Category: Smart Living

มาม่าถ้วยร้อน อร่อยร้อนไม่ต้องใช้ไฟฟ้า เลือกอิ่มได้หลากรสชาติในเวลาไม่กี่นาที

ต้องยอมรับว่ากระแส มาม่าถ้วยร้อน นั้นมาแรงจริง ๆ เพราะเป็นการชงมาม่าแบบใหม่ที่ไม่ต้องใช้น้ำร้อนหรือไฟฟ้าก็สามารถทำให้อาหารสุกและทานได้ในทันที โดย HOT CUP ที่เราจะมาพูดถึงในวันนี้ก็เป็นแบรนด์ไอเดียเจ๋งจากฝีมือคนไทยจาก คุณกิตติพงษ์ สุขเคหา หรือคุณแบงค์ หนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรงที่รักในการทำธุรกิจที่อยากจะทำมาม่ารสชาติต่าง ๆ ออกมาให้ทานกันได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องใช้น้ำร้อนหรือไฟฟ้าจนผุดไอเดียออกมาเป็น HOT CUP นี้เอง และหลังจากเปิดตัวมาได้เพียง 1 เดือนก็ทำยอดขายไปได้มากกว่า 1 ล้านถ้วยกันเลยทีเดียว ถ้าอย่างนั้นเราลองไปดูกันดีกว่าว่าจริง ๆ แล้วคืออะไร และทำให้ร้อนได้อย่างไร?

มาม่าถ้วยร้อน ร้อนได้อย่างไร มีรสชาติอะไรให้เลือกบ้าง?

หลายคนคงกำลังสงสัยกันอยู่ว่าเจ้ามาม่าที่หน้าตาดูเหมือน มาม่าคัพ ถ้วยนี้ทำให้ร้อนได้อย่างไร และทำไมถึงชงได้แบบไม่ต้องใช้น้ำร้อนเลย ซึ่งนั่นก็เป็นเพราะว่าถุงร้อนที่เป็นถุงแร่แมกนีเซียมที่ทำปฏิกิริยาเคมีกับน้ำในการสร้างความร้อนจนเกิดเป็นแก๊สไฮโดรเจนและแมกนีเซียมไฮดรอกไซด์ออกมา เมื่อเติมน้ำลงไปจึงทำให้เกิดความร้อนขึ้นภายในภาชนะและทำให้มาม่าสุกได้นั่นเอง

ด้วยความที่คุณแบงค์ชอบทานชาบูอยู่แล้วและชาบูก็เป็นอาหารที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันนี้ ทำให้เกิดไอเดียขึ้นว่าถ้าหากเราสามารถทำชาบูให้คนทานกันได้ง่ายขึ้นล่ะ จึงผลิตออกมาให้เลือก 3 รสชาติหลัก ๆ ได้แก่ รสหมาล่า รสชาบูน้ำดำ และแจ่วฮ้อน มาพร้อมกับน้ำซุปสูตรเข้มข้นที่ให้คุณอร่อยร้อนได้ทุกที่ทุกเวลา

ในกล่องถ้วยร้อนมีอะไรให้บ้าง? 

· มาม่าและเครื่องเคียง เมื่อเปิดซองมาจะเจอมาม่าและเครื่องเคียงอยู่ โดยแต่ละรสชาติจะมีเครื่องเคียงให้ไม่เหมือนกัน 

· ซองน้ำซุป ปกติแล้วมาม่าคัพทั่วไปจะให้มาเป็นผงน้ำซุปหรือผงปรุงรสแต่มาม่าถ้วยร้อนมาพร้อมกับน้ำซุปสูตรเข้มข้นที่เพียงแค่เติมลงไปก็อร่อยได้แบบไม่ต้องเติมอะไรเพิ่มเลย

· ถุงร้อน ที่เห็นเป็นถุงใหญ่ ๆ อยู่ในซองและมีข้อควรระวังต่าง ๆ บอกเอาไว้คือถุงร้อน เป็นอุปกรณ์ที่ควรใช้งานอย่างระมัดระวัง ควรทำในพื้นที่โล่งและอากาศถ่ายเทได้สะดวก หลีกเลี่ยงการจุดประกายไฟขณะชงเพราะอาจทำให้เกิดอันตรายได้

· ชามใส่มาม่า มีชามมาม่าสำหรับใช้ชงและทานมาให้ ในขั้นตอนของการชงจะต้องชงในชามที่ให้มาเท่านั้น

· ส้อม มีส้อมแพ็คมาอย่างดีเพื่อความสะอาดและเพื่อความสะดวกในการรับประทาน

วิธีการชงมาม่าถ้วยร้อน อร่อยได้ง่าย ๆ ไม่ง้อน้ำร้อนใน 5 นาที

· ใส่มาม่าลงในภาชนะพร้อมเครื่องเคียงทั้งหมด นำมาม่าและเครื่องเคียงใส่ลงไปในถ้วย จากนั้นเติมน้ำสะอาดตามขีดที่ระบุไว้แล้วเติมน้ำซุปลงไป วางพักไว้ก่อน

· แกะถุงร้อนและเติมน้ำ แกะถุงร้อนออกแล้วนำไปวางไว้ที่ก้นภาชนะ จากนั้นเติมน้ำลงไปตามขีดที่บอกไว้ด้านล่าง ถุงร้อนจะเริ่มทำปฏิกิริยากับน้ำจนมีความร้อนเกิดขึ้น จากนั้นให้นำถ้วยมาม่าที่เตรียมไว้วางลงไปด้านบนแล้วปิดฝาให้สนิท 

· ใช้เวลาต้ม 5 – 7 นาที สำหรับน้ำในอุณหภูมิห้องจะใช้เวลาต้ม 5 นาทีก็สามารถเปิดออกมาทานได้แล้ว แต่หากเป็นน้ำเย็นจะใช้เวลาอยู่ที่ 7 นาที เพียงเท่านี้ก็ได้มาม่าอร่อย ๆ ทานแล้ว 

นอกจาก มาม่าถ้วยร้อน ที่เราพูดถึงแล้วก็ยังมีให้เลือกอีกหลายยี่ห้อ หลายรสชาติ โดยที่นิยมคือ HOT CUP สไตล์เกาหลี, สไตล์เกาจีน มีวิธีการชงที่คล้าย ๆ แต่ว่าแต่ละรสชาติอาจใช้เวลาที่ต่างกัน ขึ้นอยู่กับเส้นแต่ละชนิด เพราะเส้นบางชนิดสุกง่าย เส้นบางชนิดสุกยาก ควรดูวิธีทำอีกครั้งเพื่อความมั่นใจ หากชอบรสชาติความอร่อยสไตล์ไหนก็เลือกทานกันได้เลย

เรียกว่าเป็นการชงมาม่าที่สะดวกสบายจริง ๆ เพียงมีติดบ้านไว้ก็หยิบออกมาทำทานได้ง่าย ๆ ทุกเมื่อ เหมาะสำหรับคนที่อยู่หอพักที่ไม่มีกาต้มน้ำ เมื่อหิวกลางดึกก็เปิดฝาชงทานได้เลย นอกจากนี้ยังพกไปทานนอกบ้านได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นการไปปิกนิกหรือไปแคมป์ก็อิ่มอร่อยได้

เครื่องบดกาแฟ อุปกรณ์สำคัญในการชงกาแฟที่ควรรู้ก่อนเลือก!

ดูเหมือนว่ากาแฟจะเป็นเครื่องดื่มที่ไม่เคยได้รับความนิยมน้อยลงไปเลย และดูเหมือนว่าจะเพิ่มขึ้นทุกวัน ๆ เพราะเป็นเครื่องดื่มที่มีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวและมีรสชาติที่อร่อย ทำให้ใครต่างก็ติดใจในรสชาติของกาแฟจนต้องซื้อเครื่องชงกาแฟมาไว้ที่บ้าน แต่ทราบหรือไม่ว่าการชงกาแฟให้อร่อยนั้นไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด โดยมีเคล็ดลับอยู่ที่ เครื่องบดกาแฟ ที่หากเลือกได้ถูกประเภทและมีระดับการบดที่เหมาะสมก็จะช่วยให้กาแฟมีรสชาติอร่อยและกลิ่นที่หอมขึ้นได้ วันนี้เราจึงจะพาไปทำความรู้จักกับอุปกรณ์ชิ้นนี้กันให้มากขึ้น

เครื่องบดกาแฟ มีกี่ประเภท แต่ละประเภทเหมาะกับการใช้งานแบบไหน?

