขนาดจอมโหดอย่างไจแอนท์ยังเกือบจะถอนตัว ยิ่งสำรวจยิ่งพบอะไรที่แปลกลึกลับ และ ณ ดินแดนประหลาดนี่เองที่เป็นเปิดเผยว่าเจ้าเปโกะแท้ที่จริงไม่ใช่สุนัขธรรมดาอย่างที่เข้าใจกัน

ตอนตะลุยแดนมหัศจรรย์นี้เป็นโดเรมอนเดอะมูฟวี่อีกหนึ่งตอนที่หลายคนชอบมาก มีความคลาสสิกและหลายคนอ่านแล้วดูแล้วก็ยังนำกลับมาดูอีกเรื่อย ๆ เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต้องติดตามกันเอง

3. โดเรมอนเดอะมูฟวี่ ตอนผจญภัยใต้สมุทร

ในโดเรมอนเดอะมูฟวี่ตอนนี้ไจแอนท์และซูเนโอะได้ไปพบเจอข่าวเรื่องการค้นพบทองในเรือลำหนึ่งที่เรียกกันว่าเรือปีศาจ พวกเขาเกิดแรงบันดาลใจอยากลองผจญภัยในโลกใต้ท้องทะเลดูบ้าง จึงไปขอให้โดราเอมอนช่วย และโดราเอมอนได้เอาของวิเศษออกมา พาทุก ๆ คนไปเที่ยวใต้ท้องทะเล แต่การเดินทางท่องเที่ยวครั้งนี้ ไม่มีใครคาดฝันว่าจะเจอความลึกลับใหม่

ที่โลกใต้ทะเลกลับมีบุคคลอีกกลุ่มหนึ่งอาศัยอยู่ ซึ่งพวกเขาเหล่านั้นเคยมีอาณาจักรของตนเอง แต่ก็ต้องล่มสลายลง เพราะมีบางสิ่งถูกตั้งโปรแกรมไว้ให้ทำลายอาณาจักรแห่งนี้เมื่อถึงเวลา กลุ่มของโดราเอมอนจึงต้องช่วยกันหยุดยั้งเหตุการณ์ร้าย ๆ ที่จะเกิดขึ้นนี้ แต่จะทำได้หรือไม่ ต้องไปหามาดูกัน

นี่คือ 3 ตอนสุดคลาสสิกของโดเรมอนเดอะมูฟวี่ที่บอกเลยว่าจะนำมาดูกี่ทีก็ไม่เคยเบื่อเลย มีทั้งเวอร์ชันหนังสือการ์ตูน และภาพยนต์การ์ตูน ใครคิดถึงเข้าแมวสีฟ้าตัวนี้และผองเพื่อนไปหามาชมกันได้

โดเรมอนเดอะมูฟวี่

กังฟูแพนด้า 3

เปิดยุทธจักรความฮาแบบ Nonstop ไปกับ “กังฟูแพนด้า 3”

ถ้าพูดถึงภาพยนตร์แนวแอนิเมชัน ที่โด่งดังค้างฟ้าและเป็นผลงานระดับ Hollywood แล้ว ในใจของใครหลายคนน่าจะมีอยู่หลายเรื่องแต่ ถ้าระบุให้ชัดลงไปเป็นแนวกังฟูที่แฝงความตลกและแง่คิด เชื่อว่า “กังฟูแพนด้า” น่าจะผุดขึ้นมาในใจทันที ซึ่งในกังฟูแพนด้า 3 นั้นแม้จะเป็นภาคสุดท้าย แต่ก็ยังคงไว้ซึ่งแก่นเดิมของคอนเซ็ปต์ไว้ได้อย่างชัดเจน ทั้งความสนุก และ เนื้อหาสาระสอนใจให้กับเด็กๆ

กังฟูแพนด้า 3 เนื้อเรื่องยังคงน่าติดตามไม่แพ้ 2 ภาคแรก

สำหรับงานภาค 3 ของกังฟูแพนด้านั้น ยังเป็นหนังแอนิเมชันแอคชัน ผจญภัย ผสมตลก ที่มีเนื้อเรื่องต่อเนื่องมาจาก 2 ภาคแรก โดยเนื้อหาในกังฟูแพนด้า 3 นั้นยังคงอยู่กับแพนด้าพุงพลุ้ย ที่ชื่อว่า  “โป”  ในฐานะตัวละครเอกที่เป็นนักสู้กังฟู ในภาค 3 นี้ โปได้พาเพื่อน ๆ จอมป่วน สุดยียวนกวนประสาทยกโขยงกันมากวนใจทุกคนกันทั้งหมู่บ้านแพนด้ากันอีกครั้ง

