หม้อหุงข้าว

พาไปดูการทำงานของหม้อหุงข้าวสมัยใหม่ ทำอะไรได้บ้าง? แบบไหนที่เหมาะกับคุณ?

ข้าว เป็นอาหารหลัก ที่คนไทยเรามักจะทานกันในเกือบทุก ๆ มื้อ เพราะเป็นอาหารที่ให้พลังงานสูง ช่วยให้อิ่มท้อง และ พร้อมสำหรับทำกิจกรรมต่าง ๆ ในหลาย ๆ บ้าน โดยเฉพาะบ้านที่ทำอาหารทานเอง จึงมักจะมีเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว อย่าง หม้อหุงข้าว อยู่ด้วยเสมอ ซึ่งในปัจจุบันนี้ หม้อหุงข้าวก็มีให้เลือกมากมาย หลายขนาด รวมถึงยังมี หลายฟังก์ชันที่ช่วยอำนวยความสะดวก หลากหลาย ส่วนจะมีแบบไหนบ้าง และสะดวกสบายอย่างไร ไปดูกันเลย

ประเภทของหม้อหุงข้าว แต่ละประเภททำงานอย่างไร แบบไหนที่นิยมใช้?

· แบบธรรมดา หรือแบบฝาเปิด เป็นหม้อหุงข้าวไฟฟ้าแบบฝาเปิดที่มีการใช้กันมานานแล้ว และ ยังนิยมใช้งานอยู่ในปัจจุบันนี้ มีให้เลือกตั้งแต่ขนาดเล็ก จนถึงขนาดใหญ่ แต่ขนาดเล็กจะเป็นที่นิยมมากกว่าเพราะพกพาได้สะดวก ขนาดกะทัดรัด เหมาะสำหรับ 1 – 2 คน นิยมใช้งานตามหอพัก หุงได้เร็ว และมีราคาไม่แพง โดยราคาจะอยู่ที่ประมาณหลักร้อยต้น ๆ เท่านั้นเอง ส่วนขนาดใหญ่ มักจะใช้กันตามร้านขายอาหาร เนื่องจากสามารถหุงได้ในปริมาณเยอะๆ

· แบบฝาล็อค เป็นประเภทที่นิยมใช้งานกันมากที่สุด ออกแบบฝามาเป็นระบบล็อค ทำให้ปิดหม้อได้สนิท และช่วยให้ข้าวสวย ด้านในร้อนได้นานและน่าทาน ส่วนมากนิยมใช้ขนาดใหญ่ประมาณ 2 – 3 ลิตร เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีสมาชิกหลายคน มีความจุให้เลือกหลายขนาด วัสดุด้านนอกกันความร้อนได้ ช่วยป้องกันเวลาเด็ก ๆ ไปจับได้ 

· แบบดิจิทัล เป็นประเภทที่นิยมใช้ในปัจจุบันนี้ เพราะมีฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย ใช้หุงข้าวได้หลายประเภท และ ยังใช้ทำอาหารได้ด้วย แต่จะมีราคาที่สูงกว่าชนิดอื่น ๆ หุงข้าวได้เม็ดเรียงตัวสวย และ น่ารับประทาน เหมาะสำหรับคนที่ชอบความสะดวกสบาย อยู่คอนโด หอพัก เพราะสามารถนำมาทำอาหารเมนูต่าง ๆ ได้ทั้งคาวและหวาน

หม้อหุงข้าว สมัยนี้ทำอะไรได้บ้าง มีฟังก์ชันไหนที่น่าสนใจบ้าง?

· มีโปรแกรมหุงข้าวอัตโนมัติหลายประเภท ไม่เพียงแต่ข้าวสวยที่สามารถหุงได้ แต่ข้าวกล้อง ข้าวเหนียว ข้าวต้ม และโจ๊กก็สามารถทำได้เช่นกัน มีโปรแกรมหุงอัตโนมัติช่วยให้ได้ข้าวชนิดต่าง ๆ ที่เม็ดเรียงตัวสวย ขึ้นหม้อ และน่ารับประทาน 

· อุ่นอัตโนมัติ มีโปรแกรมอุ่นข้าวอัตโนมัติ ที่จะช่วยอุ่นข้าวหรืออาหารในหม้อ ให้ร้อนนาน และน่าทานมากยิ่งขึ้น

· มีสัญญาณเตือนเมื่อข้าวสุก เมื่อข้าวสุกจะมีเสียงสัญญาณดังขึ้นเพื่อแจ้งให้ทราบว่าข้าวสุกแล้ว ทำให้ไม่ต้องรอนานหรือเดินไปดูบ่อย ๆ แตกต่างจากหม้อทั่วไปที่จะได้ยินเพียงแค่เสียงเด้งเท่านั้น

· ตั้งเวลาหุงล่วงหน้าได้ หากใครที่อยู่ข้างนอกแล้วกลัวว่าจะกลับไปหุงข้าวไม่ทันก็สามารถตั้งเวลาหุงข้าวเอาไว้ก่อนได้ สามารถตั้งเวลาล่วงหน้าได้นานถึง 24 ชั่วโมง ทำให้ไม่ต้องมานั่งรอข้าวสุกนาน ๆ เมื่อกลับมาถึงบ้านแล้ว ก็สามารถทานข้าวได้เลย

· กระจายความร้อนได้อย่างทั่วถึง หม้อระบบดิจิทัลจะมีระบบการหุงข้าว ที่สามารถกระจายความร้อนไปได้ทั่วทั้งหม้อ ทำให้ข้าวสุกเสมอกันทุกเม็ดทั้งด้านบน และด้านล่าง ช่วยให้เม็ดข้าวสวยเสมอกัน และดูน่ารับประทาน

· ทำอาหารได้หลายเมนู นอกจากการใช้หุงข้าวแล้วยังสามารถใช้ทำอาหารหรือขนมได้ด้วย เช่น อาหารประเภทตุ๋น เค้ก ขนมปัง หรือเบเกอรี่ชนิดต่าง ๆ 

· ช่วยรักษาอุณหภูมิของข้าวให้อุ่นได้นานหลายชั่วโมง เมื่อข้าวสุกแล้ว หม้อก็ยังสามารถรักษาความร้อนของข้าวไว้ต่ออีกได้หลายชั่วโมง มีระบบกักเก็บความร้อนที่ดี มีช่องระบายไอน้ำ ช่วยให้ไอน้ำไม่ระเหยลงหม้อหรือทำให้ข้าวบูดง่าย

· ควบคุมการทำงานผ่านแอปพลิเคชันได้ สามารถควบคุม และติดตามการทำงานของ หม้อหุงข้าว ผ่านแอปพลิเคชันในสมาร์ทโฟนได้ เพียงดาวน์โหลดแอปพลิเคชันก็หุงข้าวได้สะดวกสบายมากขึ้นแล้ว

· หน้าจอ LCD แสดงตัวเลขชัดเจน มีหน้าจอ LCD ที่ออกแบบมาให้ใช้งานได้อย่างสะดวก ช่วยให้มองเห็นตัวเลขได้ชัด รวมถึงการใช้งานโปรแกรมต่าง ๆ ด้วย

· เลือกฟังก์ชันการทำงานต่าง ๆ ได้ง่ายด้วยปุ่มกด ที่หม้อจะมีปุ่มโปรแกรมต่าง ๆ ให้เลือกกดใช้งาน เพียงปลายนิ้วกดปุ่ม หม้อก็เริ่มทำงานแล้ว

และนี่คือความทันสมัยของ หม้อหุงข้าว สมัยใหม่ หรือหม้อระบบดิจิทัล หากใครที่ชอบความสะดวกสบายไม่ควรพลาดเลย แต่หากใครที่ต้องการหม้อราคาประหยัด ใช้งานง่าย และใช้เวลาหุงข้าวไม่นาน ระบบฝาเปิดกับระบบฝาล็อคก็ตอบโจทย์ได้ดี คุ้มค่าทีเดียว

อ่านบทความ และ สาระความรู้ดีๆเกี่ยวกับเคล็ดลับการเลือกซื้ออุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า บ้าน และ ที่อยู่อาศัยกับเรา ได้ที่นี่

หม้อหุงข้าว

โต๊ะทํางาน

5 สิ่งสำคัญที่บอกว่าทำไมเราถึงควรเลือกและจัด โต๊ะทํางาน

การทำงานเป็นช่วงเวลาที่เราต้องใช้สมาธิสูง หากมีอะไรมารบกวนก็จะทำให้เสียสมาธิได้ และหนึ่งในสิ่งที่มีผลต่อการทำงานของหลาย ๆ คนคือ โต๊ะทํางาน ที่หากเลือกไม่เหมาะกับประเภทของการใช้งานก็จะส่งผลต่อการทำงานได้ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นนั่งแล้วไม่สบาย ปวดหลังปวดคอ ทำงานไม่ถนัดเพราะของบนโต๊ะที่มากจนเกินไป หันโต๊ะผิดทิศทำให้มีแสงรบกวน นอกจากนี้ยังรวมถึงเรื่องฮวงจุ้ยด้วย วันนี้เราจึงจะมาบอกกันว่าทำไมเราถึงควรเลือกและจัดโต๊ะนั่งทำงานให้ถูกต้อง มีผลต่อการทำงานอย่างไร