· แบบมือหมุน เป็นเครื่องบดที่ทำงานโดยไม่ต้องใช้ไฟฟ้าแต่จะใช้มือหมุนเพื่อบดกาแฟให้ละเอียดแทน สามารถปรับระดับความละเอียดได้ รอบการบดค่อนข้างต่ำ ทำความเร็วได้ไม่มาก ทำให้เมล็ดกาแฟไม่แหลกละเอียดเหมือนการใช้เครื่องบดไฟฟ้า เครื่องบดกาแฟแบบมือหมุนเหมาะสำหรับการทำกาแฟดริป เพราะเป็นกาแฟที่ไม่ต้องใช้ความละเอียดของเมล็ดกาแฟมาก ทำให้ได้รสชาติกาแฟที่ดี เพียงนำเมล็ดกาแฟใส่ลงไปแล้วหมุนเพื่อบดก็ได้กาแฟบดสำหรับชงแล้ว ในระหว่างที่บดสามารถเปิดดูความละเอียดของเมล็ดกาแฟตามระดับที่ต้องการได้

· แบบไฟฟ้า เป็นแบบที่นิยมใช้ในร้านกาแฟ เพราะมีความเร็วรอบสูง สามารถบดกาแฟได้ด้วยความละเอียดสูง ปรับระดับความละเอียดได้ ใช้เวลาการบดน้อยและบดเมล็ดกาแฟได้ในปริมาณมาก มีให้เลือกทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ หากต้องการใช้ในร้านกาแฟควรเลือกเครื่องบดขนาดใหญ่เพราะมีกำลังบดที่มากกว่าและบดได้ละเอียดมากกว่า

อยากได้ความละเอียดระดับนี้ควรเลือกระบบการบดกาแฟแบบไหนดี?

· แบบใบมีด เป็นระบบบดที่นิยมใช้กับเครื่องบดกาแฟ มือหมุนและเครื่องบดไฟฟ้าขนาดเล็ก แต่การบดนั้นจะไม่ใช่การบดซะทีเดียวแต่จะใช้วิธีการสับด้วยใบมีดไปตามรอบเพื่อให้เมล็ดกาแฟละเอียด แต่จะทำความละเอียดได้ไม่มาก ใบมีดจะผลิตจากสแตนเลสหรือเหล็ก มีความคม และมีความทนทานค่อนข้างสูง

· แบบฟันบด เป็นระบบที่เพิ่มประสิทธิภาพการบดขึ้นมาอีกขั้น สามารถบดเมล็ดกาแฟได้ทั้งแต่ระดับหยาบน้อย หยาบมาก ไปจนถึงละเอียดที่สามารถบดได้ละเอียดถึงในระดับ espresso เลยทีเดียว นิยมใช้กับเครื่องชงแบบมือหมุนและเครื่องชงไฟฟ้าทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่

· แบบเฟืองบด เป็นชนิดที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ใช้กับเครื่องบดได้ทุกประเภท มีให้เลือก 2 แบบ ได้แก่ แบบแบน (Flat burr) ข้อดีคือปรับความละเอียดได้ง่ายว่าต้องการความละเอียดในระดับไหน และในการปรับฟันเฟืองแต่ละครั้งก็ทำให้สูญเสียเมล็ดกาแฟน้อย ส่วนแบบกรวย (Conical burr) มีจุดเด่นตรงที่สามารถบดกาแฟได้ละเอียดสม่ำเสมอ ทำให้ได้เมล็ดกาแฟที่มีความละเอียดเสมอกัน แต่ในการเปลี่ยนฟันเฟืองจะทำให้สูญเสียเมล็ดกาแฟไปค่อนข้างเยอะ

อยากให้เครื่องบดกาแฟใช้ได้นานควรดูแลอย่างไร?

· ใส่เมล็ดกาแฟแต่พอดี ไม่ใส่มากจนเกินไป ควรใส่เมล็ดกาแฟในปริมาณที่พอดีเพื่อเหลือพื้นที่ในการบด เพราะในระหว่างที่บดหรือหมุนจะต้องใช้พื้นที่ด้านในด้วย หากใส่มากเกินไปจะทำให้เมล็ดกาแฟบดไม่ละเอียด หรือละเอียดไม่ทั่วถึง

· เลือกใช้ให้ถูกประเภท เพราะเครื่องบดกาแฟแต่ละประเภทมีลักษณะการบดที่แตกต่างกัน จึงควรเลือกชนิดที่เหมาะสมกับการใช้งานเป็นหลัก เช่น หากชอบทานกาแฟดริปควรเลือกเครื่องบดแบบมือหมุน

· ไม่บดกาแฟทิ้งไว้ข้ามวัน ไม่ควรบดกาแฟทิ้งไว้หรือเก็บไว้ใช้หลายวันเพราะจะทำให้รสชาติ และกลิ่นของกาแฟเปลี่ยนไป ควรบดแค่ปริมาณที่ใช้ และหลังจากบดแล้วควรนำออกจากเครื่องบด เพราะหากไม่นำออกจะทำให้เกิดความชื้นและทำให้ใบมีด ฟันบด หรือเฟืองเป็นสนิมได้ง่าย

· ทำความสะอาดหลังใช้งาน เมื่อเลิกใช้งานควรเช็ดทำความสะอาดใบมีดและส่วนต่าง ๆ ให้สะอาดและผึ่งไว้ให้แห้ง เพราะหากเกิดความชื้นจะทำให้ใบมีดหรือวัสดุด้านในเป็นสนิมได้

เพราะความอร่อยของกาแฟขึ้นอยู่กับความละเอียดของเมล็ดกาแฟด้วย จึงควรเลือกเครื่องบดกาแฟให้เหมาะสมกับการใช้งานเพื่อให้ได้ความละเอียดที่ต้องการและช่วยให้กาแฟแก้วโปรดของคุณมีรสชาติที่อร่อยขึ้นได้

ราวตากผ้า เรื่องเล็ก ๆ ที่ไม่ควรมองข้าม เลือกอย่างไร แบบไหนทนทานและใช้ได้นาน

ราวตากผ้า เป็นของใช้ในบ้านที่เราใช้งานกันอยู่บ่อย ๆ เพื่อตากผ้าและเครื่องแต่งกายต่าง ๆ เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้ผ้าแห้งเร็วขึ้น เรียกว่าหากไม่มีอุปกรณ์ชิ้นนี้จะทำให้การตากผ้าเป็นเรื่องที่ยุ่งยากขึ้นได้ ถือเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นในการอยู่อาศัยเลยก็ว่าได้ เพราะหากเลือกไม่ดีจะทำให้ใช้งานได้ไม่นาน พังเร็ว และรองรับการใช้งานได้ไม่ดีพอ วันนี้จึงมีวิธีดี ๆ ในการเลือกซื้อมาบอกกันว่าแบบไหนที่ดี ทนทาน และแบบไหนที่จะตอบโจทย์การใช้งานของคุณ

ประเภทของ ราวตากผ้า มีแบบไหนบ้าง แต่ละแบบเหมาะกับการใช้งานแบบไหน

· แบบบาร์เดี่ยว เป็นราวตากราวเดียว ใช้ตากแบบแขวนหรือพาดก็ได้ มีให้เลือกทั้งทรงต่ำและทรงสูง เหมาะสำหรับผ้าที่มีปริมาณไม่มาก เหมาะสำหรับการใช้งาน 1 คน

· แบบบาร์คู่ เป็นราวตากแบบสองราวคู่ มีให้เลือกทั้งแบบชั้นเดียวและแบบสองชั้น เหมาะสำหรับการใช้งาน 1 – 2 คน ตากผ้าได้เยอะขึ้น สามารถใช้แขวนผ้าที่ยาว ๆ ได้โดยไม่ลากพื้นและไม่เสียทรง