โป จากที่เคยเป็นแพนด้าที่ทำงานคอยเสิร์ฟบะหมี่ หลังจากที่ได้ไปฝึกวิทยายุทธ์กับ ซิฟู ปรมาจารย์ด้านกังฟูจนเชี่ยวชาญ วิชาแก่กล้าขึ้น ก็สามารถไปจัดการกับเหล่าศัตรูในยุทธภพได้ จนได้รับฉายาว่า “นักรบมังกร” ตามเนื้อเรื่องจากทั้งภาค 1 – 2 โดยในภาค 2 นั้นหมู่บ้านแพนด้าก็เกือบจะสิ้นชื่อไปแล้ว โชคยังดีที่เขายังคงดูแลไว้ได้

ในภาค 3 นี้ โป พลิกบทบาทอีกครั้ง จากที่เคยเป็นศิษย์วันนี้ เขาได้กลายมาเป็นอาจารย์หรือเจ้าสำนักแล้ว แต่ตัวของโปเองกลับรับตำแหน่งนี้ด้วยความไม่มั่นใจในตัวเอง ว่าจะทำหน้าที่อันยิ่งใหญ่นี้ได้ดีสักแค่ไหน ในความสับสนนี้อยู่ ๆก็เกิดเรื่องขึ้นให้ลำบากใจหนักขึ้นไปอีก เมื่อพ่อที่แท้จริงของโปปรากฎตัวขึ้น และบอกให้โปกลับไปอยู่ที่หมู่บ้านในดินแดนลับแล

ในขณะเดียวกัน เรื่องราวก็ยุ่งหนักขึ้นไปอีก เมื่อ “ไค่” อสูรร้ายมากฝีมือก็ดันมาปรากฏตัวขึ้นด้วย และได้ออกระรานยุทธภพ ถล่มสำนักกังฟูมากมาย และได้จับตัวศิษย์ร่วมสำนักของโป รวมถึงซิฟูอูเกวไปด้วย นั่นจึงกลายเป็นภารกิจและการตัดสินใจครั้งสำคัญของโป เขาจะเรียกความมั่นใจกลับมาได้อย่างไร และจะสามารถช่วยเพื่อนและอาจารย์ได้หรือไม่ ต้องไปติดตามในกังฟูแพนด้า 3

ลึกซึ้งกว่าที่คิด ให้อะไรมากกว่าความสนุก

อย่างที่กล่าวไปตอนต้นว่า คอนเซ็ปต์ของจักรวาลกังฟูแพนด้านั้น วางไว้ให้มีแอคชัน ความสนุกสนาน + ตลกขำขัน แต่ในภาค 3 นี้มีความเข้มข้นเพิ่มขึ้นในเรื่องของการเป็นหนังการ์ตูนที่ให้ข้อคิด ซึ่งไม่ว่าเด็กหรือผู้ใหญ่ก็สามารถถอดแง่คิดจากเรื่องไปใช้ได้ 

ภายในเรื่องยังสอดแทรกทั้งปรัชญาการใช้ชีวิต ปรัชญาจีนในเรื่องของหยิน -หยางและความสมดุลของชีวิต เราควรจะทำอย่างไรใช้ชีวิตแบบไหนชีวิตของเราถึงจะเกิดความสมดุล ทั้งเรื่องภาระหน้าที่ และเรื่องของครอบครัว เรียกว่าภาคนี้มีอะไรที่มากกว่าความฮา เพราะแทรกข้อคิดและคติสอนใจไว้ภายเรื่องหลายจุดเลยทีเดียว

ที่สำคัญเรื่องหนึ่งที่ได้รับเสียงชื่นชมอย่างมากเลยก็คือ การสอดแทรกเรื่องราวของมิตรภาพและความสัมพันธ์ในครอบครัว ซึ่งหลายคนที่ได้ดูแล้วต่างบอกว่า ทำออกมาได้อย่างลื่นไหลกลมกลืน แล้วรู้สึกไม่เหมือนถูกยัดเยียดให้รับรู้ในสิ่งเหล่านี้ ในทางกลับกันทีมผู้สร้างได้ทำให้เรื่องราวเหล่านี้สามารถดูได้เพลิน ไม่เป็นเรื่องที่จริงจังและดูซีเรียสเกินไป สามารถดูได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่เลยจริง ๆ