5 เหตุผลที่ควรใส่ใจเรื่องการเลือกและจัดโต๊ะทํางาน

1. มีหลายประเภท ควรเลือกให้เหมาะกับการใช้งาน ในการเลือกควรดูก่อนว่าต้องการนำไปใช้งานประเภทไหนเพราะโต๊ะแต่ละประเภทออกแบบมาให้มีประโยชน์ใช้งานที่ไม่เหมือนกัน โดยโต๊ะทำงานแบบโล่งหรือโต๊ะแบบเปิดหน้า จะเป็นโต๊ะที่เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป โดยโต๊ะลักษณะนี้จะให้ความรู้สึกที่เป็นกันเอง, ชุดโต๊ะสำนักงานแบบ L Shape หรือโต๊ะโค้งล้ายรูปตัว L เป็นโต๊ะที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ เหมาะสำหรับงานด้านกราฟิกดีไซน์ ด้านหนึ่งใช้วางคอมพิวเตอร์อีกด้านสามารถใช้ทำงานอย่างอื่นได้, โต๊ะประชุมหัวโต๊ะ เป็นโต๊ะขนาดใหญ่ที่เหมาะสำหรับการใช้ประชุมโดยเฉพาะ มีลักษณะเป็นโต๊ะวงรีหรือสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดใหญ่ ใช้นั่งประชุมได้หลายคน สามารถนั่งหัวโต๊ะได้, โต๊ะสำนักงาน เป็น เฟอนิเจอร์ออฟฟิศ ที่ออกแบบมาให้เหมาะกับการใช้งานสำนักงานโดยเฉพาะ ส่วนมากแล้วจะมาพร้อมกับฟังก์ชันเสริม เช่น ลิ้นชักวางแป้นพิมพ์ ลิ้นชักใส่ของด้านข้าง นิยมใช้ในออฟฟิศ สำนักงาน นอกจากนี้ในการเลือกยังควรเลือกขนาดที่เหมาะสมกับการใช้งานด้วย 

2. ช่วยให้มีสมาธิทำงานมากขึ้น เมื่อเลือกโต๊ะได้ถูกประเภทก็จะช่วยให้มีสมาธิในการนั่งทำงานมากขึ้นจากการใช้งานที่สะดวกสบาย ไม่ต้องคอยเสียสมาธิจากโต๊ะที่มีขนาดเล็กเกินไป หรือวางของได้ไม่เพียงพอ 

3. ช่วยลดอาการปวดหรือโรคออฟฟิศซินโดรมได้ นอกจากโต๊ะแล้วเก้าอี้ทำงานก็จำเป็นต้องใช้งานให้ถูกต้องเช่นกันทั้งชุดโต๊ะที่มาพร้อมเก้าอี้และเก้าอี้ทำงานที่เลือกซื้อเอง หากเป็นโต๊ะที่มาพร้อมกับชุดส่วนมากแล้วจะออกแบบมาให้มีความสูงพอดีกับโต๊ะเพื่อความสะดวกสบายในการนั่งทำงาน แต่หากเป็นเก้าอี้ทำงานที่เลือกซื้อเองควรเลือกที่ความสูงพอดีกับโต๊ะหรือแบบปรับระดับได้ปรับใช้ให้เหมาะสมกับโต๊ะ เมื่อนั่งแล้วระดับสายตาจะต้องอยู่ในระดับเดียวกับหน้าจอคอมพิวเตอร์ ไม่ควรนั่งสูงหรือต่ำจนเกินไป และข้อศอกควรวางอยู่ในระดับเดียวกับเดียวกับโต๊ะ ท่านี้จะช่วยให้นั่งได้สบายมากขึ้น ถูกสรีระ และช่วยลดอาการปวดจากโรคออฟฟิศซินโดรมได้

4. เลือกโต๊ะที่มีฟังก์ชันเสริมเพื่อความสะดวกในการทำงาน ฟังก์ชันเสริมต่าง ๆ เป็นสิ่งที่ช่วยให้ใช้งานได้สะดวกสบายมากขึ้น เช่น ลิ้นชักใส่ของด้านข้างที่สามารถใส่เอกสารหรืออุปกรณ์สำนักงานต่าง ๆ ได้ หรือโต๊ะแบบหน้าปิด ที่เหมาะสำหรับสุภาพสตรี ช่วยให้นั่งทำงานได้สะดวกขึ้น

5. หลักฮวงจุ้ยก็มีผลต่อการทำงานด้วยเช่นกัน การจัดโต๊ะทํางานตามหลักฮวงจุ้ยเป็นที่นิยมในทุก ๆ บริษัทหรือแม้แต่โฮมออฟฟิศเองก็ยังนิยม เพราะเป็นความเชื่อที่เชื่อว่าหากจัดได้ถูกต้องตามหลักฮวงจุ้ยแล้วจะได้รับพลังงานที่ดี จะนำพาแต่เรื่องที่ดี ๆ มาให้ เช่น โต๊ะผู้บริหาร ควรตั้งอยู่ทางด้านหลังของโต๊ะพนักงานเพื่อช่วยเสริมความมั่นคงให้กับการทำงาน และควรนั่งอยู่ในระดับที่สูงกว่าพนักงานเพื่อความมั่นคงทางด้านการเงิน เพราะเชื่อว่าเงินจะไหลจากที่สูงลงไปที่ต่ำ หากผู้บริหารได้รับสิ่งที่ดีพนักงานก็จะได้รับสิ่งที่ดีไปด้วย, ไม่ควรตั้ง โต๊ะทํางาน ไว้ติดต้นเสา เพราะตามหลักฮวงจุ้ยแล้วจะเหมือนกับการแบกรับพลังงานที่หนัก ทำให้เจอแต่เรื่องเครียด ๆ หรือมีปัญหาในการทำงาน ฯลฯ

จะเห็นว่าการเลือกและการจัดโต๊ะทํางานนั้นมีผลต่อการทำงานไม่น้อยเลย ทั้งในด้านการทำงานและทางด้านความเชื่อ หากใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับการนั่งบ่อย ๆ ก็สามารถเปลี่ยนมาเลือกโต๊ะที่เหมาะกับการทำงานของตัวเองได้ เพราะนอกจาะช่วยให้นั่งสบายขึ้นแล้วยังส่งผลดีต่อการทำงานด้วย

โต๊ะทำงาน

ลําโพง

5 ข้อเน้น ๆ ในการเลือกซื้อ ลําโพง เลือกยังไงก็ได้ในแบบที่ต้องการ

ปัจจุบันนี้ ลําโพง ได้รับความนิยมมากขึ้นเพราะไม่ได้ผลิตมาเป็นเครื่องเสียง สำหรับใช้ในงานแสดงใหญ่ ๆ เพียงอย่างเดียวเท่านั้นแต่ยังมีขนาดเล็กสำหรับพกพาที่ใครก็สามารถพกติดตัวไว้ใช้งานในที่ต่าง ๆ ได้ อีกทั้งยังออกแบบมาให้ใช้งานง่ายด้วยการเชื่อมต่อผ่านบลูทูธ ที่เพียงเปิดบลูทูธก็สามารถเล่นไฟล์เสียงต่าง ๆ จากสมาร์ทโฟนได้เลย สำหรับใครที่สนใจอยากสั่งซื้อ แต่ไม่รู้ว่าจะเลือกแบบไหนดี หรือแบบไหนที่จะเหมาะกับการใช้งานของตัวเองลองไปดู 5 ข้อนี้กันเลย ตัวช่วยที่จะช่วยให้คุณเลือกซื้อได้ง่ายยิ่งขึ้น

5 ข้อสำคัญในการเลือกซื้อ ลำโพง ไม่ใช่มือโปรก็ได้ของดีได้

1. เลือกจากประเภทการใช้งาน แบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ได้แก่ แบบไดนามิก (Dynamic) และ แบบอิเล็กโตรสแตติก (Electrostatic) โดยแบบไดนามิกจะทำงานโดยอาศัยสนามแม่เหล็กจากขดลวด เป็นชนิดที่เห็นได้บ่อย นิยมใช้ตามงานต่าง ๆ ส่วนแบบอิเล็กโตรสแตติกจะทำงานโดยอาศัยหลักการของประจุ นิยมใช้ในงานแค่บางประเภทเท่านั้น เห็นได้ไม่บ่อย ส่วนอีกประเภทที่นิยมในปัจจุบันนี้คือ ลำโพงบลูทูธ (Bluetooth Speaker) ผลิตออกมาให้เลือกหลายขนาด มีให้เลือกตั้งแต่ราคาหลักร้อยไปจนถึงหลักหมื่น

2. เลือกจากขนาด เมื่อเลือกประเภทการใช้งานได้แล้วก็เลือกจากขนาด โดยจะต้องคำนึงถึงว่าต้องการนำไปใช้งานแบบไหน หากต้องการใช้ในวงดนตรีหรือการแสดงต่าง ๆ เหมาะสำหรับแบบไดนามิกและแบบอิเล็กโตรสแตติก แต่หากต้องการใช้งานทั่วไปแบบพกพาง่ายและสะดวก เหมาะสำหรับลำโพงบลูทูธโดยมีให้เลือกตั้งแต่ขนาดจิ๋วไปจนถึงขนาดใหญ่  

3. เลือกจากกำลังการขยายเสียง (Amplifier) สำหรับขนาดจิ๋วหรือขนาดเล็กจะขยายเสียงได้ไกล 1 – 2 เมตร เหมาะสำหรับการใช้งาน 1 – 2 คน, ขนาดกลาง ขยายเสียงได้ไกลประมาณ 10 – 20 ตารางเมตร เหมาะสำหรับการใช้งาน 5 คนขึ้นไป, ขนาดใหญ่ ขยายเสียงได้ไกลประมาณ 20 – 25 ตารางเมตร เหมาะสำหรับการใช้งาน 10 คนขึ้นไป และสุดท้ายขนาดใหญ่มาก ขยายเสียงได้ไกลประมาณ 30 – 40 ตารางเมตร เหมาะสำหรับการใช้งาน 20 คนขึ้นไป เหมาะสำหรับการงานคอนเสิร์ต หรืองานแสดงต่าง ๆ 

4. เลือกจากอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ หากต้องการใช้งานนาน ๆ ควรเลือกรุ่นที่มีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ทนทาน เพราะสามารถใช้งานต่อเนื่องได้นานข้ามวันโดยไม่ต้องชาร์จเลย แต่จะมีราคาสูงกว่าแบบทั่วไปที่สามารถใช้งานได้ประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง แต่หากพูดถึงเรื่องคุณภาพแล้วแบตเตอรี่มีความจุเยอะ ก็จะช่วยถนอมแบตเตอรี่ได้มากกว่า เพราะไม่ต้องเสียบชาร์จบ่อย ๆ ทำให้แบตไม่เสื่อมง่าย อีกทั้งยังสามารถใช้เป็นแบตเตอรี่สำรอง สำหรับเสียบชาร์จแบตมือถือในตัวได้ด้วย แต่ถ้าต้องการใช้งานทั่วไปแบบเปิดฟังวันละไม่กี่ชั่วโมงก็มีให้เลือกหลายแบบเช่นกัน ราคาอยู่ที่ประมาณหลักร้อยถึงหลักพัน

5. เลือกจากดีไซน์ และ ฟังก์ชันเสริม หากเป็นคนที่ชอบกิจกรรมลุย ๆ หรือ ชอบท่องเที่ยว เหมาะสำหรับลำโพงที่สามารถกันน้ำ และกันฝุ่นได้ เพราะหากเป็นแบบทั่วไปที่กันไม่ได้จะทำให้พังง่าย นอกจากนี้ยังมีรุ่นที่มาพร้อมกับหูหิ้วที่ถือไปไหนมาไหนได้สะดวก หรือแบบล้อลากที่สามารถลากใช้งานได้แบบอเนกประสงค์ สามารถใช้เป็นเครื่องขยายเสียงในงานต่าง ๆ ได้ เช่น งานบวช งานแต่ง ฯลฯ สามารถลากไปใช้งานได้ทุกที่ที่ต้องการ

ใช้ลำโพงอย่างไรให้ใช้งานได้นาน ๆ ไม่เสื่อมสภาพไปก่อนเวลา

· เลือกใช้ให้ถูกประเภท หากเป็นรุ่นที่กันน้ำหรือกันฝุ่นไม่ได้ ควรหลีกเลี่ยงการใช้ ในบริเวณที่เสี่ยงต่อการโดนน้ำหรือฝุ่นละอองต่าง ๆ เช่น ในห้องน้ำ สระว่ายน้ำ ริมทะเล ฯลฯ

· ไม่เปิดเสียงดังจนเกินไป ควรเปิดไม่เกิน 80% ของความดังทั้งหมด เพราะหากเปิดดังเกินไปจะทำให้ลำโพงเสื่อมสภาพเร็ว หรือ ลำโพงเสียงแตกได้

· ระวังไม่ให้หล่นหรือกระแทก ควรใช้งานด้วยความระมัดระวังไม่ให้หล่นหรือกระแทกบ่อย ๆ เพราะระบบไฟฟ้า หรือ ระบบอื่นๆ อาจชำรุด เสียหายได้

· ไม่ใช้งานหนักจนเกินไป แม้จะเคลมว่าสามารถใช้งานได้นานติดต่อกันหลายชั่วโมง แต่ในความเป็นจริงก็ไม่ควรใช้งานหนักจนเกินไป ควรมีเวลาพักเครื่องบ้าง

ปัจจุบันนี้ ลำโพงได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของหลาย ๆ คนไปแล้ว เพราะสามารถพกไปใช้งานได้ทุกที่ทุกเวลา การเลือกซื้อจึงควรเลือกให้เหมาะกับการใช้งาน เพราะจะทำให้ใช้งานได้คุ้มค่ามากกว่า อีกทั้งการใช้งานให้ถูกประเภท ยังทำให้ใช้งานได้นานขึ้นด้วย

อย่าลืมติดตาม บทความเนื้อหาสาระดีๆ เกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ และ เทคโนโลยี ที่จะมาอัพเดทเทรนด์สินค้าใหม่ ๆ ไปพร้อมกับเราได้ ที่นี่

ลำโพง

ลําโพง marshall

อะไรที่ทำให้ ลําโพง marshall ได้รับความนิยมมานานกว่า 58 ปี และยังฮิตอยู่เสมอ?

สำหรับใครที่ชอบดูคอนเสิร์ตหรือวงดนตรีต่าง ๆ เชื่อว่าคงจะได้เห็น ลําโพง marshall ผ่านตากันมาบ้างแล้ว เพราะเป็นลำโพงที่นิยมใช้ในวงดนตรีสำหรับการแสดงต่าง ๆ โดยแบรนด์ Marshall ได้เริ่มจากการที่ Jim Marshall (จิม มาร์แชลล์) ที่มีความหลงใหลเกี่ยวกับเครื่องดนตรีจึงได้เปิดร้านขายเครื่องดนตรีขึ้นในปี 1962 ที่ประเทศอังกฤษ ย่าน Hanwell ต่อมาได้เล็งเห็นว่าปัญหาใหญ่ ๆ ของวงดนตรีคือการขาดเครื่องขยายเสียงที่มีคุณภาพ เขาจึงได้เริ่มผลิต Amplifier ขึ้นมาจำหน่ายในปีเดียวกัน โดยมีชื่อรุ่นว่า Number One จนมียอดขายที่ถล่มทลายและเป็นที่นิยมในเวลาไม่นาน เห็นได้จากวงร็อคชื่อดังหลายวงที่ได้ใช้สินค้าของ Marshall ในยุคนั้น ไม่ว่าจะเป็นวง The Who วงร็อคสุดดุดันจากฝั่งอังกฤษ, Jimi Hendrix (จิมิ เฮนดริกซ์) มือกีตาร์ระดับโลก และอีกมากมาย รวมถึงวงร็อคฝีมือดีจากฝั่งเกาหลีใต้ที่กำลังโด่งดังในปัจจุบันนี้อย่างวง “Day6” ที่เลือกใช้ในการแสดงคอนเสิร์ตต่าง ๆ ด้วยเช่นกัน

8 เหตุผลที่ทำให้ลําโพง marshall เป็นลำโพงอันดับต้น ๆ อยู่เสมอ

1. มีคุณภาพเสียงที่ดี สินค้าจาก Marshall ส่วนใหญ่เน้นผลิตเพื่อใช้งานกับวงดนตรี คุณภาพการใช้งานต่าง ๆ จึงออกแบบมาเป็นอย่างดี หรือเป็นระดับที่มืออาชีพหยิบไปใช้งานได้ สินค้าของ Marshall จึงมีคุณภาพดีและสามารถใช้งานได้อย่างมืออาชีพ คุณภาพสินค้าจึงแตกต่างจากสินค้าทั่วไปในท้องตลาด ทำให้เป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมทั้งในกลุ่มของนักดนตรีและคนทั่วไป โดยจุดเด่นของลําโพง marshall คือ มีเสียงเบสชัด เสียงนุ่ม แต่หนักแน่น ถือเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของมาแชลเลย

2. สามารถปรับเสียงได้ตามต้องการ ไม่ว่าจะต้องการคุณภาพเสียงแบบไหน เช่น เสียงทุ้ม เสียงแหลม ฯลฯ ก็สามารถปรับตามสไตล์ที่ชอบได้

3. เชื่อมต่อบลูทูธได้ ใช้งานง่าย พกพาสะดวก สามารถเชื่อมต่อบลูทูธเพื่อเปิดเพลงจากสมาร์ทโฟนหรือไฟล์เสียงต่าง ๆ ได้อย่างสะดวก พกพาไปใช้งานนอกบ้านได้ มีขนาดเล็กและมีน้ำหนักเบา

4. สวยงามตามสไตล์ Luxury Vintage เป็นดีไซน์ที่แค่เห็นก็รู้สึกสะดุดตาตั้งแต่ครั้งแรก เพราะผลิตออกมาให้สวยงามในสไตล์ Luxury Vintage ที่ได้ผสมผสานความคลาสสิกกับความหรูหราให้เข้ากันได้อย่างลงตัว โดยเฉพาะ Logo Marshall ที่ผลิตมาจากโลหะปั๊มด้วยสีทอง ทำให้ดูโดดเด่น มีเอกลักษณ์ 

5. มาพร้อมกับแพ็คเกจที่สวยงาม หรูหรา และทนทาน ไม่เพียงแค่เรื่องคุณภาพแต่แพ็คเกจและวัสดุต่าง ๆ ก็ยังเลือกใช้แต่ของคุณภาพดี ทำให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ไม่เสื่อมสภาพง่ายและดูเหมือนใหม่อยู่เสมอ โดยเฉพาะเคสลำโพงมาแชลที่ด้านนอกผลิตจากหนัง ส่วนด้านในบุด้วยผ้ากำมะหยี่ที่ช่วยป้องกันการขีดข่วนได้เป็นอย่างดี สามารถปรับใช้งานได้หลายทรง ส่วนแพ็คเกจเมื่อเปิดเข้าไปก็จะได้เจอกับตัวหนังสือ “EST.1962” สุดคลาสสิก

6. มีฟังก์ชันการใช้งานที่ทันสมัยและหลากหลาย เช่นโหมดประหยัดงานที่ช่วยถนอมแบตเตอรี่ได้, โหมด Power save ที่จะปิดอัตโนมัติเมื่อไม่ได้ใช้งาน, มีช่องเสียบ USB สามารถชาร์จแบตเตอรี่กับลำโพงได้ รองรับการเชื่อมต่อแบบ Optical, Bluetooth, RCA, Aux และฟังก์ชันอื่น ๆ 

7. แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ใช้งานต่อเนื่องได้นานหลายชั่วโมง มีการเลือกใช้แบตเตอรี่ขนาดใหญ่เพื่อให้ใช้งานต่อเนื่องได้นานขึ้น ซึ่งก็สามารถใช้งานต่อเนื่องได้นานถึง 1 วันกันเลยทีเดียว โดยระยะจะขึ้นอยู่กับรุ่นที่เลือกใช้

8. มีให้เลือกตั้งแต่รุ่นเล็กไปจนถึงรุ่นใหญ่ เพื่อรองรับการใช้งานลำโพงบลูทูธในทุกรูปแบบจึงมีหลายขนาดให้เลือก อาทิ Marshall Acton, Marshall Stockwell, Marshall Kilburn, Marshall Stanmore, Marshall Woburn โดยแต่ละรุ่นจะให้คุณภาพเสียงที่แตกต่างกัน