· แบบหลายบาร์ เป็นชนิดที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะรองรับการตากผ้าได้เยอะกว่า มีบาร์แขวนหลายบาร์ มีให้เลือกทั้งแบบชั้นเดียวและแบบสองชั้นเช่นกัน ใช้แขวนก็ได้พาดก็ได้

· ราวตากพร้อมชั้นวาง เป็นราวที่ออกแบบมาให้มีชั้นวางที่ด้านล่างหรือด้านบนสำหรับวางตากรองเท้าหรืออื่น ๆ เป็นที่นิยมเช่นกันเพราะมีฟังก์ชันการใช้งานที่มากกว่า 

· ราวตากแบบยืดขยายได้ พับได้ เป็นราวที่ช่วยประหยัดพื้นที่ใช้สอยได้ดี นิยมใช้ในคอนโดหรือบ้านที่มีพื้นที่จำกัด ออกแบบมาให้ยืดขยายออกเพื่อใช้งานได้ เมื่อใช้เสร็จก็พับเก็บเข้าที่ได้ ไม่กินพื้นที่ ใช้งานง่าย สะดวก และตากผ้าได้เยอะ ส่วนมากแล้วจะทำออกมาเป็นแบบหลายบาร์ 

· แบบแขวนติดผนัง เป็นชนิดที่เห็นได้บ่อยในห้องน้ำ ซึ่งก็ไม่ได้มีให้เลือกแค่แบบติดผนังราวเดียวเท่านั้นแต่ยังมีบาร์ติดผนังสำหรับการตากผ้าหลาย ๆ ชิ้นด้วย นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับชั้นวางที่สามารถใช้งานได้ทั้งการแขวนและวางเสื้อผ้า นิยมใช้ตามโรงแรม รีสอร์ต 

สิ่งที่ควรรู้ในการเลือกซื้อ เลือกอย่างไร ควรคำนึงถึงอะไรบ้าง?

· เลือกประเภทที่เหมาะกับพื้นที่ ราวแต่ละชนิดมีลักษณะที่แตกต่างกัน ในการเลือกซื้อจึงควรเลือกขนาดที่เหมาะสมกับพื้นที่เพื่อความสะดวกในการใช้งาน เช่น หากมีพื้นที่ไม่มากควรเลือกแบบพับได้ บาร์เดี่ยว หรือบาร์คู่แบบตั้งพื้น แต่หากมีพื้นที่เยอะหน่อยและมีสมาชิกหลายคนควรเลือกแบบบาร์คู่สองชั้นหรือแบบสองบาร์ก็ได้

· เลือกจากขนาดที่เหมาะสมกับจำนวนผ้า เช่น หากบ้านมีสมาชิกหลายคนควรเลือกราวที่ตากผ้าได้เยอะ เช่น บาร์เดี่ยวแบบสองชั้น หรือราวตากแบบพับได้หลายชั้น 

· เลือกวัสดุที่มีความแข็งแรง ทนทาน ควรเลือกราวที่ผลิตจากวัสดุที่มีความทนทานและเหมาะสมกับการใช้งานเพื่อรองรับน้ำหนักได้อย่างเพียงพอ มีผลิตมาจากหลายวัสดุ ไม่ว่าจะเป็นราวตากผ้าสแตนเลส, เหล็ก, ไม้, อะลูมิเนียม โดยชนิดที่ได้รับความนิยมคือ ราวตากผ้าสแตนเลส เพราะมีความแข็งแรง ทนทาน ไม่เป็นสนิมง่าย มีน้ำหนักเบา และเคลื่อนย้ายง่าย 

· เลือกจากอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ เช่น ชั้นวางของหรือชั้นตากผ้าที่เพิ่มเข้ามาด้านบน ด้านล่าง และด้านข้าง

วิธีดี ๆ ในการดูแลรักษาราวตากผ้าให้ใช้งานได้นาน

· ไม่ตากผ้าปริมาณที่มากจนเกินไป เพราะหากตากมากเกินไปจะทำให้ราวรับน้ำหนักไม่ไหวและแอ่นหรือหักได้

· ตากบนพื้นที่เสมอกัน เพื่อป้องกันไม่ให้ราวล้มง่ายจากแรงลมที่พัด

· เก็บผ้าออกจากราวเมื่อไม่ใช้ เมื่อผ้าแห้งแล้วควรเก็บออกจากราวเพื่อไม่ให้ราวรับน้ำหนักมากเกินไป 

· เก็บราวเข้าร่มเมื่อไม่ใช้ เมื่อเลิกใช้งานแล้วควรเก็บเข้าร่มเพื่อช่วยยืดอายุการใช้งานและป้องกันแสงแดดที่จะทำให้วัสดุเสื่อมสภาพลงได้

เพราะราวตากผ้าเป็นอุปกรณ์ที่จำเป็นและมีผลต่อเสื้อผ้าของเราจึงควรเลือกให้ดีและเหมาะสมกับการใช้งาน เพื่อให้ใช้งานได้นานขึ้นและไม่ต้องเสียเงินซื้ออยู่บ่อย ๆ 

โซฟาปรับนอน โซฟาอเนกประสงค์สารพัดประโยชน์ที่ทั้งสะดวกและสบาย

ต้องบอกว่า โซฟาปรับนอน นั้นเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้เฟอร์นิเจอร์ชิ้นอื่นเลยจริง ๆ เพราะมีดีไซน์ที่ทันสมัยและออกแบบมาให้ใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง ทำให้ถูกใจหลาย ๆ คนมากขึ้น สำหรับใครที่มีแพลนจะซื้อโซฟาเข้าบ้านหรือคอนโด เราลองไปดูประโยชน์ของเจ้าโซฟาเบดนี้กันดูสักหน่อยดีกว่าว่าจริง ๆ แล้วมีแบบไหนให้เลือกบ้าง มีประโยชน์อย่างไร และมีเคล็ดลับในการเลือกซื้ออย่างไรบ้าง?

โซฟาปรับนอน มีกี่ขนาด มีแบบไหนให้เลือกบ้าง? 

หลายคนคิดว่าโซฟามักจะมีขนาดที่ใหญ่และการเลือกซื้อโซฟาเข้าห้องหรือเข้าบ้านสักตัวหนึ่งเป็นเรื่องที่ยุ่งยากแต่ความจริงแล้วไม่ยุ่งยากเลยเพราะโซฟาเบดมีให้เลือกตั้งแต่ขนาดเล็กสำหรับ 1 คน ที่เป็นได้ทั้งโซฟานั่งเล่น โซฟานั่งพักผ่อน และโซฟาแบบปรับนอนได้ เหมาะสำหรับการใช้ในห้องนอนหรือห้องทำงาน จากนั้นขยับขนาดให้ใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ มีแบบ 2 ที่นั่ง แบบ 3 – 4 ที่นั่ง และแบบ 5 – 6 ที่นั่ง เมื่อปรับเป็นแบบนอนแล้วสามารถใช้งานได้หลายคน เช่น โซฟาแบบ 3 – 4 ที่นั่งที่เมื่อปรับนอนแล้วก็จะนอนได้ 3 – 4 คน ในการเลือกซื้อจึงควรเลือกขนาดที่เพียงต่อการใช้งาน

การเลือกโซฟาปรับนอนควรพิจารณาจากอะไรบ้าง?