ระดมมือทองในการสร้างสรรค์งาน

สำหรับเบื้องหลัง กังฟูแพนด้า 3 นั้นยังคงระดมยอดฝีมือและคนดังเข้ามาร่วมงานอยู่ด้วยเหมือนเช่น 2 ภาคแรก ในส่วนของการกำกับนั้น ยังคงเป็น Jennifer Yuh และ Alessandro Carloni ที่รับหน้าที่ต่อมาจาก 2 ภาคแรกเช่นเคย ส่วนทีมพากย์ให้เสียงในภาค 3 นี้คนดังเพียบ ทั้ง

· Jack Black 

· Bryan Cranston

· Dustin Hoffman 

· Angelina Jolie

·  J. K. Simmons

· Jackie Chan

· Lucy Liu

· ฯลฯ

ใครที่ยังไม่มีโอกาสได้ดูกังฟูแพนด้า 3 บอกเลยว่าควรไปหามาดูเลย นี่คือภาพยนตร์แอนิเมชันที่ทำออกมาได้ดีทั้งงานภาพ ทั้งเนื้อเรื่อง และการให้เสียงพากย์ เป็นการเติบโตของเจ้าแพนด้าจอมกวนที่ทำให้เรารับรู้ได้ถึงความลงตัว คุณจะตื่นเต้นไปกับเอฟเฟกต์ต่าง ๆ ที่ทำออกมาได้ดีจริง ๆ หากคุณพร้อมรับความเฮฮาสุดหรรษาจากเหล่าแพนด้าสุดป่วน ต้องไปหามาดูเลย นอกจากเรื่องนี้แล้วก็ยังมีภาพยนต์ภาคต่ออีกหลายเรื่องที่มีเนื้อหาสนุกๆ น่าติดตาม สำหรับดูได้ทั้งเด็กและ ผู้ใหญ่ ให้ได้เลือกคุณเลือกปลดปล่อยความเครียด ใช้เวลาในเวลาว่างไปด้วยกันได้ทั้งครอบครัว อย่าง Transformer ภาคต่อ หรือ Doraemon the movie กันอีกด้วยกังฟูแพนด้า 3

กังฟูแพนด้า 2

กังฟูแพนด้า 2 ปล่อยวางจิตให้ว่าง แล้วเตรียมรับความฮากัน

จากความสำเร็จในภาคแรกจนถูกเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลลูกโลกทองคำ ทีมงาน Dreamwork Animation จึงสานต่อความสำเร็จกันต่อกับ กังฟูแพนด้า 2 ซึ่งภาคนี้ความฮา ความสนุกยังคงอยู่เช่นเดิม แต่ที่มีเพิ่มเติมคือเรื่องของปรัชญาและคติสอนใจในการใช้ชีวิต ซึ่งนี่ไม่ใช่มูฟวี่แอนิเมชัน แบบเด็ก ๆ อย่างที่หลายคนเข้าใจ เพราะผู้ใหญ่ก็ดูได้ และแถมสนุกอีกด้วย

กังฟูแพนด้า 2 เล่าเรื่องราวต่อเนื่องกับการผจญภัยของ “โป”

ในกังฟูแพนด้า 2 นี้เนื้อเรื่องดำเนินต่อเนื่องมาจากภาคแรก เจ้า “โป” แพนด้าตัวอ้วนที่ตอนนี้กลายเป็นคนดังในยุทธจักรในฐานะของนักรับมังกร ก็ต้องเจอความท้าทายครั้งใหม่ โดยเนื้อเรื่องในภาค 2 นี้ได้เริ่มต้นโดยการย้อนกลับไปในอดีตของแผ่นดินจีนในยุครุ่งเรือง ณ ตอนนั้นแผ่นดินถูกปกครองด้วยราชาและราชินีนกยูง ซึ่งมีบุตรชายมีนามว่า “เชน”

เชน นั้นแตกต่างจากพ่อและแม่ของเขา ในใจของเขาเต็มไปด้วยความมืดบอด ทำให้เขาลุ่มหลงมัวเมาในอำนาจ เขาจึงทำแต่ความชั่วร้ายต่าง ๆ ออกแสวงหาอำนาจโดยการไปทำลายเผ่าพันธุ์อื่น และที่แย่ที่สุดคือเขาได้ขยายอำนาจไปรุกรานเผ่าพันธุ์แพนด้าด้วย นั่นจึงเชื่อมโยงเรื่องราวเข้ามาเกี่ยวข้องกับ “โป”