และนี่คือเหตุผลที่ทำให้ลําโพง marshall ได้รับความนิยมมาจนถึงปัจจุบันนี้ ซึ่งก็ไม่ได้มีแค่เฉพาะในกลุ่มนักดนตรีเพียงอย่างเดียว แต่คนทั่วไปก็นิยมใช้งานด้วยเช่นกันเพราะเป็นลำโพงที่มีคุณภาพดี สวยงาม ทนทาน และใช้งานได้นาน สำหรับใครที่อยากได้ลำโพงดี ๆ สักตัวหนึ่ง Marshall ก็ถือเป็นตัวเลือกที่ดีและหลายคนแนะนำ เพราะจะช่วยให้คุณได้ฟังเพลงในระดับที่นักดนตรีฟังกันว่าแท้จริงแล้วเป็นอย่างไรและทำไมใคร ๆ ถึงเลือกใช้ ซึ่งก็สามารถสั่งซื้อออนไลน์ได้แล้ว มีให้เลือกหลายรุ่น และ มีสีให้เลือกทั้งดำ ขาว น้ำตาล เป็นต้น

ลําโพง marshall

เครื่องชงกาแฟ

4 เครื่องชงกาแฟที่เหมาะสำหรับการใช้งานในบ้าน ชงเองได้ ไม่ยุ่งยาก

กาแฟ เป็นเครื่องดื่มยอดฮิตที่นิยมดื่มกันทั่วโลก เพราะมีกลิ่นหอมและมีให้เลือกหลายรสชาติ มีคาเฟอีน (caffeine) ช่วยให้รู้สึกหายง่วง โดยคาเฟอีนจะไปปิดกั้นสารสื่อประสาทชนิดหนึ่ง ซึ่งส่งผลให้ปริมาณของสารสื่อประสาทชนิดอื่น ๆ อย่างโดปามีน (dopamine) และ นอร์อิพิเนฟริน (norepinephrine) เพิ่มสูงขึ้น จนทำให้มีการส่งข้อมูลของเซลล์ประสาทภายในสมองเพิ่มมากขึ้น โดยเมล็ดกาแฟที่นิยมดื่มก็มีหลายสายพันธุ์ แต่ที่นิยมมากที่สุดคือ กาแฟอาราบิก้า (Arabica) เพราะเป็นเมล็ดกาแฟที่รสชาติดีที่สุด และนิยมปลูกกันทั่วโลก ส่วนในประเทศไทยนิยมปลูกกันทางภาคเหนือ และรองลงมาคือกาแฟโรบัสต้า (Robusta) เป็นกาแฟที่มีความเข้มข้นสูง นิยมนำมาผลิตกาแฟกระป๋อง แต่กลิ่นจะหอมน้อยกว่ากาแฟอาราบิก้า นิยมปลูกในทวีปเอเชียและทวีปแอฟริกา นอกจากนี้ยังมีกาแฟเอ็กซ์เซลซ่า (Excelsa) และกาแฟลิเบอริก้า (Liberica) ด้วย สำหรับใครที่ชอบดื่มกาแฟก็สามารถหาซื้อเมล็ดกาแฟสายพันธุ์ที่ชอบมาชงดื่มเองที่บ้าน ได้ด้วย 4 เครื่องชงกาแฟ ที่ใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยาก

ชงกาแฟดื่มเองที่บ้านได้ง่าย ๆ ด้วย 4 เครื่องชงกาแฟ ที่ใครก็ทำได้

· แบบอัตโนมัติ (Bean-To-Cup Machine) เป็นเครื่องที่สามารถชงกาแฟเมนูต่าง ๆ ได้อัตโนมัติแบบพร้อมดื่มโดยไม่ต้องปรุงเพิ่มเลย จะมีกาแฟเมนูต่าง ๆ ให้เลือกมากมาย เช่น คาปูชิโน ลาเต้ มอคค่า ฯลฯ เมื่อกดปุ่มเครื่องก็จะทำการชงและใส่ส่วนผสมให้เองอัตโนมัติ มีเครื่องบดเมล็ดกาแฟในตัว มีที่ตีฟองนม เป็นเครื่องที่ออกแบบมาให้ใช้งานง่าย สะดวกสบาย เหมาะสำหรับมือใหม่ นิยมใช้ตามโรงแรม รีสอร์ท ออฟฟิศ และซื้อมาไว้ชงดื่มเองที่บ้านได้

· แบบแคปซูล (Capsule Machine) เป็นเครื่องที่นิยมในปัจจุบันนี้เพราะมีขนาดไม่ใหญ่ ไม่กินพื้นที่ ใช้งานง่าย สะดวก และมีแคปซูลกาแฟให้เลือกหลายรสชาติ โดยเครื่องชนิดนี้จะมาพร้อมกับแคปซูลกาแฟรสชาติต่าง ๆ ที่บรรจุส่วนผสมเอาไว้แบบสำเร็จรูป หากต้องการดื่มรสใดก็นำแคปซูลใส่ลงไปในเครื่อง จากนั้นเครื่องก็ชงกาแฟรสนั้น ๆ ออกมาให้พร้อมดื่มในเวลาเพียงไม่กี่นาที เป็นชนิดที่ดูแลง่าย เหมาะสำหรับการใช้งานในบ้าน หรือคอนโด

· แบบดริปอัตโนมัติ (Drip Coffee Maker) กาแฟดริปคือกาแฟ Filter หรือการชงผ่านตัวกรอง ซึ่งจะมีทั้งแบบบดดริปสดๆ กับ แบบกึ่งสำเร็จรูปที่มาเป็นซองดริป ซึ่งแน่นอนอยู่แล้วว่ากาแฟดริปแบบบดสดๆจะมี กลิ่น (Aroma) และรสชาติ (Taste) ที่หอมและชัดกว่าแบบซอง

เครื่องดริปแบบอัตโนมัติ จะแตกต่างจากแบบดริปทั่วไป เพราะออกแบบมาให้ดริปกาแฟได้ง่าย และ สะดวก เพียงนำกาแฟบดใส่ลงไปและเติมน้ำสะอาด เครื่องก็จะดริปกาแฟให้เลย แต่จะใช้เวลานานกว่าแบบอื่นสักหน่อย เพราะต้องใช้เวลาในการดริปพอสมควร เหมาะสำหรับคนที่ชอบดื่มกาแฟแบบดริปโดยเฉพาะ

· แบบเอสเปรสโซ่ (Espresso Machine) เป็นเครื่องที่สามารถชงกาแฟได้เข้มข้นที่สุดและประหยัดน้ำกว่าแบบอื่น ๆ เนื่องจากทำงานโดยใช้แรงดันจากไอน้ำเพื่อกลั่นกาแฟออกมา แต่ เครื่องชงเอสเปรสโซ่ จะมีขั้นตอนที่ละเอียดกว่าแบบอื่น ๆ เพราะต้องตักกาแฟบดใส่ในก้านกาแฟแล้วกดให้พอดี ไม่แน่นหรือหลวมจนเกินไป จากนั้นนำไปล็อคใส่กับเครื่องเพื่อกลั่นน้ำกาแฟออกมา จะให้กาแฟที่รสชาติเข้มข้นและมีกลิ่นหอมกว่าวิธีอื่น ๆ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับเมล็ดกาแฟ การคั่ว การบดกาแฟ และการอัดกาแฟด้วย

วิธีการเก็บรักษาเมล็ดกาแฟให้หอมน่าดื่มตลอดเวลา

· เก็บในภาชนะทึบและปิดสนิท ความทึบจะช่วยป้องกันความร้อนและความชื้นเข้ามาสู่เมล็ดกาแฟได้ เพราะหากเมล็ดกาแฟถูกความร้อนหรือความชื้นจะทำให้กลิ่นและรสชาติของกาแฟเปลี่ยนไป เมื่อนำมาชงดื่มกลิ่นและรสชาติที่เคยดื่มก็จะไม่เหมือนเดิม

· เก็บให้พ้นจากแสงแดด และความชื้น ทั้งเมล็ดกาแฟที่บรรจุอยู่ในถุงทึบและเมล็ดกาแฟที่บดแล้วที่เก็บในกล่องบรรจุต่าง ๆ ควรเก็บให้พ้นจากแสงแดด โดยจะต้องไม่มีแสงแดดส่องถึง เพราะหากถูกแดดจะทำให้เป็นไอ และ ทำให้ชื้น นอกจากนี้ยังควรปิดฝาภาชนะให้สนิททุกครั้ง เพื่อไม่ให้ความชื้นเข้าไป 

· ไม่บดเมล็ดกาแฟเก็บไว้นานจนเกินไป สำหรับ เครื่องชงกาแฟ ที่ไม่มีเครื่องบดกาแฟในตัว ควรบดเมล็ดกาแฟไว้แค่พอดื่ม ไม่บดไว้มากเกินไปเพราะหากบดไว้นานจะทำให้กาแฟไม่หอม กลิ่นและรสชาติเปลี่ยนไป ควรเก็บกาแฟบดไว้ไม่เกิน 3 วัน

ปัจจุบันนี้มี เครื่องชงกาแฟ ที่มีความทันสมัยมากขึ้น แม้จะชงกาแฟไม่เป็นแต่ก็สามารถดื่มกาแฟรสโปรดได้ทุกวัน ในเวลาเพียงไม่กี่นาที ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายลงได้ อีกทั้งยังใช้ชงกาแฟสำหรับรับแขกได้ด้วย สำหรับใครที่ชอบความสะดวกสบาย เหมาะสำหรับแบบอัตโนมัติ และแบบแคปซูลเพราะใช้เวลาไม่นาน แต่ถ้าความออริจินัล และความชิลเหมาะสำหรับแบบดริปอัตโนมัติ แต่ถ้าชอบแบบเข้มข้น หอมกลิ่นกาแฟ ควรเลือก เครื่องชงเอสเปรสโซ่

อย่าลืมเลือกเครื่องชงกาแฟ รวมถึงอุปกรณ์ เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว อื่นๆ ที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ และ ความชอบของคุณ สร้างเช้าดีๆง่ายๆสำหรับตัวเอง และ ครอบครัว และ ยังสามารถติดตามบทความเนื้อหา สาระดีๆ กับเราได้ทุกอาทิตย์ ที่นี่

เครื่องชงกาแฟ

ที่นอนยางพารา

รู้หรือไม่? ที่นอนยางพารา มีประโยชน์มากกว่าที่คิด ประโยชน์ดี ๆ ที่อยากบอกต่อ!