· เลือกไซส์ของโซฟา ขนาดของโซฟาแบบปรับนอนได้เป็นสิ่งจำเป็นในการเลือกซื้อ นอกจากจะต้องเลือกขนาดที่เหมาะสมกับสมาชิกในบ้านแล้วยังควรเลือกขนาดที่เหมาะสมกับพื้นที่ด้วย เพราะเมื่อกางออกแล้วจะใช้พื้นที่เพิ่มขึ้น ทำให้พื้นที่ใช้สอยน้อยลงได้

· เลือกจากประเภทของโซฟา โซฟาแบบปรับนอนก็มีลักษณะเหมือนกับโซฟาแบบทั่วไปที่ออกแบบมาให้เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ต่าง ๆ เช่น หากต้องการตั้งไว้ที่บริเวณมุมของห้องควรเลือกโซฟารูปตัว L เพื่อให้เข้ามุมห้องได้พอดี ซึ่งก็มีให้เลือกทั้งแบบเข้ามุมซ้ายและแบบมุมขวา ควรเลือกให้ถูกประเภท

· เลือกจากความกว้าง ความยาว และความสูง เพราะแต่ละรุ่นอาจมีขนาดไม่เท่ากันแม้ว่าจะเป็นโซฟา 3 ที่นั่งเหมือนกันก็ตาม จึงควรตรวจดูให้แน่ใจว่าขนาดแต่ละด้านมีความกว้าง ความยาว และความสูงเท่าไหร่ เพื่อให้รองรับการนอนของตัวเองได้ เช่น คนสูง ที่นอนแล้วขาอาจเกินที่นอนได้

· เลือกจากวัสดุที่ใช้ ผิวของโซฟาเป็นส่วนสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามเพราะให้สัมผัสที่ดีในการใช้งานได้ มีผลิตจากวัสดุหลายชนิด อาทิ หนังแท้, หนังเทียม, หนัง PVC, ผ้าฝ้ายและผ้าลินิน, ผ้าโพลีเอสเตอร์ ฯลฯ 

· เลือกจากโทนสี โทนสีเย็นหรือโทนสีอ่อนจะช่วยให้ดูสบายตามากขึ้น เนื่องจากโทนสีนั้นมีผลต่อทางด้านอารมณ์และความรู้สึก แต่หากใครมีสีที่ชอบหรือสไตล์ที่ใช่ก็สามารถเลือกให้แมทช์กับการตกแต่งห้องได้ 

· เลือกจากฟังก์ชันเสริมต่าง ๆ นอกจากฟังก์ชันที่ปรับให้นอนได้แล้วยังมีฟังก์ชันเสริมอื่น ๆ ด้วย เช่น ช่องเก็บของใต้เบาะนอน ลิ้นชักเก็บของด้านข้าง ฯลฯ

· เลือกจากโครงสร้างที่แข็งแรง เพราะเป็นโซฟาที่ใช้นอนได้จึงควรเลือกโครงสร้างที่แข็งแรงเพื่อรองรับน้ำหนักที่เพียงพอในการใช้งาน เช่น โครงไม้ โครงอะลูมิเนียม ฯลฯ

6 ประโยชน์ของโซฟาแบบปรับนอน ดีอย่างไร จำเป็นต้องมีหรือไม่?

1. ใช้งานได้ทั้งแบบนั่งและแบบนอน นอกจากจะใช้เป็นโซฟานั่งเล่นตามมุมต่าง ๆ ของห้องแล้วยังสามารถปรับนอนได้แบบสบาย ๆ 

2. ประหยัดพื้นที่ เป็นโซฟาที่ขยายและย่อส่วนได้จึงไม่ทำให้กินพื้นที่จัดเก็บ มีพื้นที่ไม่มากก็สามารถมีไว้ในห้องได้

3. ใช้งานง่าย สะดวกสบาย เพียงดึงออกโซฟาก็ปรับขยายเป็นแบบนอนแล้ว เมื่อใช้เสร็จก็ดันกลับเข้าที่เดิมได้เลย

4. เป็นโซฟารับแขก ใช้เป็นโซฟารับแขกในบ้านหรือคอนโดได้

5. ใช้เป็นที่นอนเสริมได้ สามารถดึงออกเพื่อใช้เป็นที่นอนเสริมสำหรับรับแขกได้

6. เป็นมุมพักผ่อนที่ดี ด้วยคุณสมบัติการใช้งานทำให้โซฟาตัวนี้กลายเป็นมุมโปรดของหลาย ๆ คนที่ใช้ในการนั่งพักผ่อนและทำกิจกรรมต่าง ๆ 

จะเห็นว่าประโยชน์ของโซฟาปรับนอนนั้นมีเยอะเลย อีกทั้งยังมีให้เลือกหลายสไตล์ เป็นโซฟาที่เหมาะสำหรับการนั่งเล่น นอนอ่านหนังสือ ดูทีวี ดูภาพยนตร์ และอื่น ๆ เป็นเฟอร์นิเจอร์ดี ๆ ที่ควรมีติดบ้านไว้เพราะจะใช้นั่งก็ดี จะใช้นอนก็ยิ่งสบาย

รู้ก่อนนอน! ที่นอน แต่ละแบบเป็นอย่างไร แบบไหนที่เหมาะกับการนอนของคุณ?

การเลือก ที่นอน ดูเหมือนว่าจะเป็นเรื่องเล็ก ๆ แต่ความจริงแล้วมีรายละเอียดมากกว่าที่คิด เพราะการนอนเป็นช่วงเวลาที่สำคัญสำหรับทุกคน หากเลือกไม่ดีก็จะส่งผลต่อการนอนด้วย ทำให้นอนไม่สบายตัวหรือนอนไม่หลับได้ สำหรับใครที่กำลังจะซื้อเราลองไปทำความรู้จักกับแต่ละประเภทกันก่อนดีกว่าว่าแต่ละแบบเป็นอย่างไร แบบไหนที่เหมาะกับการใช้งานของคุณ

ประเภทของ ที่นอน แตกต่างกันอย่างไร แต่ละชนิดดีอย่างไร

· สปริง เป็นชนิดที่นิยมมากที่สุดเลยก็ว่าได้ โดยสปริงที่นำมาใช้มี 3 แบบ ได้แก่ สปริงแบบ Bonnell Spring Mattress เป็นสปริงแบบดั้งเดิมที่นำมาใช้โดยไม่ได้ใช้เทคนิคพิเศษเหมือนแบบอื่น ๆ ทำให้มีราคาที่ถูกกว่าแบบอื่น ๆ และมีเสียงดังกว่าแบบอื่น โดยเกิดจากการเสียดสีกันของสปริงเมื่อรองรับน้ำหนัก ทำให้สปริงผิดทรงได้ง่าย, Offset Spring Mattress เป็นสปริงที่มีการทำงานแบบเชื่อมโยง มีความยืดหยุ่นต่ำ มีความแข็งกระด้างค่อนข้างสูง รองรับน้ำหนักได้ค่อนข้างมากแต่จะไม่กระจายตัว เมื่อขยับตัวจะทำให้คนข้าง ๆ รู้สึกถึงแรงขยับตามไปด้วย และแบบ Pocket Spring Mattress เป็นสปริงที่ทำงานแบบแยกอิสระ มีความเสียดสีต่ำ รองรับน้ำหนักได้มาก เมื่อขยับตัวแรงสะเทือนจะไม่รบกวนคนข้าง ๆ เป็นชนิดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดแต่ก็มีราคาสูงกว่าแบบอื่น ๆ เช่นกัน

· ยางพารา เป็นชนิดที่ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน เพราะที่นอนยางพารามีประโยชน์ค่อนข้างมาก โดยเฉพาะยางพาราแท้ที่มีประสิทธิภาพสูง เป็นชนิดมีความยืดหยุ่นค่อนข้างสูง มีน้ำหนักเบาและรองรับน้ำหนักได้มาก ไม่ยุบตัวง่าย ช่วยลดการกดทับจากการนอนเป็นเวลานาน เมื่อเรานอนยางพาราจะยุบตามลักษณะตัว ทำให้นอนสบาย ช่วยลดอาการปวดเมื่อยตามร่างกาย เช่น อาการปวดหลัง ฯลฯ ไม่เสียรูปทรงง่าย คืนตัวเร็ว มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน จัดเก็บง่าย สามารถม้วนเก็บได้ไม่กินพื้นที่จัดเก็บ มีราคาค่อนข้างสูง

· ใยมะพร้าว เหมาะสำหรับคนที่ชอบนอนแบบแข็ง ๆ ช่วยลดอาการปวดหลังลงได้ ข้อดีคือ มีน้ำหนักค่อนข้างเบา เคลื่อนย้ายง่าย คงรูปได้ดี ไม่เสียรูปทรงง่าย แต่ค่อนข้างแข็งกระด้าง