จากพฤติกรรมด้านมืดของบุตรชาย ราชาและราชินีนกยูงถึงกับรับไม่ได้และได้ขับไล่เชนออกจากเมือง เชนไม่สำนึกผิดแต่กลับเก็บความแค้นไว้ในใจลึก ๆ และรอวันที่จะกลับมาทวงทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาคิดว่าเป็นของเขาคืน และแล้ววันนั้นก็มาถึง

เชนรวบรวมสรรพกำลังจากกองกำลังหมาป่า และกลับมารุกรากเผ่าพันธุ์ต่าง ๆ อีกครั้ง เขาได้สังหารอาจารย์กังฟูท่านหนึ่งไป ข่าวร้ายนี้ได้แพร่กระจายไป และไปถึง ซิฟู นั่นจึงนำมาซึ่งภารกิจการต่อสู้ผดุงความยุติธรรมอีกครั้งของเหล่าบรรดายอดกังฟู อันมีโป ไทเกรส เจ้านกกระเรียน เจ้าตั๊กแตน เจ้าลิง และอสรพิษ การต่อสู้นี้จะลงเอยแบบไหน คงต้องหามาดูกันล่ะ

ยอดเยี่ยมไม่ใช่แค่วรยุทธ์และความฮา

สิ่งหนึ่งที่กังฟูแพนด้า 2 สอดแทรกไว้ในการดำเนินเรื่องอยู่เสมอ และทำได้ลื่นไหลมาก ๆ ก็คือ การฝากคติธรรมและข้อคิดในการดำเนินชีวิต ซึ่งในภาค 2 นี้ มีแง่คิดอยู่หลายเรื่องทีเดียวตั้งแต่เรื่องของ การทำทุกสิ่งทุกอย่างที่คิดว่าทำไม่ได้ให้เป็นจริงได้ แค่เริ่มต้นจากการ “ปล่อยวาง” เรื่องความสามัคคี เรื่องของความโลภ เรื่องของความกตัญญู มิตรภาพและเรื่องของครอบครัว

ที่หลายคนยกย่องก็คงเป็นเรื่องของความรักและเรื่องของครอบครัว แง่คิดในภาคนี้ได้สอดแทรกไว้พร้อมกับการไขปมปริศนาที่มาจากภาคแรก ที่เราต่างทราบกันว่า โปเป็นแพนด้า แต่ผู้เป็นบิดากลับเป็นห่านคอยาวหาใช่แพนด้าที่เป็นสายพันธุ์เดียวกัน ในภาคสองนี้ได้มีการเฉลยเรื่องราวตรงนี้ไว้ ว่ามิสเตอร์พิงไม่ใช่พ่อแท้ ๆ ของโป 

มิสเตอร์พิงไปพบโปเข้าโดยบังเอิญ แม้จะต่างสายพันธุ์แต่เขาก็ยังมีเมตตาต่อสรรพชีวิตที่แตกต่างจากเขา นั่นทำให้เขามอบความรักความเอ็นดูให้กับเสี่ยวโปและปฏิบัติหน้าที่เลี้ยงดูโปเป็นลูกชายเรื่อยมานั่นเอง

ยังคงเป็นภาพยนตร์แอนิเมชันที่ทำรายได้สูง

ในกังฟูแพนด้าภาคแรกนั้นก็เรียกว่ากวาดรายได้ไปอย่างถล่มทลาย เมื่อมาต่อกันที่ภาค 2 แอนิเมชันเรื่องนี้ก็ยังคงแรงไม่หยุด ในสัปดาห์แรกที่เปิดตัวในอเมริกามูฟวี่แอนิเมชันเรื่องนี้ก็ทำรายได้สูงถึง 5.8 ล้านดอลลาร์แล้ว และเมื่อมาสำรวจตลอดช่วงที่ภาพยนตร์ฉายในสหรัฐฯและแคนาดาก็กวาดรายได้ไปสูงถึง 165.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

เท่านั้นยังไม่พอกังฟูแพนด้า 2 ได้มีการฉายไปในหลายภูมิภาคทั่วโลก ซึ่งก็ทำรายได้สูงมากทีเดียว เมื่อรวมแล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้กวาดรายได้ไปทั้งหมดราว 665.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐเลยทีเดียว สะท้อนถึงความสำเร็จอย่างล้นหลามของภาคต่อในเรื่องนี้