ที่นอนเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องพิถีพิถันในการเลือกซื้อไม่แพ้ของชิ้นอื่นเลย เพราะหากเลือกได้ดีก็จะส่งผลดีต่อการนอนหลับและสุขภาพด้วย ช่วยให้นอนหลับได้สนิท ช่วยลดการเกิดปัญหาสุขภาพต่าง ๆ เช่น โรคปวดหลัง โรคนอนไม่หลับ ฯลฯ ที่อาจเกิดขึ้นได้เมื่อใช้งานไปนาน ๆ และส่งผลต่อสุขภาพเมื่ออายุมากขึ้น วันนี้จึงมีประโยชน์ของ ที่นอนยางพารา (Latex Matress) มาบอกกันว่าดีอย่างไร แตกต่างจากที่นอนประเภทอื่นอย่างไรและทำไมถึงนิยมใช้

ที่นอนยางพารากับประโยชน์ดี ๆ ที่หลายคนยังไม่รู้ ดีอย่างไร? ทำไมถึงนิยมใช้?

· นอนสบาย รองรับสรีระทุกส่วนได้เป็นอย่างดี คุณสมบัติเด่นหลัก ๆ เลยก็คือ รองรับสรีระทุกส่วนได้เป็นอย่างดี ทำให้นอนหลับได้สบาย โดยจะรับเข้ากับสรีระเมื่อนอนลง

· มีความยืดหยุ่นสูง ไม่เสียรูปทรง ไม่ยุบตัว เพราะผลิตมาจากยางพาราจึงมีความยืดหยุ่นสูง ไม่เสียทรงง่าย ไม่ต้องกลัวว่าใช้ไปนาน ๆ แล้วที่นอนจะยุบตัว ทำให้ใช้งานได้นาน

· รองรับการกระจายน้ำหนักได้ดี ลักษณะของที่นอนแบบยางพาราคือจะผลิตจากยางพาราทั้งแผ่นจึงสามารถกระจายการรับน้ำหนักได้ดี ไม่ว่าจะเป็นที่นอนยางพารา 3.5 ฟุต สำหรับนอน 1 คนหรือขนาด 5 – 6 ฟุต สำหรับ 2 คนก็กระจายการรับน้ำหนักได้อย่างทั่วถึง

· ช่วยลดอาการปวดหลัง เมื่อนอนลงแล้วที่นอนจะรองรับสรีระเอาไว้ในทุกส่วน ตั้งแต่คอไปถึงขา ทำให้ไม่ปวดหลัง ปวดคอ หรือปวดตัว แตกต่างจากที่นอนแบบอื่นที่รองรับน้ำหนักได้ไม่ดี ทำให้ตื่นมาแล้วปวดหลัง เพราะแต่ละวันเราต้องนอนอยู่ท่านั้นเป็นเวลาหลายชั่วโมง

· ป้องกันการเกิดไรฝุ่นและการเกิดภูมิแพ้ ปัญหาที่มักเจอกับที่นอนคือ ปัญหาเรื่องไรฝุ่น เนื่องจากเราใช้นอนทุกวันทำให้ที่นอนเกิดความชื้นและมีไรฝุ่นขึ้น ส่งผลให้เป็นภูมิแพ้ได้ง่าย แต่แบบยางพาราสามารถระบายอากาศได้ดี จึงไม่ทำให้เกิดความชื้นและช่วยป้องกันการเกิดไรฝุ่นได้

· ผลิตมาจากธรรมชาติ 100 % โดยผลิตมาจากยางพาราแท้ เป็นที่นอนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ย่อยสลายได้ และรีไซเคิลได้ เหมาะสำหรับคนที่แพ้ง่ายเพราะไม่ทำให้เกิดการแพ้

· ม้วนเก็บได้ ไม่หักงอ ที่นอนส่วนใหญ่จะมีขนาดใหญ่และหนาทำให้เคลื่อนย้ายไม่สะดวก แต่ยางพารามีลักษณะค่อนข้างบาง ไม่หนามาก จึงสามารถม้วนเก็บได้โดยไม่ทำให้ที่นอนเสียรูปทรง ไม่หักงอ และไม่กินพื้นที่

· มีความทนทานสูง ที่นอนยางพาราแท้ 100% สามารถใช้งานได้นานถึง 10 ปี หากมีการใช้งานอย่างถูกวิธี เรียกว่าซื้อครั้งเดียวก็สามารถใช้งานเลย นั่นจึงเป็นเหตุผลสำคัญว่าทำไมเราถึงควรพิถีพิถันในการเลือกซื้อที่นอนนั่นเอง

· เหมาะสำหรับคนที่รักสุขภาพ เป็นที่นอนที่ดีต่อสุขภาพทั้งวัสดุที่เลือกใช้และคุณประโยชน์การใช้งานที่ช่วยลดอาการปวดหลัง ช่วยลดการเกิดไรฝุ่น และช่วยป้องกันการเกิดโรคภูมิแพ้ได้ 

เคล็ดลับการเลือกซื้อที่นอนยางพารา ของแท้ดูอย่างไร?

· มีกลิ่นอ่อน ๆ ของยางพารา เพราะผลิตจากยางพาราจึงทำให้มีกลิ่นอ่อน ๆ ของยางพาราติดมาด้วย โดยจะไม่ฉุนจนเกินไป เป็นกลิ่นยางธรรมชาติอ่อน ๆ 

· สัมผัสนุ่ม เมื่อลองจับดูแล้วจะรู้สึกได้ว่านุ่ม เมื่อนั่งหรือนอนแล้วจะรับน้ำหนักได้ตามแนวสรีระ ไม่แข็ง หรือยวบลงเป็นหลุม

· หนัก แน่น แต่นุ่ม ยางพาราจะมีน้ำหนักที่ค่อนข้างมาก จับแล้วจะแน่นแต่ไม่แข็ง จะมีความนุ่มอยู่

· สีขาวธรรมชาติ สีของพาราจะเป็นสีขาวนวล ให้สีขาวแบบเป็นธรรมชาติ ไม่ขาวสว่างหรือขาวโอโม่จนเกินไป

สำหรับใครที่มีอาการปวดหลังบ่อย ๆ หรือเป็นภูมิแพ้ง่ายก็สามารถเปลี่ยนมาเลือกใช้ที่นอนยางพารากันดูได้ เพราะเป็นที่นอนที่ดีต่อสุขภาพทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ทำให้นอนหลับสบายและไม่ปวดหลัง เพราะหากเรานอนบนที่นอนที่ไม่มีคุณภาพ แข็ง หรือยุบตัวมากเกินไป เมื่อใช้งานไปนาน ๆ จะส่งผลต่อสุขภาพในด้านต่าง ๆ ได้ ทำให้ปวดหลังเรื้อรังจากการปวดหลังสะสมมาเป็นเวลานาน ต้องเสียเงินไปรักษา และเมื่อหลังไม่สามารถใช้งานได้เหมือนเดิมก็จะส่งผลต่อการดำเนินชีวิตในด้านต่าง ๆ ได้

นอกจากนี้ เรายังมีเคล็ดลับดีๆในการเลือกเตียงนอน แบบไหนที่เหมาะกับการใช้งานของคุณ เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการเลือกซื้อเตียงนอนมาคู่กับที่นอนของคุณได้อย่างง่ายขึ้น

ที่นอนยางพารา

หูฟังบลูทูธ

5 เรื่องควรรู้ก่อนเลือกซื้อหูฟังบลูทูธ ดีอย่างไร มีแบบไหนบ้าง?

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหูฟัง (headphone) ได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของหลาย ๆ คนไปแล้ว เพราะเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้ได้เราได้ใช้ฟังก์ชันต่าง ๆ ในสมาร์ทโฟนได้เป็นส่วนตัวมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเล่นเกม ดูหนัง ฟังเพลง ดูวิดีโอ คุยโทรศัพท์ วิดีโอคอล หรืออื่น ๆ โดยหูฟังที่กำลังมาแรงและได้รับความนิยมในปัจจุบันนี้คือ หูฟังบลูทูธ ( Bluetooth headphone ) เป็นหูฟังแบบไร้สาย ที่ออกแบบมาให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ส่วนจะดีอย่างไร มีแบบไหนให้เลือกบ้าง และมีเรื่องควรรู้อย่างไรเรามีมาบอกกัน

ข้อดีของหูฟังบลูทูธ ดีอย่างไร ทำไมถึงนิยมใช้

· ดีไซน์สวยงาม ทันสมัย ต้องยอมรับเลยว่าดีไซน์ของหูฟังไร้สายที่ได้ออกมาในปัจจุบันนี้มีความสวยงามและทันสมัยจริง ๆ มีให้เลือกหลายสี ทั้งโทนขาว – ดำและแบบมีสีสัน โดยสีที่ได้รับความนิยมคือ โทนสีพาสเทล เพราะเป็นโทนสีที่เรียบหรูแต่ดูดี ให้ความรู้สึกสบาย ๆ มีให้เลือกทั้งแบบเงาและแบบด้าน