· ฟองน้ำ เป็นการนำฟองน้ำมาอัดขึ้นรูปในขนาดต่าง ๆ มีน้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายง่าย มีความยืดหยุ่นสูง นุ่มนอนสบาย ให้ความรู้สึกคล้าย ๆ กับที่นอนยางพารา แต่รองรับน้ำหนักได้น้อยกว่า มีราคาค่อนข้างถูก

· นุ่น ข้อดีคือ ระบายอากาศได้ดีและช่วยลดไรฝุ่นได้ มีน้ำหนักค่อนข้างเบา รองรับน้ำหนักได้ดี นอนแล้วไม่ทำให้เป็นหลุม มีราคาค่อนข้างถูก มีอายุการใช้งานหลายปี

ผลกระทบต่อการเลือกใช้ที่นอนไม่ถูกประเภท

· ทำให้นอนไม่หลับ เพราะแต่ละคนมีลักษณะการนอนที่ไม่เหมือนกัน บางคนชอบนอนแบบแข็ง ๆ บางคนชอบนอนแบบนุ่ม ๆ หากให้คนที่ชอบนอนแบบแข็ง ๆ มานอนแบบสปริงก็จะทำให้ปวดหลังได้ ทำให้รู้สึกนอนไม่สบายและนอนไม่หลับในที่สุด 

· ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตประจำวัน เมื่อร่างกายได้รับการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอก็จะส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ทำให้รู้สึกอ่อนเพลีย ไม่กระปรี้กระเปร่า รู้สึกง่วงนอนตลอดเวลา ส่งผลให้ประสิทธิภาพการดำรงชีวิตในด้านต่าง ๆ ลดลง

· ส่งผลเสียต่อสุขภาพทั้งในระยะสั้นและในระยะยาว การนอนไม่หลับไม่เพียงส่งผลในระยะสั้นสำหรับการใช้ชีวิตประจำวันเพียงอย่างเดียวแต่ยังส่งผลเสียต่อร่างกายในระยะยาวด้วย เช่น เมื่อมีอาการปวดหลังเป็นเวลานาน ๆ ก็จะส่งผลต่อกระดูกสันหลังจนถึงขั้นต้องผ่าตัดได้

การดูแลรักษาที่นอน ทำอย่างไรให้ใช้งานได้นาน ๆ 

· ดูดฝุ่นอยู่เสมอ ปัญหาไรฝุ่นเป็นปัญหาที่เจอได้บ่อยและเป็นสาเหตุของการเกิดโรคภูมิแพ้ จึงควรดูดฝุ่นอยู่เสมอ อย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้งเพื่อกำจัดไรฝุ่น

· นำไปตากแดดบ้าง ควรนำไปตากแดดอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้งเพื่อฆ่าไรฝุ่นและลดกลิ่นอับหรือกลิ่นไม่พึงประสงค์

· กลับด้านเพื่อช่วยลดรอยยุบ ควรกลับด้านทุก ๆ 3 เดือนเพื่อป้องกันไม่ให้ยุบเป็นรอยนอนและช่วยป้องกันไม่ให้เสียทรงได้ 

เพราะที่นอนเป็นสิ่งสำคัญต่อการนอนจึงควรเลือกให้ดีและเหมาะกับการนอนของตัวเองเพื่อการนอนหลับที่ดียิ่งขึ้น และหมั่นทำความสะอาดอยู่เสมอเพื่อความสะอาดและช่วยป้องกันการเกิดโรคภูมิแพ้

ผ้าห่มนาโน มีประโยชน์จริงหรือแค่ความสวย? ดีอย่างไร ทำไมถึงนิยมใช้?

ในช่วงนี้เราคงได้เห็นใครหลายคนหันมาใช้ ผ้าห่มนาโน กันมากขึ้น เพราะเป็นผ้าห่มที่กำลังได้รับความนิยม เนื่องจากมีคุณสมบัติเฉพาะตัวและมีลวดลายผลิตออกมาให้เลือกซื้อหลากหลาย ทำให้เข้าถึงผู้ใช้งานได้มากขึ้น แต่ทราบหรือไม่ว่าผ้าห่มลายสวย ๆ หรือลวดลายน่ารักต่าง ๆ นั้น ถือเป็นเครื่องนอนที่ได้รับความนิยมเพราะใช้ดีจริง ๆ หรือเพียงแค่เพราะความสวยงามของลวดลายเพียงอย่างเดียวเท่านั้น สำหรับใครที่กำลังสงสัยอยู่เราจะพาไปหาคำตอบกัน

ประโยชน์ของผ้าห่มนาโนที่ไม่ได้มีดีแค่ความสวยงาม

· สัมผัสนุ่ม สบายผิว ถือเป็นจุดเด่นของผ้าห่มชนิดนี้เลยก็ว่าได้ เพราะความนิ่มนี้เองที่ทำให้ใคร ๆ ต่างหลงรัก แต่ทราบหรือไม่ว่าสาเหตุที่ทำให้เกิดความนุ่มนั้นคือกระบวนการผลิต โดยผลิตจากเส้นใยนาโนขนาดเล็กที่มีระดับประมาณ 100 นาโนเมตร จึงทำให้เส้นใยมีความนุ่มมากเป็นพิเศษเมื่อเทียบกับผ้าห่มชนิดอื่น ทำให้รู้สึกสบายผิวเมื่อสัมผัส ช่วยให้นอนหลับได้สบายมากขึ้น 

· ให้ความอบอุ่นได้ดี แม้จะมีขนาดไม่หนามากแต่มีเส้นใยที่เล็กมาก ทำให้ให้ความอบอุ่นได้ดี เมื่อนำมาห่มแล้วรู้สึกอุ่นขึ้นได้

· ไม่เป็นขุย ไม่ก่อให้เกิดการแพ้ ความพิเศษของผ้าห่มนาโนคือไม่เป็นขุย แม้ว่าจะมีลักษณะเป็นขน ๆ แต่ก็ไม่ทำให้เป็นขุยหรือมีขุยผ้าหลุดออกมาจนทำให้เกิดการแพ้ เป็นผ้าห่มที่เหมาะสำหรับคนที่แพ้ง่าย 

· ระบายอากาศได้ดี ด้วยการผลิตแล้วทำให้ผ้าห่มชนิดนี้ระบายอากาศได้ดี สามารถใช้ได้ทั้งหน้าหนาวและหน้าร้อน สำหรับหน้าร้อนก็ไม่ทำให้ร้อนจนเกินไป สำหรับหน้าหนาวก็อุ่นได้กำลังดี

· แห้งเร็ว ไม่ทำให้เกิดเชื้อรา หากใครที่เคยใช้จะทราบดีว่าผ้าห่มชนิดนี้แห้งเร็วมาก ตากแดดเพียงไม่กี่ชั่วโมงก็แห้งแล้ว ช่วยลดเวลาการตากลงได้มาก อีกทั้งยังทำความสะอาดง่าย เป็นผ้าที่อุ้มน้ำได้ดี เมื่อถูกน้ำแล้วมีขนาดเล็ก สามารถซักรวมกับผ้าชนิดอื่นได้และซักเครื่องได้แบบสบาย ๆ เลย

· มีน้ำหนักเบา ข้อดีที่เห็นได้ชัด ๆ อีกหนึ่งอย่างคือ เป็นผ้าที่มีน้ำหนักเบามากเมื่อเทียบกับผ้าห่มชนิดอื่น ช่วยเพิ่มความสะดวกในการใช้งานได้เป็นอย่างดี

· พกพาง่าย ด้วยน้ำหนักที่เบานี้เองที่ทำให้พกพาได้ง่าย เหมาะสำหรับการพกพาไปใช้ในสถานที่ต่าง ๆ เช่น พกไว้ใช้บนรถยนต์ พกไปปิกนิก พกไปแคมป์ปิ้ง พกไว้ใช้บนเครื่องบิน หรือพกไว้ใช้ในการเดินทางต่าง ๆ 