ใครที่ยังไม่เคยดูกังฟูแพนด้า 2 ขอแนะนำเลยว่าให้ลองหามาดู เรื่องนี้ไม่ใช่แค่ภาพยนตร์การ์ตูนอย่างที่ตาคุณเห็น เพราะเนื้อเรื่องภายในบอกเลยว่าดูได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ แม้จะมีเรื่องราวสาระสอนใจแต่ก็หนีไม่พ้นความฮาที่มีอยู่ในทุกตัวละครหลักของเรื่อง ลองปล่อยวางจิตคุณจากเรื่องหนัก ๆ ในชีวิตและใช้เวลาไปกับภาพยนตร์เรื่องนี้ดู รับรองสนุกกว่าที่คิดเยอะเลย

นอกจากนี้ก็ยังมีภาพยนต์อีกหลากหลายเรื่อง ที่ทั้งสนุก มีเนื้อหาสาระที่เรียกได้ว่าทั้งเด็กดูได้ และ ผู้ใหญ่ดูดี ที่จะมาช่วยเสริมสร้างจินตนาการ เพิ่มความสนุก ในช่วงเวลาพักผ่อนของคุณและ ครอบครัว ลองคลิกดูที่กังฟูแพนด้า 2

เครื่องกรองน้ำ

อยากซื้อเครื่องกรองน้ำไว้ที่บ้าน แต่เป็นมือใหม่ ควรเลือกอย่างไรดี

ถึงแม้เราจะได้รับคำยืนยันว่าน้ำประปาบริโภคได้ก็จริง แต่ก็ยังรู้สึกไม่แน่ใจสักเท่าไหร่ เพราะมีหลายครั้งที่น้ำประปาอาจมีสิ่งปนเปื้อนอยู่ด้วย ซึ่งอาจเกิดขึ้นจากกระบวนการส่งน้ำหรือความผิดพลาดบางประการ นั่นจึงทำให้หลาย ๆ คนคิดว่าควรซื้อ เครื่องกรองน้ำ มาไว้ใช้ที่บ้าน แต่ด้วยความเป็นมือใหม่ ไม่รู้จะเลือกซื้อแบบไหนดี ทำให้ไม่กล้าตัดสินใจ ครั้งนี้เราจึงมีคำแนะนำมาฝาก

เครื่องกรองน้ำ จะซื้อให้ตรงความต้องการก็ควรรู้จักประเภท

ในปัจจุบันเครื่องกรองน้ำที่มีวางจำหน่ายกันอยู่ทั่วไปนั่นไม่ได้มีอยู่ประเภทเดียว ซึ่งการที่มีหลายประเภทนี่เองที่ทำให้เรามักเลือกกันไม่ถูกว่า เราควรใช้แบบไหนดี ดังนั้น เราควรมีทำความรู้จักประเภทที่กรองน้ำกันก่อน ซึ่งจะมีอยู่ 3 ประเภทดัวยกันคือ

1.ระบบ Reverse Osmosis

โดยทั่วไปแล้ว เราจะเรียกกันสั้น ๆ ว่า เครื่องกรองน้ำ ro ประเภทนี้จะเป็นเครื่องที่มีระบบกรองแบบความละเอียดสูง ซึ่งจะสามารถกรองได้ละเอียดถึง 5 ขั้นตอนเลยทีเดียว นั่นทำให้เครื่องกรองระบบนี้จะมีความซับซ้อนในระบบการกรองมากพอสมควร แต่ในด้านประสิทธิภาพการกรองนั้นก็ถือว่าดีที่เดียว สามารถกรองได้สะอาดถึง 99.99% เรียกว่ากรองสะอาดจนได้น้ำบริสุทธิ์จริง ๆ

อย่างไรก็ตามแม้เครื่องกรองน้ำ ro จะกรองได้ละเอียดมาก แต่นั่นก็มีส่วนทำให้แร่ธาตุในน้ำบางอย่างที่จำเป็นต่อร่างกายสูญเสียไปในระหว่างการกรองด้วย ตรงนี้จึงต้องพิจารณาด้วยว่าคุณต้องการในเรื่องไหนมากกว่ากัน

2.ระบบ Ultra Violet

เป็นเครื่องกรองในระบบ UV โดยภายในจะมีหลอดไฟ UV ฉายแสงทำการกรองสิ่งสกปรก เชื้อโรคและสิ่งปนเปื้อนต่าง ๆ ในน้ำออกมา แบบนี้ให้ความสะอาดบริสุทธิ์ของน้ำได้ดีและยังคงเรื่องของแร่ธาตุในน้ำเอาไว้ได้ด้วย สามารถใช้ได้ทั้งครัวเรือนหรือในอาคารสำนักงานต่าง ๆ 