· ขนาดเล็กกะทัดรัด พกพาง่าย หากใครที่มีปัญหาเกี่ยวกับหูฟังบ่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเก็บ สายหูฟังที่พันกัน ก็ลืมเรื่องเหล่านั้นไปได้เลย เพราะออกแบบมาให้ไร้สาย เล็กกะทัดรัด มีกล่องเก็บอย่างเป็นระเบียบ ทำให้พกพาง่าย ไม่กินพื้นที่จัดเก็บ เมื่อหยิบออกมาใช้งานง่าย ไม่ต้องกลัวว่าสายจะไปพันของในกระเป๋าหรือโดนของหนัก ๆ ทับจนได้รับความเสียหาย หรือ สายขาด ชำรุดได้

· ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานได้ หูฟังแบบบลูทูธโดยทั่วไปแล้ว จะออกแบบมาให้ไม่ปิดกั้นเสียงภายนอกมากจนเกินไป เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายในขณะสวมใส่ หรือ เวลาใส่แล้วจะไม่แน่นจนเกินไป ทำให้ยังสามารถได้ยินเสียงภายนอกได้อยู่ ก็ช่วยเพิ่มความปลอดภัยขณะใช้งานได้ โดยเฉพาะการใช้คุยโทรศัพท์ที่ไม่ต้องคอยถือสมาร์ทโฟนไว้ตลอดเวลา เช่น การขับรถ ข้ามถนน ฯลฯ

· ใส่ออกกำลังกายได้ หูฟังแบบมีสาย จะทำให้ใส่ออกกำลังกายได้ไม่สะดวก เพราะสายจะสะบัดตามการเคลื่อนไหวของร่างกายไปด้วย หูฟังแบบไร้สาย จึงเหมาะสำหรับการใส่ออกกำลังกายมากกว่า เพราะนอกจากจะไม่มีสายแล้ว ยังมีรุ่นที่ออกแบบมาสำหรับใส่ออกกำลังกายโดยเฉพาะ สามารถกันน้ำ กันเหงื่อได้

5 เรื่องที่ควรรู้ก่อนจะซื้อ หูฟังบลูทูธ 

1. มีราคาสูงกว่าหูฟังแบบทั่วไป เพราะมีเทคโนโลยีที่ทันสมัย และมีฟังก์ชันการใช้งานหลากหลาย จึงทำให้มีราคาที่สูงกว่าแบบทั่ว ๆ ไป โดยมีให้เลือกตั้งแต่ราคาหลักร้อยไปจนถึงหลักพัน 

2. มีให้เลือกหลายประเภท หูฟังไร้สาย ที่เราเห็นหน้าตาคล้าย ๆ กันนั้นความจริงแล้วออกแบบมาให้มีการใช้งานที่ไม่เหมือนกัน เช่น หูฟัง Sport ที่ออกแบบมา สำหรับการเล่นกีฬา หรือ ออกกำลังกายโดยเฉพาะ ออกแบบมาให้กันน้ำได้ กระชับเข้ากับหูได้ดี ไม่หลุดออกง่าย ในขณะวิ่ง หรือ ออกกำลัง, หูฟัง Travel ออกแบบมาสำหรับการเดินทาง เช่น การนั่งเครื่องบินไปต่างประเทศ ข้อดี มีแบตเตอรี่ที่ทน ใช้งานต่อเนื่องได้นานชั่วโมงโดยไม่ต้องชาร์จบ่อย, หูฟัง Casual เป็น หูฟังบลูทูธ ที่เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป เช่น การดูหนัง ฟังเพลง ฯลฯ จะไม่สามารถใช้งานได้ยาวนาน เหมือนแบบ Casual

3. มีทั้งแบบกันน้ำและไม่กันน้ำ หูฟังแต่ละรุ่น จะมีระดับการกันน้ำที่ไม่เท่ากัน หากเป็นแบบทั่วไปจะสามารถป้องกันละอองน้ำได้ แต่หากเป็นประเภทที่ออกแบบมาสำหรับการออกกำลังกาย จะมีประสิทธิภาพการกันน้ำที่ดีกว่า มีทั้งแบบที่โดนน้ำได้แต่ไม่กันน้ำ เนื่องจากการออกกำลังกายมักจะหลีเลี่ยง ไม่ได้กับการที่หูฟังจะโดนเหงื่อ และ แบบชนิดกันน้ำได้ที่สามารถนำไปล้างได้เลย

4. ควรเลือกใช้ให้ถูกประเภท เพราะแต่ละแบบมีการใช้งานไม่เหมือนกัน จึงควรเลือกใช้งานให้ถูกประเภท หากนำหูฟังแบบทั่วไปใส่ออกกำลังกาย จะทำให้เปียกเหงื่อหรือเปียกน้ำ ทำให้พังก่อนเวลาได้ เนื่องจากวัสดุไม่ได้รองรับสำหรับการโดนน้ำ

5. ชาร์จแบตเตอรี่ได้ในกล่อง เป็นหูฟังที่ทำงานโดยใช้แบตเตอรี่จึงควรชาร์จแบตก่อนใช้งาน ซึ่งหลายๆรุ่น สามารถนำไปใส่กล่องเพื่อชาร์จในกล่องได้ หรือ จะใช้กล่องเป็นแท่นไปชาร์จกับสาย USB ก็ได้เช่นกัน ส่วนระยะเวลาการชาร์จและการใช้งานขึ้นอยู่กับประเภทและรุ่นของสินค้า 

ทีนี้ ก็ได้ทราบถึงวิธีการเลือกซื้อและประเภทต่าง ๆ ของ หูฟังบลูทูธ กันไปแล้ว หากใครสนใจก็อย่าลืมเลือกซื้อให้ถูกประเภทกันด้วย เพื่อความคุ้มค่า และ ยืดอายุการใช้งานให้กับหูฟัง นอกจากนี้ ยังสามารถติดตาม เนื้อหาสาระ อัพเดทเทรนด์ สินค้าใหม่ ๆ เกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ และ เทคโนโลยี รวมถึง เคล็ดลับดี ๆ ในการเลือกซื้อสินค้าได้ง่าย ๆ ทุกสัปดาห์ ไปกับเราได้ ที่นี่

หูฟังบลูทูธ

ชีวิตเพื่อชาติรักนี้เพื่อเธอ

6 เหตุผลที่บอกว่าทำไมถึงควรดู Descendants of the Sun ชีวิตเพื่อชาติรักนี้เพื่อเธอ

หากพูดถึงซีรีส์เกาหลีในดวงใจของหลาย ๆ คนเชื่อว่าคงจะนึกถึงเรื่อง Descendants of the Sun ชีวิตเพื่อชาติรักนี้เพื่อเธอ เพราะเป็นซีรีส์ภาพยนต์ ที่โด่งดังไปทั่วทั้งเอเชียและยังเป็นซีรีส์ที่ทำเรทติ้งได้สูงที่สุดของเกาหลีใต้เมื่อปี 2016 ด้วย อีกทั้งยังเป็นซีรีส์เพียงไม่กี่เรื่องที่ถ่ายจนจบก่อนแล้วจึงค่อยนำไปฉายเพราะส่วนมากซีรีส์ในเกาหลีจะถ่ายไปฉายไปเพื่อได้ปรับบทตามฟีดแบคของคนดู แต่เรื่องนี้ทำออกมาโดยไม่มีการเปลี่ยนบทหรือตอนจบ เพราะไม่ได้ฉายแค่ในเกาหลีใต้เพียงอย่างเดียวแต่ฉายไปพร้อม ๆ กับประเทศจีนและมีให้ชมย้อนหลังในอีกหลาย ๆ ประเทศทั่วเอเชีย ทำให้ซีรีส์เรื่องนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก 

6 เหตุผลที่ต้องดู Descendants of the Sun!

1. แสดงโดยนักแสดงชื่อดังอันดับต้น ๆ ของเกาหลีใต้ นำแสดงโดยนักแสดงหนุ่มชื่อดังอย่าง ซง จุงกิ 송중기 (Song Joong ki) นักแสดงชื่อดัง ชาวเกาหลีใต้ พระเอกของเรื่องที่รับบท ยู ชีจิน หัวหน้าหน่วยอัลฟ่าที่ปฏิบัติภารกิจลับตามคำสั่งเพื่อช่วยเหลือตัวประกันในสถานการณ์ต่าง ๆ ส่วนนางเอกนำแสดงโดย ซอง เฮเคียว 송혜교 (Song Hye-kyo) รับบทเป็น คัง โมยอน คุณหมอแห่งโรงพยาบาลแฮซองที่มีฝีมือดีแต่ต้องพ่ายให้กับระบบเส้นสาย โดยทั้งสองคนนี้ได้ฝากผลงานการแสดงชื่อดังไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง “Full House สะดุดรักที่พักใจ” ซีรีส์ที่โด่งดังไปทั่วเอเชียเมื่อปี 2004 นำแสดงโดยซอง เฮเคียวและหนุ่ม Rain นักร้องชื่อดังจากเกาหลีใต้ หรือจะเป็นเรื่อง “Innocent Man รอยรักรอยแค้น” ที่นำแสดงโดย ซง จุงกิ และพัคชียอน โดยในเรื่องนี้หนุ่ม ซง จุงกิ ก็ได้คว้ารางวัลนักแสดงยอดเยี่ยมจากเวที KBS Drama Awards 2012 มาด้วย

และจากละครเรื่องนี้ก็ก่อให้เกิดกระแสคู่จิ้นระหว่าง ซง จุงกิ และ ซอง เฮเคียว และ มีข่าวลือออกมาว่าทั้งสองคนกำลังออกเดทกัน จนต้นสังกัดออกมายอมรับ และ ทั้งคู่ก็แต่งงานกันในวันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2560 แต่หลังจากนั้นไม่นาน ทั้งคู่ก็ได้ออกมาประกาศข่าวเรื่องการหย่าร้างกัน และดำเนินการเสร็จสิ้นในวันที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