· มีอายุการใช้งานที่นาน ด้วยคุณสมบัติของนาโนแล้วทำให้มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ไม่เสื่อมสภาพเร็ว และมีอายุการใช้งานมากกว่าผ้าห่มแบบทั่วไปมากถึง 3 เท่า เรียกว่าเป็นผ้าห่มที่ใช้งานได้คุ้มค่าคุ้มราคาจริง ๆ 

· มีให้เลือกหลายขนาด มีให้เลือกตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ เช่น ขนาด 45 x 80 เซนติเมตร หรือขนาด 110 x 140 เซนติเมตร เป็นผ้าห่มขนาดเล็กสำหรับพกพา, ขนาด 3 – 3.5 ฟุต เหมาะสำหรับการใช้งานคนเดียว จะใช้ห่มได้พอดีตัว, ขนาด 5 ฟุต กว้าง ยาวประมาณ 150 x 200 เซนติเมตร เหมาะสำหรับการใช้งาน 1 – 2 คน และผ้าห่มนาโน 6 ฟุต เป็นผ้าห่มขนาดใหญ่ 180 x 200 เซนติเมตร เหมาะสำหรับใช้งาน 2 คน 

· ราคาไม่แพง มีให้เลือกตั้งแต่ราคาหลักสิบไปจนถึงหลักร้อย หากเป็นขนาดเล็กสำหรับพกพาจะเริ่มต้นที่หลักสิบ และขยับราคาขึ้นตามขนาด

เคล็ดลับการเลือกผ้าห่มนาโนให้ได้ของดีและถูกใจ

· เลือกจากคุณภาพเป็นหลัก แม้จะหาซื้อได้ง่ายแต่ในการเลือกซื้อนั้นควรเลือกผ้าห่มแบบนาโนที่คุณภาพดีเพราะมีมาตรฐานการผลิตที่มั่นใจได้มากกว่า

· เลือกขนาดที่เหมาะสมกับการใช้งาน เพราะจะช่วยให้ใช้งานได้สบายมากกว่า หากเลือกขนาดเล็กเกินไปจะทำให้ห่มได้ไม่มิด หรือหากใช้งาน 2 คนควรเลือกผ้าห่มนาโน 6 ฟุตที่มีขนาดใหญ่

ผ้าห่มเป็นของใช้ที่จำเป็นในการนอน ไม่ว่าจะเป็นการพักผ่อนในบ้านหรือนอกบ้าน หากต้องการผ้าห่มที่พกพาง่ายและมีประโยชน์ดี ๆ แบบนี้ผ้าห่มนาโนก็เป็นทางเลือกที่ดี เพราะพกพาง่ายพกไปไหนมาไหนก็สะดวก

 

เลือกปรุงอาหารจานโปรดและใช้ประโยชน์หลากหลายได้อย่างสะดวกด้วยไมโครเวฟ

การเลือกใช้อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่มาจากนวัตกรรมของเทคโนโลยีได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของการดำชีวิตไปเสียแล้ว อุปกรณ์ต่าง ๆ ในห้องครัวก็เช่นกัน ซึ่งจะเป็นมากกว่าอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า แต่สามารถใช้ประโยชน์ได้อย่างหลากหลาย ไมโครเวฟ ก็เป็นอีกหนึ่งไอเทมในห้องครัวที่ไม่ได้มีไว้เพียงแค่การอุ่นอาหารเท่านั้น แต่ว่าในปัจจุบันได้มีการพัฒนาประโยชน์จากการใช้งานได้อย่างคุ้มค่า เพื่อให้เกิดความสะดวกสบายกับผู้ใช้งานได้มากที่สุด ซึ่งก็สามารถตอบโจทย์ให้กับวิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่ได้อย่างลงตัวจริง ๆ ทำให้วันเร่งรีบก็ยังทำอาหารจานโปรดได้โดยใช้เวลาไม่นานเลย ก็ได้อาหารปรุงสุกใหม่ หรืออุ่นอาหาร นอกจากนี้ยังใช้ประโยชน์ได้อีกหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นการละลายอาหารแช่แข็ง หรือประโยชน์อื่นที่ไม่ใช่เกี่ยวกับการทำอาหารและที่สำคัญควรเลือกแบรนด์ที่น่าเชื่อถือ

5 สิ่งต่อไปนี้ที่จะได้จากการเลือกใช้ไมโครเวฟคุณภาพ

1. เพิ่มความสะดวกสบายในการทำอาหารถึงแม้จะบอกว่าไม่ชอบทำอาหาร หรือว่าทำอาหารไม่เก่งก็ตาม แต่เชื่อว่าทำได้อย่างแน่นอนอย่างน้อยก็เมนูไข่ ตุ๋น ต้ม ดาว หรือต้มมาม่าก็ได้หลายอย่างไม่ซ้ำ จะอยู่หอพัก คอนโดมิเนียม หรืออยู่บ้านก็ไม่มีปัญหาเรื่องควันและกลิ่นมากเกินไปนัก หรือเมนูอบกับปิ้งก็ยังได้ อย่างปิ้งขนมปัง ในปัจจุบันบางสถานที่อาจจะไม่เอื้อต่อการใช้เตาแก๊สและเตาถ่าน ก็เลือกไมโครเวฟแทน

2. การอุ่นอาหารที่สามารถทำได้เพียงเวลา 1-3 นาทีเท่านั้น ไม่ต้องรอนาน ยิ่งในช่วงเวลาโรคระบาด ซึ่งต้องหุงหาอาหารที่ปรุงสุก กินร้อน ใช้ช้อนกลาง ทุก ๆ อย่างต้องสะอาดเอาไว้ก่อน เพื่อป้องกันการระบาดสู่ผู้อื่น และยังเป็นวิธีการป้องกันตัวเองที่ดีที่สุดอีกด้วยเช่นกัน ต้องเลือกไมโครเวฟ Sharp เพื่อประสิทธิภาพของการทำงานที่กระจายความร้อนได้ทั่วถึง โดยจานหมุนจะหมุนสัมพันธ์กับตัวคลื่นไมโครเวฟ ทำให้ได้รับคลื่นอย่างสม่ำเสมอ สุกร้อนทั่วถึง

3. ไมโครเวฟสามารถฆ่าเชื้อโรคได้ โดยเฉพาะของใช้ในครัว ของใช้เด็กอ่อนจำพวก ขวดนม ผ้าเช็ดมือ ผ้ากันเปื้อน ฟองน้ำล้างจาน หรือแม้แต่เขียง เป็นต้น เพื่อกำจัดความชื้นออกไปจากของใช้ รวมถึงการป้องกันเชื้อรา แบคทีเรียสะสม เพียงแต่ควรระวังในของใช้ที่ทำมาจากสแตนเลส หรือพลาสติกบางชนิดที่ไม่ทนความร้อน ก็ไม่ควรนำเข้าเตา 

4. ใช้ละลายน้ำแข็ง ไม่เฉพาะอาหารแช่แข็งเท่านั้น แต่รวมถึงในอาหารที่มักเกาะตัวเป็นก้อนแข็ง อย่างเช่น น้ำตาลปึก น้ำอ้อย น้ำเชื่อม ก็สามารถละลายให้กลับมาอยู่ในสภาพพร้อมใช้งานได้ด้วยการอบในเวลาไม่เกิน 30 วินาทีเท่านั้น

5. ใครที่ชอบการนวดลูกประคบ หรือต้องการประคบร้อนด้วยถุงร้อนก็แสนสะดวกรวดเร็วไม่ต้องเปิดเตาแก๊สนึ่ง หรือต้มน้ำ ประหยัดเวลาได้อีกมากทีเดียว

ไมโครเวฟ Sharp มีดีที่ต้องไม่อยากพลาดในการเป็นเจ้าของ

– ทุกกระบวนการ เริ่มตั้งแต่การผลิตได้ผ่านมาตรฐานการตรวจสอบคุณภาพที่การันตีได้ว่าปลอดภัยไม่มีการรั่วไหลของคลื่นไมโครเวฟ ให้ผู้ใช้งานได้รับอันตราย มั่นใจได้เกินร้อย สามารถใช้งานได้ตามโจทย์ความต้องการ ประหยัดไฟได้เหมือนกับเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดอื่น ๆ และที่สำคัญเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