3.ระบบ Ultrafiltration

เป็นเครื่องกรองในระบบ UF ซึ่งเป็นระบบที่พัฒนาต่อยอดมาจากเครื่องกรองในระบบ UV อีกที ระบบการกรองแบบนี้จะกรองได้ละเอียดมากขึ้น สามารถดักจับสิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ ได้ดีมากขึ้น แม้แต่สิ่งปนเปื้อนที่เล็กขนาด 0.01 ไมครอน ก็สามารถที่จะดักจับได้ ช่วยทำให้น้ำสะอาดบริสุทธิ์ โดยยังคงแร่ธาตุในน้ำไว้ได้เหมือนเดิม

ไส้กรองเป็นอีกสิ่งที่ต้องเลือก

นอกจากประเภทและระบบของเครื่องกรองแล้ว อีกส่วนหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันสำหรับการพิจารณาเลือกซื้อเครื่องกรองน้ำก็คือ ส่วนของไส้กรอง ซึ่งจริง ๆ แล้วจะมีให้เลือกเยอะมาก ทั้ง

· ไส้กรองแบบคาร์บอน – ได้รับความนิยมสูงสุด ใช้ได้กับเครื่องกรองทุกประเภท อายุการใช้งานประมาณ 1 ปี

· ไส้กรองแอนทราไซต์ – ทำมาจากถ่านหิน น้ำหนักเบา ช่วยกรองพวกตะกอนโคลน สนิมเหล็กต่าง ๆ ได้ดี อายุการใช้งานประมาณ 1 ปี

· ไส้กรองเรซิ่น – แบบนี้จะเด่นเรื่องของการลดความกระด้างของน้ำ อายุการใช้งานประมาณ 6 – 8 เดือน

· ไส้กรองทรายปะการัง – แบบนี้จะโดดเด่นในเรื่องของการช่วยเพิ่มค่า PH ในน้ำอายุการใช้งานประมาณ 1 ปี

และยังมีไส้กรองอีกหลากหลายแบบมาก ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีความโดดเด่นและคุณสมบัติเฉพาะตัว เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่คุณต้องเลือกด้วย

องค์ประกอบอื่น ๆ ที่ต้องพิจารณาในการเลือกซื้อ เครื่องกรองน้ำ

นอกจากประเภทและตัวไส้กรองแล้ว การจะเลือกซื้อเครื่องกรองน้ำให้ตอบโจทย์คุณมากที่สุดก็จะต้องพิจารณารายละเอียดแวดล้อมร่วมกันไปด้วยทั้งเรื่องของ

· สภาพของน้ำ – คุณภาพของน้ำในแต่ละพื้นที่นั้นจริง ๆ มีความแตกต่างกัน จึงจำเป็นต้องใช้เครื่องกรองน้ำที่มีคุณภาพ และ วิธีที่ต่างกัน

· ขนาดของเครื่องกรอง – ต้องดูจำนวนสมาชิกภายในบ้านและความถี่ในการใช้น้ำ ถ้าสมาชิกน้อย ใช้กรองเฉพาะน้ำดื่มเท่านั้น เครื่องเล็กหรือขนาดกลางก็คงเพียงพอแล้ว  เนื่องจากหากคนเยอะแต่ซื้อเครื่องขนาดเล็กปริมาณการกรองต่อครั้งอาจไม่เพียงพอ และ ปริมาณการใช้น้ำที่เยอะเกินขนาดเครื่องกรองอาจทำให้ต้องเปลี่ยนไส้กรองบ่อย

· มาตรฐานการรับรอง – แนะนำว่าไม่ควรเน้นเรื่องราคาถูกแต่ควรเน้นที่ได้มาตรฐานรับรองจาก ISO 9001 หรือได้รับสัญลักษณ์ของ NFS เคียงคู่ด้วยจะดีที่สุด

เกณฑ์มาตราฐานน้ำทุกชนิด

ลองมาดูข้อมูลเพิ่มเติม เรื่องเกณฑ์มารตรฐานน้ำทุกชนิดของประเทศไทยที่เราใช้กันอยู่ในปัจจุบัน ว่ามีข้อกำหนดอะไรบ้าง

-เกณฑ์คุณภาพน้ำดื่มของ WHO (ปี 2527)