2. เด่นทั้งคู่หลักและคู่รอง ไม่เพียงแค่ 2 พระ – นางแต่คู่รองก็ยังได้รับความนิยมไม่แพ้คู่หลักเลย เพราะบทโดดเด่นไม่แพ้กัน เป็นการถ่ายทอดเรื่องราวความรักของคู่รักที่อยู่ต่างชนชั้นและถูกกีดกันจากผู้ใหญ่ นำแสดงโดยหนุ่มจินกูและสาวคิม จีวอน

3. ได้ข้อคิดดี ๆ และได้เห็นการทำงานของอาชีพหมอและทหาร เป็นเรื่องราวที่สะท้อนให้เห็นถึงอาชีพทหาร อาชีพหมอ เรื่องความรัก และความรับผิดชอบในการปฏิบัติหน้าที่ เช่น ตอนที่พระเอกพูดว่า “ผมเป็นทหาร ผมต้องทำตามคำสั่ง” และนางเอกพูดว่า “ฉันเป็นหมอ และไม่มีความเชื่อไหนที่สำคัญไปกว่าชีวิต” หรือจะเป็นตอนที่พระเอกพูดว่า “ทหารมีผ้าห่อศพติดตัวตลอดเวลา ที่ตายก็คือหลุมศพ และเครื่องแบบจะเป็นผ้าห่อศพของเรา แต่ไม่ได้หมายความว่าการที่ผมทำผิดกฎทหารจะเป็นข้อยกเว้นไปได้”

4. มีประโยคเด็ดตราตรึงใจ “ที่ผมจูบคุณไปวันนั้นโดยไม่ได้ขอก่อน ผมจะถามว่า คุณอยากให้ผมขอโทษหรือสารภาพกับคุณดี?” เป็นประโยคฮิตจากเรื่องชีวิตเพื่อชาติรักนี้เพื่อเธอที่โด่งดังและถูกพูดถึงมากที่สุดจนทำให้แฟน ๆ หลายคนใจละลายไปตาม ๆ กัน เพราะแม้จะเป็นซีรีส์ที่ไม่มีบทสวีทมากสักเท่าไหร่แต่คำพูดของพระ – นางแต่ละตอนก็ทำให้ใจละลายได้เหมือนกัน

5. ได้นักเขียนฝีมือดีมาเขียนบทให้ เรื่องนี้เขียนบทโดยนักเขียน คิม อึนซุก นักเขียนมือทองที่ฝากผลงานที่โด่งดังเอาไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง Lovers in Paris (2004), Secret Garden (2010), The Heirs (2013), Goblin (2016), The King: Eternal Monarch (2020) และอีกมากมาย

6. เป็นซีรีส์ที่ทำเรทติ้งได้สูงที่สุดในเกาหลีใต้ ในเวลาเพียงแค่ 3 สัปดาห์ที่ออนแอร์ ซีรีส์เรื่อง ชีวิตเพื่อชาติรักนี้เพื่อเธอ ก็สามารถทุบสถิติซีรีส์เกาหลีทุก ๆ เรื่องและได้ขึ้นแท่นเป็นซีรีส์ที่สามารถทำเรทติ้งได้สูงที่สุดด้วยเวลาเพียงไม่นาน ซึ่งก็เป็นเครื่องการันตีได้แล้วว่าซีรีส์เรื่องนี้นั้นน่าดูมากแค่ไหน

แม้จะฉายจบมาหลายปีแล้วแต่ Descendants of the Sun ชีวิตเพื่อชาติรักนี้เพื่อเธอ ก็ยังคงเป็นซีรีส์ที่ได้รับความนิยมอยู่ เพราะสามารถรับชมย้อนหลังได้ครบทุกตอน มีทั้งแบบซับไทยและแบบพากย์ไทย หากใครที่ยังไม่ได้ดูก็สามารถหาชมได้แล้ว รับรองได้เลยว่าจะต้องฟินอย่างแน่นอน

สร้างช่วงเวลาพักผ่อน ที่แสนสุขใจ ผ่อนคลายไปกับหนังดีๆ ทั้งหนังไทย และ ต่างประเทศ ที่มีเนื้อหาหลากหลาย สนุกสนาน กินใจ โรแมนติก พร้อมทำให้ชีวิตที่แสนเรียบง่ายของคุณมีความสุข และ กลายเป็นวันที่ไม่ธรรมดาไปเลย

ชีวิตเพื่อชาติรักนี้เพื่อเธอ

แผนที่โลก

แผนที่โลก อะคริลิก 3 มิติ ของตกแต่งห้องที่ไม่ได้มีดีแค่ความสวย!

การตกแต่งห้องสมัยนี้ทำได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องต่อเติมหรือเจาะผนังก็สามารถทำให้ผนังห้องดูสวยและโดดเด่นขึ้นได้ด้วยการติด วอลเปเปอร์ที่มีให้เลือกหลายแบบหลายลาย มีทั้งแบบธรรมดาและแบบ 3 มิติ ผลิตออกมาในลวดลายต่าง ๆ เพื่อช่วยเปลี่ยนบรรยากาศห้องแบบเดิม ๆ ให้ดูมีสไตล์ขึ้นได้ และหนึ่งในวอลเปเปอร์ติดผนังที่กำลังมาแรงคือ แผนที่โลก เพราะเป็นวอลเปเปอร์ที่ไม่ได้ให้แค่ความสวยงามหรือความเก๋เพียงอย่างเดียวแต่ยังมีประโยชน์อีกด้วย สำหรับใครที่ชอบภูมิศาสตร์ไม่ควรพลาดเลย

แผนที่โลก อะคริลิก 3มิติ ดีอย่างไร? ทำไมถึงนิยมใช้ตกแต่งผนัง

· ใช้เป็นของตกแต่งห้องได้ นอกจากเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งห้องต่าง ๆ แล้ววอลเปเปอร์ก็นิยมนำมาใช้ตกแต่งห้องด้วยเช่นกัน ช่วยให้ห้องที่ดูธรรมดาดูมีสไตล์ขึ้นได้ 

· มีความสวยงาม เสมือนจริง แผนที่โลกอะคริลิก 3มิติจะแตกต่างจากวอลเปเปอร์ติดผนังแบบทั่วไป เพราะออกแบบมาเป็นแบบ 3 มิติ ทำให้ดูสวยงาม มีมิติ และดูเสมือนจริง ทำให้เห็นรายละเอียดต่าง ๆ บนแผนที่ได้ชัด

· แข็งแรง ทนทาน ไม่เสียรูปทรง ติดทนนาน เพราะผลิตจากอะคริลิกจึงมีความแข็งแรงและทนทาน ไม่เสียทรงง่าย และมีอายุการใช้งานที่ค่อนข้างนาน ไม่หลุดออกง่าย

· ใช้เป็นสื่อการเรียนรู้หรือประชุมได้ ไม่เพียงแค่ความสวยงามเพียงอย่างเดียวแต่ยังใช้เป็นสื่อการเรียนรู้ต่าง ๆ ได้ทั้งในวัยเรียนและวัยทำงานที่สามารถทบทวนความรู้จากผนังที่บ้านได้ นอกจากนี้ยังสามารถใช้ในการประชุมหรือวางแผนงานต่าง ๆ ได้ด้วย

· ใช้ปิดทับรอยที่ผนังได้ หากผนังมีรอยดูไม่สวยก็สามารถติดทับบริเวณที่เป็นรอยได้ 

· กันน้ำได้ ออกแบบมาให้กันน้ำได้ สามารถใช้ผ้าชุบน้ำบิดหมาดมาเช็ดทำความสะอาด หรือจะทำความสะอาดด้วยการปัดฝุ่นหรือดูดฝุ่นก็ได้

วอลเปเปอร์แผนที่โลก ทวีปมีแบบไหนให้เลือกบ้าง?

· ทวีปเอเชีย เป็นทวีปที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดในโลกและมีประชากรอาศัยอยู่มากที่สุดในโลกด้วย มีทั้งหมด 48 ประเทศ แบ่งออกเป็น 6 ภูมิภาค ได้แก่ เอเชียเหนือ เอเชียกลาง เอเชียตะวันตกเฉียงใต้ เอเชียใต้ เอเชียตะวันออก และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยประเทศไทยได้จัดอยู่ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรือเอเชียอาคเนย์

· ทวีปแอฟริกา ใหญ่อันดับ 2 ของโลก มีทั้งหมด 54 รัฐ ลักษณะภูมิทวีปแบ่งออกเป็นเทือกเขา ทะเลทราย และแม่น้ำ มีแม่น้ำสำคัญไหลผ่าน 4 สาย ได้แก่ แม่น้ำไนล์ แม่น้ำคองโก แม่น้ำไนเจอร์ และแม่น้ำแซมเบซี

· ทวีปอเมริกาเหนือ ใหญ่รองลงมาเป็นอันดับที่ 3 มีทั้งหมด 23 ประเทศ โดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ ๆ คือ แองโกลอเมริกา ลาตินอเมริกา และหมู่เกาะเวสต์อินดีส ส่วนประเทศที่มีพื้นที่มากที่สุดในทวีปอเมริกาเหนือคือ ประเทศแคนาดาและสหรัฐอเมริกา

· ทวีปอเมริกาใต้ มีทั้งหมด13 ประเทศ โดยแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มการปกครองตามลักษณะภูมิประเทศ ได้แก่ เขตที่สูงขยายอานาเขตเทือกเขาแอนดีส เขตลุ่มน้ำตะวันออกเฉียงใต้ของเทือกเขาแอนดิส และเขตลุ่มน้ำแอมะซอนและที่ราบสูงบราซิล ใหญ่อันดับที่ 4 ของโลก

· ทวีปแอนตาร์กติกา เป็นทวีปที่มีพื้นที่ใหญ่เป็นอันดับ 5 โดยมีเนื้อที่กว่า 6,000,000 ตารางไมล์ และเป็นเพียงทวีปเดียวที่ไม่มีประชากรอาศัยอยู่เลยเพราะพื้นที่ของทวีปแอนตาร์กติกากว่า 98% ถูกปกคลุมไปด้วยแผ่นน้ำแข็งนั่นเอง