– มีดีไซน์สวยและทันสมัยไม่ตกเทรนด์ รวมถึงโทนสีที่มีสไตล์เฉพาะตัวของแบรนด์ สามารถตั้งวางในห้องครัวได้อย่างเหมาะสมและลงตัวแน่นอน หรือถ้าหากใช้ในหอพัก หรือห้องพักก็ไม่ดูเกะกะ เพราะมีไซส์แบบกะทัดรัดประหยัดพื้นที่ใช้สอยมาให้เลือกสรรด้วย ถึงแม้มีงบจำกัดก็ยังซื้อได้ในรุ่นที่มีราคาจ่ายได้แบบสบายกระเป๋า

– ใช้งานง่ายและสามารถตั้งเวลาได้หลายระดับตามความต้องการเพราะแต่ละอย่างที่ใช้งานจะต้องตั้งเวลาและโหมดการทำงานแตกต่างกัน หรือเลือกรุ่นที่ตอบโจทย์การใช้งานทั้ง ต้ม อบ อุ่นและย่าง ต้องการระดับความสามารถแบบไหนก็มีให้เลือกอีกเช่นกัน

พร้อมทั้งการเลือกทำอาหารจานโปรดและยังมีประโยชน์อีกหลายอย่าง ทั้งช่วยให้ประหยัดเวลา ประหยัดไฟและประหยัดเงินในกระเป๋าจะได้อีกด้วยจะไม่เลือกไมโครเวฟสักเครื่องมาใช้งานได้อย่างไร…เพราะความสะดวกสบายคือปัจจัยที่คนรุ่นใหม่ต้องการ เหมาะสำหรับช่วงหยุดเชื้อเพื่อชาติ work at home หรือจะเรียนออนไลน์ เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 สังคมรอด ตัวเองก็ต้องรอเช่นกัน 

ปฏิทินจีน 2564 มีติดไว้ เพื่อให้ทุกวันเป็นวันที่ดีตลอดปีและตลอดไป 

ปฏิทินจีน 2564 ทำไมต้องเลือกใช้ปฏิทินตามตำราจีน…แม้จะเป็นความเชื่อส่วนบุคคล แต่ก็ไม่ใช่เรื่องงมงายที่ไร้สาระ เพราะว่าในการดำรงชีวิตของคนไทยเองก็เชื่อเรื่องวันดีและฤกษ์มงคลมาตั้งแต่สมัยโบราณ แม้กระทั่งการออกรบ ออกเรือน หรือทำบุญต่าง ๆ ก็จะต้องหาฤกษ์ที่ดีก่อน อย่างน้อยเพื่อความสบายใจว่าจะได้มีแต่สิ่งที่ดี ๆ ตามมา ถึงแม้จะต้องพบเจอกับปัญหา หรืออุปสรรคในภายภาคหน้าก็จะสามารถก้าวผ่านไปได้ หรือที่เรียกว่ากำลังใจก็ไม่น่าจะผิดมากนัก โดยเฉพาะในสมัยนี้การมีกำลังใจที่ดีคือสิ่งที่ทุกคนปรารถนา ถ้าเลือกใช้ปฏิทินแบบจีนจะได้มากกว่าการดูวัน/เดือนและปี เพราะจะมีรายละเอียดเกี่ยวกับตำราด้านโหราศาสตร์อยู่ในนั้นด้วย โดยสามารถหาฤกษ์งามยามดีได้ด้วยตัวเอง ไม่ต้องไปขอจากพระ หรือเสียเงินค่าจ้างซินแส 

ฤกษ์งาม ยามดีหาได้สะดวกจากปฏิทินจีน 2564 วันดี แบบไหนดี…

ฤกษ์งาม ยามดีคือ ปฏิทินจีน 2564 ที่มีวันดี เวลาเป็นมงคล ซึ่งความเชื่อนี้มีมาตั้งแต่คนจีนโบราณ และที่เข้ามาอยู่ในไทยก็ดำรงชีวิตจากการค้าขาย การหาฤกษ์ดีจากปฏิทินจีนตามตำราโบราณทำให้กิจการการค้าเจริญรุ่งเรือง จากยาจกเสื่อผืนหมอนใบกลายเป็นมหาเศรษฐี มั่งมีศรีสุข โดยเฉพาะในวันเริ่มต้นต่าง ๆ ทั้งการปลูกบ้าน แต่งงาน เปิดกิจการ เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้มีความหวัง มีความเข้มแข็งไม่ย่อท้อ

1. ปฏิทิน​ไทย-จีน จู​ป๋อ เป็นที่เลื่องลือในอีกชื่อหนึ่ง ปฏิทินใบ้หวย คอเลขเด็ดเลขดังย่อมไม่พลาดอย่างแน่นอน เพราะเรื่องการลุ้นโชคลาภจากหวยคือความสุขทางใจของใครหลาย ๆ คน อย่างน้อยก็ทุก ๆ วันที่ 1 และ 16ของเดือน นอกจากนี้ยังกำหนดวันสำคัญต่าง ๆ เอาไว้ตามหลักการหาฤกษ์ยามที่ดีของตำราจีนเพื่อให้การติดต่อการงานและการค้าขายทำธุรกิจประสบแต่ความสำเร็จ พร้อมทั้งมีการเขียนวันดี หรือวันธงไชย วันกาลกินี รวมถึงข้อห้ามต่าง ๆ และคำทำนายเอาไว้ด้วย วันดีในปี 2564 ที่จะหาได้ตลอดทั้งปี

2. ปฏิทิน​ไทย-จีน​ น่ำเอี๊ยงที่อยู่คู่กับคนไทยเชื้อสายจีนมานานหลายสิบปี สามารถดูฤกษ์ดี พยากรณ์ชะตา หาวันมงคล โดยเฉพาะในวันเปิดกิจการร้านค้า หรือการเริ่มตันธุรกิจใหม่ ๆ ต้องได้เริ่มต้นในวันที่ดีที่สุด เพื่อความเจริญรุ่งเรืองในอนาคตได้มีการขยายกิจการใหญ่โต นอกจากนี้ยังรวมถึงวันมงคลสมรส ออกรถใหม่ หรือขึ้นบ้านใหม่

3. ปฏิทิน100 ปีจีนที่นักโหราศาสตร์นิยมนำมาใช้งานเพื่อการทำนายอดีต-ปัจจุบันและอนาคตได้สอดคล้องและเชื่อว่ามีความแม่นยำมากขึ้น มีคำอธิบายเอาไว้ถึง 3 ภาษา ทั้งภาษาจีน-ไทยและอังกฤษ เพื่อให้ใช้งานได้อย่างกว้างขวางขึ้น

4. ปฏิทินจีน แบบแขวนผนังรูปเทพเจ้าฮก-ลก-ซิ่ว ที่มีความเชื่อว่าแทนสิ่งมงคล 3 ประการ คือ ฮก แทนความโชคดี ร่ำรวย เงินทองไหลมาเทมาไม่ขาดสาย ลก แทนความหมายการได้มาซึ่งยศถาบรรดาศักดิ์ การเลื่อนตำแหน่งหน้าที่การงานดีและมั่นคงมากขึ้น ซิ่ว แทนความหมายด้านการส่งเสริมสุขภาพที่ดีมีร่างกายและที่แข็งแรงและย่อมส่งผลให้มีจิตใจที่เข้มแข็งและมีความสุขตามไปด้วย นอกจากนี้ยังมีสีสันสวยงามสีแดงสะดุดตา ดูและอ่านได้ง่าย