-เกณฑ์คุณภาพน้ำบริโภคในชนบท*

-เกณฑ์คุณภาพน้ำประปา กรมอนามัย (ปี 2543)**

*กำหนดโดยคณะกรรมการบริหารโครงการจัดให้มีน้ำสะอาดในชนบททั่วราชอณาจักร **ประกาศกรมอนามัย เรื่องเกณฑ์คุณภาพน้ำประปา ปี2543 ***กำหนดให้มีปลายท่อ 0.2 – 0.5 mg/L ใช้ในระบบการเฝ้าระวังคุณภาพน้ำประปา

ตอนนี้เชื่อว่าคุณพ่อบ้านแม่บ้านน่าจะได้ข้อมลหรือหลักในการพิจารณาการเลือกซื้อเครื่องกรองน้ำกันไปพอสมควรแล้ว และคงจะช่วยทำให้รู้วิธีในการเลือกซื้อให้เหมาะสมตรงกับการใช้งานกันมากขึ้นแล้ว อย่างไรก็ดี ก็ควรจะพิจารณาเรื่องของงบประมาณที่ตนเองมีไว้ด้วย แนะนำว่าให้เลือกให้สอดคล้องกับงบประมาณด้วยก็จะเกิดความเหมาะสมมากยิ่งขึ้น

สามารถติดตามเนื้อหาสาระดีๆ ที่จะช่วยให้ชีวิตประจำวันของคุณสะดวกสบายได้มากยิ่งขึ้น รวมถึงอัพเดทบทความไลฟ์สไตล์ ใหม่ๆที่น่าสนใจได้ได้ทุกอาทิตย์กับเราที่นี่

เครื่องกรองน้ำ

หูฟัง z8

หูฟัง z8 Bone Conduction จาก Eenten นวัตกรรมหูฟังดีไซน์สปอร์ตยุค 2020

Headphones หรือหูฟัง จัดว่าเป็นหนึ่ง Gadget ที่สำคัญและมีความจำเป็นต่อไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของคนยุคนี้ไปแล้ว ซึ่งปัจจุบันหูฟังที่กำลังเป็นกระแสและได้รับความสนใจกันมากก็คือ หูฟัง z8 อันเป็นหูฟังไร้สายแบบ Bone Conduction หูฟังสไตล์นี้มีความเจ๋งตรงไหน และถ้าจะเลือกซื้อต้องดูอย่างไรมาพบคำตอบกัน

Bone Conduction Headphones นวัตกรรมเพื่อไลฟ์สไตล์ยุคสมัย

หูฟังแบบเดิม ๆ ส่วนมากแล้วดีไซน์ของตัวบอดี้ดูค่อนข้างเรียบ มีขนาดใหญ่ สวมใส่ลำบากและมีน้ำหนักเยอะ แถมมีสายที่ดูเกะกะ ทำให้มีปัญหาในการพกพาและจัดเก็บไม่น้อย และยิ่งยุคนี้เป็นยุคที่เน้นการเชื่อมต่อที่ไร้สายด้วย วันนี้จึงเกิดหูฟังไร้สาย z8 Bone Conduction Headphones ที่เราเห็นกันอยู่ขึ้นมา ซึ่งนับเป็นนวัตกรรมหูฟังแบบใหม่ที่เฉียบทั้งดีไซน์และการใช้งาน

เทคโนโลยีการส่งสัญญานเสียงที่แตกต่าง

หูฟังแบบ z8 Bone Conduction เป็นหูฟังบลูทูธไร้รุ่นหนึ่ง แต่สิ่งที่ทำให้หูฟังแบบนี้พิเศษและแตกต่างจากหูฟังไร้สายแบบทั่วไปก็คือ เรื่องของเทคโนโลยีที่ใช้ 

Headphones ตัวนี้มีความพิเศษแตกต่างตรงที่ “ผู้ใช้งานสามารถได้ยินเสียงเพลงจากหูฟังโดยไม่ต้องสอดเข้าไปในหู” เพราะมีการใช้เทคโนโลยีใหม่ในการช่วยให้ตัวหูฟังสามารถส่งคลื่นความถี่เสียงผ่านกระดูก และจากกระดูกของเราก็จะส่งต่อไปยังประสาทรับเสียงที่สมองของเรา ทำให้เราได้ยินเสียงเพลงและเสียงพูดต่าง ๆ ได้นั่นเอง

หูฟัง z8 นวัตกรรมที่ปลอดภัยมั่นใจได้

หลายคนอาจจะกังวลว่า หูฟังที่ทำการส่งสัญญาณความถี่เสียงผ่านกระดูกแบบนี้ หากใช้ไปนาน ๆ จะส่งผลอะไรต่อร่างกายหรือเปล่า และจะเป็นอันตรายไหม ก็ต้องบอกว่าวางใจในเรื่องนี้ได้เลย นวัตกรรมหูฟังแบบใหม่นี้แท้ที่จริงแล้วเป็นการนำหลักการของเครื่องช่วยฟังของผู้สูงอายุมาประยุกต์ใช้ ซึ่งเทคโนโลยีนี้ก็มีมานานแล้ว