· ทวีปยุโรป มีรัฐอธิปไตยและเขตปกครองทั้งหมด 50 รัฐ โดยรัสเซียเป็นประเทศที่มีพื้นที่มากที่สุด ภูมิประเทศเป็นแบบเขตที่ราบสูงและเขตเทือกเขา แบ่งออกเป็น 4 ภูมิภาค ได้แก่ ยุโรปเหนือ ยุโรปตะวันตก ยุโรปตะวันออก และยุโรปใต้ เป็นทวีปที่ใหญ่เป็นอันดับที่ 6 ของโลก

· ทวีปออสเตรเลีย เป็นทวีปที่มีพื้นที่น้อยที่สุด มีประชากรอาศัยอยู่ทั้งหมด 14 ประเทศ ลักษณะภูมิประเทศของทวีปออสเตรเลียเป็นที่สูงและแห้งแล้ง ประชากรส่วนใหญ่จึงนิยมทำการเกษตร ประมง ป่าไม้ อุตสาหกรรม เหมืองแร่ และการค้า

เรื่องราวเกี่ยวกับแผนที่โลก ทวีปยังมีอะไรที่น่ารู้และน่าค้นหาอีกมากมาย หากอยากรู้ว่าแผนที่โลกของเราเป็นอย่างไรหรือแต่ละทวีปมีลักษณะอย่างไรก็สามารถหาซื้อแผนที่มาตกแต่งห้องได้ทั้งความสวยงาม และเพื่อศึกษาเพิ่มเติมได้ มีให้เลือกหลายทวีปทั่วโลก หรือจะเจาะลึกลงไปในแต่ละทวีปเพื่อดูลักษณะภูมิประเทศและลักษณะภูมิศาสตร์ก็ได้เช่นกัน เหมาะสำหรับคนที่ชอบเรื่องราวเกี่ยวกับภูมิศาสตร์โดยเฉพาะ 

รวมถึงนักเดินทาง ที่กำลังมองหาจุดหมายของการเดินทางใหม่ๆ ทวีปไหนที่ยังไม่เคยไป ยังสามารถใช้ตกแต่งห้องเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับตัวเอง ได้อย่างดีอีกด้วย

แผนที่โลก

ตู้เสื้อผ้า

เคล็ดลับการเลือกซื้อ ตู้เสื้อผ้า และการจัดตู้เสื้อผ้าให้เป็นระเบียบน่าใช้งาน

ตู้เสื้อผ้า เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่นิยมใช้งานกันทุกบ้าน เพราะเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ช่วยให้ จัดเก็บเสื้อผ้า ได้เป็นระเบียบมากขึ้น ทำให้หยิบใช้งานง่าย ช่วยป้องกันฝุ่นเกาะเสื้อผ้า และ ช่วยให้เสื้อผ้าไม่ยับหรือเสียทรง วันนี้จึงมีเคล็ดลับการเลือกซื้อ และ การใช้งานมาบอกกันว่าแบบไหนที่จะดีกับคุณ

เคล็ดลับดี ๆ ในการเลือกตู้เสื้อผ้าให้เหมาะสมกับการใช้งาน

· เลือกประเภทที่ต้องการ โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ ได้แก่ แบบสำเร็จรูป และ แบบบิวท์อิน แบบสำเร็จรูปคือตู้ที่ผลิตมาแบบพร้อมใช้งาน สามารถนำมาใช้งานได้เลย มีให้เลือกหลายขนาด มีทั้งแบบทรงเตี้ยและ แบบทรงสูง สำหรับใครที่มีเสื้อผ้าตัวยาวเยอะ ๆ โดยเฉพาะสาว ๆ ควรเลือกแบบทรงสูงเพราะจะสามารถแขวนเสื้อผ้าตัวยาวได้ ทำให้ชายเสื้อผ้าไม่มากองรวมกันอยู่ที่พื้นจนยับ หรือเสียทรง

· เลือกขนาดที่เหมาะสมกับห้อง เพราะ ส่วนใหญ่ตู้เสื้อผ้ามักจะอยู่ในห้องนอน หากเลือกขนาดใหญ่เกินไปจะทำให้ห้องดูแคบลงได้ เช่น แบบสำเร็จรูป เหมาะสำหรับห้องทั่วไปที่มีขนาดไม่ใหญ่มาก หรือคนที่มีเสื้อผ้าไม่เยอะ แต่หากใครที่มีเสื้อผ้าเยอะ และ มีพื้นที่มากควรเลือกใช้แบบบิวท์อิน หรือ แบบผังติดผนัง เพราะสามารถเก็บเสื้อผ้าได้เยอะกว่า และ เป็นระเบียบมากกว่า

· เลือกจากวัสดุที่ผลิต เพราะผลิตมาจากวัสดุหลายชนิด จึงควรเลือกวัสดุที่เหมาะสมกับการใช้งาน เช่น หากต้องการใช้งานแบบชั่วคราว และเคลื่อนย้ายได้สะดวก ควรเลือกใช้แบบผ้า เพราะมีน้ำหนักเบา ถอดและประกอบง่าย เคลื่อนย้ายได้สะดวก แต่หากต้องการความทนทาน ใช้งานได้หลายปี ควรเลือก ตู้เสื้อผ้าไม้

· เลือกจากฟังก์ชันการใช้งานต่าง ๆ แม้จะออกแบบมาให้จัดเก็บเสื้อผ้าได้เหมือนกันแต่ก็มีฟังก์ชันการใช้งานที่ไม่เหมือนกัน ควรเลือกรุ่นที่ เหมาะกับการใช้งานของตนเองด้วย เช่น ช่องแขวนเสื้อผ้า ลิ้นชักใส่ของ ชั้นใส่ของ ราวพาดเสื้อผ้า ฯลฯ

เทคนิคการจัดตู้เสื้อผ้าให้เป็นระเบียบและน่าใช้งาน

· แยกตามประเภทของเสื้อผ้า ควรแยกเก็บเสื้อผ้าเอาไว้ตามประเภท เช่น เดรสยาว เสื้อเชิ้ต แจ็คเก็ต กระโปรง กางเกง ฯลฯ เพื่อให้หยิบใช้งานได้ง่ายขึ้น สำหรับเสื้อผ้าชิ้นยาวควรแขวนเอาไว้ไม่ให้ชายห้อยอยู่ที่พื้น และ แยกแขวนเอาไว้ตามประเภท เช่น กางเกงขายาว เสื้อแจ็คเก็ต เสื้อสูท ฯลฯ และสำหรับเสื้อผ้าที่พับได้ควรพับหรือม้วนเก็บใส่ลิ้นชักให้เป็นระเบียบ

· แยกตามโทนสีของเสื้อผ้า นอกจากแยกตามประเภทแล้วยังควรเรียงตามโทนสีของเสื้อผ้า เพื่อให้หยิบใช้งานได้ง่ายขึ้น เช่น เรียงจากเสื้อผ้าโทนสีเข้มไปสีอ่อน ช่วยให้ดูเป็นระเบียบ หยิบง่าย สวยงาม และน่าใช้งาน

· เก็บแค่พอดี ไม่อัดแน่นจนเกินไป ควรเก็บเสื้อผ้าให้พอดี ไม่แขวนเยอะจนเกินไป เพราะหากยัดเสื้อผ้าใส่ตู้มากเกินไปจะทำให้เสื้อผ้าอัดกันแน่นจนยับหรือเสียทรง อีกทั้งยังทำให้ตู้รับน้ำหนักมากเกินไป และทำให้ราวแขวนหักได้

วิธีการดูแล ตู้เสื้อผ้า และการทำความสะอาดให้น่าใช้อยู่เสมอ

· ไม่นำเสื้อผ้าที่ยังไม่ได้ซักใส่ไว้ในตู้ ไม่ควรนำเสื้อผ้าที่ใส่แล้ว หรือยังไม่ได้ซักเข้าไปเก็บไว้ในตู้รวมกับเสื้อผ้าตัวอื่น ๆ เพราะเสื้อผ้าที่ใส่แล้วจะมีแบคทีเรียและกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ เช่น กลิ่นเหงื่อ กลิ่นอาหาร กลิ่นมลภาวะ ฯลฯ เมื่อนำไปเก็บไว้ในตู้จะทำให้เกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์ขึ้นและทำให้เสื้อผ้าในตู้เหม็นไปด้วย

· ไม่นำเสื้อผ้าที่ชื้นหรือยังไม่แห้งเข้าตู้ หากเสื้อผ้ายังไม่แห้งหรือยังชื้นอยู่ไม่ควรนำเก็บเข้าตู้ เพราะจะทำให้เกิดกลิ่นอับ ส่งผลให้เสื้อผ้าตัวอื่นมีกลิ่นอับชื้นไปด้วย

· หมั่นทำความสะอาดอยู่เสมอ แม้จะมีประตูปิดอย่างมิดชิดแต่ก็จำเป็นต้องความสะอาดด้วยเช่นกัน เพราะอาจมีฝุ่นหรือเชื้อราในตู้ได้

· ดับกลิ่นและดับความชื้น หากตู้เริ่มมีกลิ่นควรดับกลิ่นอับหรือกลิ่นตู้ด้วยตัวช่วยต่าง ๆ เช่น ถุงดับกลิ่น ถุงใส่ถ่าน สเปรย์ดับกลิ่น ฯลฯ

เพราะเสื้อผ้าเป็นเครื่องแต่งกายที่เราใช้กันอยู่ทุกวัน หากจัดเก็บในอุปกรณ์ที่ดีก็จะช่วยให้หยิบออกมาใช้งานได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องกลัวว่าจะยับ มีฝุ่นเกาะ หรือเสียทรง หากใครที่กำลังจะซื้อ ตู้เสื้อผ้า ควรเลือกให้เหมาะกับการใช้งานของตัวเองกันด้วย

ตู้เสื้อผ้า