ปฏิทินจีน นอกจากให้เลือกดูวัน/เดือนและเวลาที่ดี เป็นฤกษ์มงคลแล้วยังถือว่าเป็นไอเทมประจำปีที่มีสีสันสวยงามสะดุดตา สามารถตั้ง หรือแขวนเอาไว้อย่างลงตัวในบ้าน หรืออาคารสถานที่ต่าง ๆ อย่างที่ทำงาน ร้านค้า เป็นต้น ถือว่าได้ทั้งของใช้และของตกแต่งห้องไปในตัว อย่างน้อยถ้าอยากได้วันดี หรือเลขเด่นเมื่อไร ก็เปิดดูได้และคำนวณได้ด้วยตัวเอง เหมือนซื้อตำราโหราศาสตร์จีนได้ในราคาย่อมเยา แต่ไม่ใช่การเชื่อแบบงมงายไม่ทำมาหากิน นั่นก็ไม่ใช่แนวทางการดำเนินชีวิตที่ดี เพราะตามวิถีชีวิตคนจีนนั้นมักถูกเชิดชูเอาไว้ด้วยความขยัน เป็นสัญลักษณ์อย่างหนึ่งที่มองคนไทยเชื้อสายจีน จึงทำให้ได้กลายเป็นเศรษฐีมั่งมีเงินทอง แบบอย่างที่ดีเช่นนี้ ไม่ว่าคนไทย หรือคนเชื้อชาติใดเมื่อมีความขยันก็ย่อมไม่มีทางอับจนแน่นอน  

ทริคดี ๆ เลือก พัดลมไอเย็น แบบไหนถึงจะเย็นช่ำชื่นใจและคุ้มค่าเงิน 

ฤดูร้อนในเมืองไทยกำลังใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว และเมืองไทยเราก็ดูเหมือนจะมีฤดูร้อนที่ยาวนานกว่าฤดูอื่น ๆ เสียด้วย ก็คงถึงเวลาแล้วที่เราทุกคนจะเตรียมหาเครื่องมือที่จะมาต่อสู้กับความร้อนอันแสนโหด หนึ่งในตัวเลือกที่ดีในแบบที่ช่วยให้เย็นได้ในระดับหนึ่งและไม่กินไฟมากก็คือ พัดลมไอเย็น ซึ่งก็นับเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าอีกชนิดที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน

พัดลมที่ใช้ไอเย็นแบบนี้ที่เรามักจะเห็นมีใช้กันในครัวเรือนสถานที่ต่าง ๆ ก็จะมีแบรนด์พัดลมไอเย็นฮาตาริที่ได้รับความนิยมมาก แต่เรายังมีตัวเลือกพัดลมแบบนี้ในยี่ห้ออื่นไหม และถ้าจะเลือกซื้อมาใช้ควรจะเลือกแบบไหนอย่างไรดีถึงจะได้ความเย็นอย่างที่ต้องการและคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป มาดูทริค ๆ ดี ๆ ในการเลือกซื้อกันดีกว่า

จุดเด่น-จุดด้อย

ก่อนจะไปเริ่มดูทริคการเลือกซื้อให้คุ้มค่าตรงใจ ลองมาดูจุดเด่น-จุดด้อยของพัดลมไอเย็นกันก่อนดีกว่า จะได้เป็นสิ่งที่ช่วยให้คุณแน่ใจว่าควรจะซื้อดีหรือไม่ มีจุดเด่นอะไรบ้าง และจุดด้อยเป็นสิ่งที่เรารับได้ไหม

จุดเด่น

· ราคาถูกและประหยัดไฟได้มากกว่าการใช้แอร์หลายเท่า

· ช่วยลดอุณหภูมิได้จริง โดยเฉลี่ยส่วนใหญ่สามารถลดอุณหภูมิได้ตั้งแต่ 2 – 8 องศาเซลเซียส แต่ก็อาจมีบางยี่ห้อเช่นพัดลมไอเย็นฮาตาริบางรุ่น ที่ลดอุณหภูมิได้มากกว่านั้น

· ใช้งานง่าย เพียงแค่เติมน้ำและใส่แผ่นเจลเย็นเข้าไป

· เคลื่อนย้ายได้สะดวกสามารถนำไปใช้ในสถานที่ต่าง ๆ ได้

· สามารถดักจับฝุ่นละอองในอากาศได้ดีในระดับหนึ่ง

จุดด้อย

· ให้ความเย็นได้น้อยกว่าเครื่องปรับอากาศ

· ต้องคอยมีการเติมน้ำเปลี่ยนน้ำ หรือเปลี่ยนแผ่นเจลให้ความเย็น อาจจะไม่สะดวกในการใช้งานแต่ละครั้งสำหรับบางคน

· ตัวถังบรรจุน้ำจะต้องมีการนำออกมาล้างทำความสะอาดอยู่เป็นประจำเพื่อไม่เกิดการสะสมของเชื้อโรค จึงอาจเป็นความไม่สะดวกสำหรับบางคน ที่ต้องการใช้งานทันที

ทริคการเลือกซื้อให้ตรงใจ

ได้ทราบถึงจุดเด่น-จุดด้อยกันไปแล้ว หากใครคิดว่าจุดด้อยที่กล่าวมาข้างต้นไม่ใช่ปัญหา ทีนี้ก็มาดูเทคนิคการเลือกซื้อพัดลมไอเย็นให้ตรงใจตอบโจทย์การใช้งานกัน

พิจารณาเรื่องแผ่นรังผึ้งระบายความร้อน

พัดลมแบบใช้ไอเย็นทุกรุ่นทุกยี่ห้อจะมีแผ่นระบายความร้อนหรือแผ่นรังผึ้งอยู่ด้านหลังเครื่อง ซึ่งแผ่นนี้จะมีหน้าที่ช่วยดูดซับน้ำและทำให้อากาศไหลผ่านเพื่อช่วยระบายความร้อน ทำให้ลมที่ออกมาจากพัดลมเป็นลมเย็น ช่วยลดอุณหภูมิโดยรวม ซึ่งวัสดุที่นำมาทำแผ่นรังผึ้งนี้จะมีอยู่ 2 ชนิด คือ แอสเพน กับ เซลลูโลส ในวัสดุแบบแอสเพนนั้นอายุการใช้งานจะสั้นกว่า แต่ก็ทำให้ราคาของเครื่องถูกกว่า

ส่วนวัสดุแบบเซลลูโลส จะมีความทนทานและอายุการใช้งานจะยาวนานกว่า แต่แน่นอนว่าจะจะทำให้ราคาของเครื่องสูงขึ้นด้วย ตรงนี้ก็อยู่ที่งบประมาณของคุณ แต่แนะนำว่าจะซื้อทั้งที ซื้อแบบเซลลูโลสไปเลยก็ได้ ใช้งานได้ยาวนานคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปแน่นอน

ความแรงและโหมดฟังก์ชัน

ในเรื่องนี้แนะนำว่าให้เลือกซื้อพัดลมไอเย็นที่สามารถควบคุมระดับความแรงของพัดลม ปรับระดับความเร็วของการหมุนใบพัดได้ รวมไปถึงการมีโหมดฟังก์ชันให้ใช้งานได้หลากหลาย ซึ่งจะทำให้เกิดความอเนกประสงค์ในการใช้งานมากขึ้นตามโจทย์การใช้งานในหลายช่วงเวลาได้มากยิ่งขึ้นนั่นเอง

การใช้พลังงาน

แน่นอนว่าเรามักต้องการพัดลมที่ประหยัดไฟ แต่ต้องดูให้สัมพันธ์กับการใช้งานจริงด้วย เพราะถ้าคุณนำไปใช้ในห้องที่ค่อนข้างกว้างล่ะก็ ก็แนะนำว่าให้ใช้ขนาดเครื่องที่ใหญ่ขึ้น อาจจะใช้พลังงานมากขึ้นกินไฟเพิ่มขึ้นหน่อย แต่ก็เย็นกว่าใช้เครื่องเล็ก ๆ แน่นอน

คิดว่าทุก ๆ คนคงได้ไอเดียและทริค ๆ ดี ๆ ในการพิจารณาเลือกซื้อพัดลมไอเย็นกันแล้ว ใครที่รู้สึกว่าร้อนนี้ต้องมีเอาไว้สักเครื่องบ้างแล้ว เพราะพัดลมธรรมดาทั่วไปคงเอาไม่อยู่ก็จัดไปสักเครื่องเลย เลือกตามที่แนะนำมารับรองว่าคุณได้สินค้าที่ตรงใจแน่นอน