อีกทั้งเมื่อนำมาพัฒนาออกมาเป็นหูฟังบลูทูธแล้ว หลาย ๆ ค่ายอย่างค่าย Eenten ก็มีการวิจัยและทดสอบซ้ำอีกครั้งเพื่อดูผลลัพธ์การใช้งานว่าปลอดภัยและไม่ส่งผลต่อร่างกายจริงหรือไม่ ซึ่งผลลัพธ์ที่ออกมาก็ยืนยันได้ว่าปลอดภัยและไม่ส่งผลต่อร่างกายอย่างแน่นอน

นอกจากหูฟัง Eenten z8 นั้นจะมีการทดสอบว่าปลอดภัยแล้ว ยังส่งผลดีต่อแก้วหูของเราอีกด้วย เพราะหูฟัง z8 นั้นไม่ต้องสอดเข้าไปในหู นั่นหมายความว่าเสียงนั้นจะไม่ผ่านแก้วหู เมื่อสัญญาณเสียงไม่ผ่านหูชั้นนอกและชั้นกลาง จึงทำให้เป็นการถนอมแก้วหูของเราไปในตัวด้วยนั่นเอง ถือว่านวัตกรรมใหม่ที่น่าสนใจและใช้งานสะดวกมากเลยทีเดียว

เหมาะกับการใช้งานแบบไหน

หูฟังแบบนี้ส่วนใหญ่จะดีไซน์ออกมาให้เป็นแนวสปอร์ต เล็กกะทัดรัด ไม่เทอะทะ เหมาะสมกับการใช้งานในเวลาออกกำลังกาย เป็นหูฟังที่เหมาะมากกับไลฟ์สไตล์แบบเคลื่อนไหว จะขยับร่างกายอย่างไรก็ไม่ต้องกังวลใจเกี่ยวกับสายหูฟังที่เกะกะ

แต่ด้วยหูฟังแบบนี้ไม่ต้องสอดเข้าไปในรูหู ทำให้หูของเรายังคงรับเสียงจากภายนอกได้ ทำให้หลายคนอาจสงสัยว่าแบบนี้ก็ไม่ปิดกั้นเสียงภายนอกน่ะสิ ถูกต้อง เสียงบรรยากาศรอบนอกนั้นเรายังคงได้ยินสลับกับเสียงเพลงจากหูฟังแน่นอน แต่นั่นกลับเป็นข้อดีที่หลายคนอาจมองข้ามไป

ขณะที่เราออกกำลังกายอย่างวิ่ง หรือปั่นจักรยานไปในที่ต่าง ๆ เราควรจะได้ยินเสียงบรรยากาศรอบข้างด้วย บางทีรถกำลังมา มีเสียงบีบแตรให้เราระวัง ถ้าเราใส่หูฟังที่ปิดเสียงรบกวนจากภายนอกทั้งหมดก็จะทำให้เราไม่ได้ยินเสียงดังกล่าวทำให้เราไม่ปลอดภัย 

แต่สำหรับใครที่ต้องการสมาธิในการออกกำลังกาย ก็ไม่ต้องกังวลใจ หูฟังแบบนี้อย่างของค่าย Eenten z8 ก็มีการเพิ่มฟังก์ชันตัดเสียงรบกวนจากภายนอกที่มีในหูฟังระดับ Hi-End เพิ่มมาให้ด้วย ใครต้องการความเป็นส่วนตัวก็บอกเลยว่าไร้ปัญหา

ก็ต้องบอกเลยว่า Bone Conduction Headphones เป็นนวัตกรรมหูฟังดีไซน์สปอร์ตที่พัฒนาตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนในยุค 2020 จริง ๆ หากคุณอยากลองสัมผัสกับนวัตกรรมการฟังเพลงแบบใหม่และยังไม่รู้จะเริ่มจากแบรนด์ไหน อาจจะเริ่มต้นกับหูฟัง Eenten z8 ดูก็ได้ แล้วคุณจะพบกับประสบการณ์ในการฟังเพลงแบบใหม่

พบกับบทความสินค้าเทคโนโลยี และ ไลฟ์สไตล์ ใหม่ได้ที่นี่เลย

หูฟัง z8