Donut jelly beans toffee cheesecake wafer dragée bonbon. Carrot cake caramels muffin macaroon bear claw. Ice cream unerdwear.com lemon drops donut oat cake cheesecake. Marshmallow dragée ice cream muffin candy canes. อ่านเพิ่มเติม “Piano and Guitar”
เบ็ดตกปลา
4 สิ่งที่ควรรู้ก่อนเลือก เบ็ดตกปลา คู่ใจให้ได้สิ่งที่ใช่มากที่สุด
การเลือก เบ็ดตกปลา เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญในกิจกรรมการออกไปตกปลา เนื่องจากการตกปลาเป็นงานอดิเรกที่หลาย ๆ คนชื่นชอบ เพราะการตกปลามีเสน่ห์ตรงที่สร้างความเพลิดเพลินใจและยังได้ฝึกสมาธิ เหมือนเป็นการได้อยู่กับตัวเอง การได้ปลาหรือไม่นั้นยังไม่สำคัญเท่ากับการได้นั่งตกปลาและการได้มีโอกาสเสาะหาอุปกรณ์ในการตกปลา ไม่ว่าจะเป็นไปนั่งริมแม่น้ำ หรือไม่นั่งริมขอบเรือกลางทะเล ทำให้ผู้ที่ยังเป็นมือใหม่จำเป็นต้องเรียนรู้ก่อนเลือกคันเบ็ดที่ใช่ เพราคนเบ็ดมีความแตกต่างกันตามขนาด น้ำหนักและความยาว จะสามารถเลือกได้อย่างไรให้เหมาะมือ เวลาถือดูทะมัดทะแมง ที่สำคัญยังใช้งานได้นาน
สิ่งที่นักตกปลาต้องรู้ก่อนออกล่ามีดังนี้
1. การเลือกเบ็ดตกปลาที่เหมาะสมกับสถานที่ ลักษณะการใช้งานและมองไปถึงชนิดของปลาที่จะออกไปตกปลานั้นด้วย เพื่อให้สามารถเลือกใช้งานคันเบ็ดให้เต็มประสิทธิภาพ หลาย ๆ คนยังมองเป็นเรื่องของการแข่งขันอีกด้วย และอาวุธในการเข้าแข่งขันที่สำคัญที่สุดก็คือ คันเบ็ด ถือว่าเป็นพระเอกเลยก็ไม่ผิด ในกลุ่มเพื่อที่รักสิ่งเดียวกันยังถือว่าการได้เป็นเจ้าของคันเบ็ดที่ประสิทธิภาพสูงสามารถเข้าสู่หัวเรื่องของการสนทนาได้ตลอดทั้งวันว่างเลยทีเดียว เบ็ดตกปลามี 2 ลักษณะหลัก ๆ คือ
– คันเบ็ดแบบสปินนิ่ง(Spining Rod) ที่เหมาะกับมือใหม่เพื่อใช้ในการฝึกฝนฝีมือการใช้งานเบ็ดตกปลา เพราะมีวิธีการใช้ที่สะดวกและสามารถเข้าใจได้ง่ายไม่ซับซ้อน
– คันเบ็ดแบบคาสติ้ง(Casting Rod) เรียกว่าเป็นคันเบ็ดสำหรับมืออาชีพที่ค่อนข้างชำนาญเรื่องการใช้เบ็ดตกปลา แน่นอนว่าเคยใช้แบบสปินนิ่งมาแล้วและรู้สึกอยากอัพเกรดมาใช้คันเบ็ดที่มีลูกเล่นที่ซับซ้อนมากขึ้น
นอกจากนี้ยังต้องคำนึงว่าจะไปตกปลาน้ำจืด หรือไปตกปลาทะเล เพราะถ้าไปทะเลควรเลือกเบ็ดตกปลาทะเลโดยเฉพาะจะเหมาะสมกว่า เพราะปลาน้ำจืดกับปลาทะเลมีความแตกต่างกัน ทั้งขนาด และลักษณะการอยู่อาศัย
2. การเลือกจากน้ำหนักของคันเบ็ด ซึ่งความถนัดของแต่ละคนแตกต่างกัน รวมถึงประเภทของปลาก็มีผลต่อการเลือกน้ำหนักคันเบ็ดด้วยเช่นกัน อย่างเช่น ปลาเกล็ดทั่วไปซึ่งจะมีน้ำหนักเบาก็เลือกคันเบ็ดที่มีน้ำหนักเบาและเรียวยาวขนาดน้ำหนักประมาณ 3-8 ปอนด์ การตกปลาที่มีน้ำหนักตัวมากอย่างปลาเขื่อน หรือปลาชะโดก็จะเลือกขนาดน้ำหนักที่มากขึ้นในระดับประมาณ 10-20 ปอนด์ และคันเบ็ดที่มีน้ำหนักสูงกว่า 20 ปอนด์ก็ใช้สำหรับการตกปลาที่มีขนาดใหญ่มาก
3. งบประมาณในการลงทุนซื้อคันเบ็ด เนื่องจากวัสดุที่นำมาทำคันเบ็ดและอุปกรณ์ต่าง ๆ นั้นมีคุณสมบัติแตกต่างกันไปจึงทำให้มีราคาที่แตกต่างกันด้วย อย่างเช่น ไฟเบอร์กลาสจะมีต้นทุนในการผลิตต่ำกว่าวัสดุกราไฟต์ ที่มีความทนทานกว่าจึงมีราคาค่อนข้างสูง
4. ความนิยม เพราะนักตกปลาจะมีกลุ่มสังคมเฉพาะ คล้าย ๆ กับนักกีฬาประเภทต่าง ๆ ความนิยมจะเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่กำหนดการเลือกใช้งานคันเบ็ดและอุปกรณ์ต่าง ๆ ในการตกปลา ไม่ว่าจะเป็นคันเบ็ดสำหรับการตกปลาน้ำจืด หรือเบ็ดตกปลาทะเลก็ตาม เพื่อไม่ให้ตกเทรนด์และพูดคุยกันในกลุ่มรู้เรื่องและเข้าใจ
อุปกรณ์อะไรบ้าง ที่ต้องมีให้ครบก่อนไปตกปลา
นอกจากเบ็ดตกปลาแล้วยังต้องมีอุปกรณ์อะไรอีกบ้างที่จำเป็น
– ชุดรอกตกปลาที่ต้องใช้งานคู่กับคันเบ็ดและเลือกได้ตามความเหมาะสมเพื่อนำไปใช้งานได้อย่างลงตัว เพื่ออำนวยความสะดวกเรื่องของการเคลื่อนไหว การเหวี่ยงเบ็ดและเมื่อมีปลากินเหยื่อจะสะดวกต่อการนำปลาขึ้นจากน้ำ
– เหยื่อสำหรับตกปลา ขาดไปไม่ได้ โดยปัจจุบันนี้มีให้เลือกสรรทั้งเหยื่อจริงและเหยื่อปลอม แล้วแต่ความสะดวกของแต่ละคน หรือการใช้เหยื่อปลอมนั้นเพื่อทดแทนเหยื่อจริงที่หาได้ยาก เนื่องจากสถานที่ไม่เอื้ออำนวย
– เรือสำหรับตกปลา ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือ เรือยาง เพราะว่าใช้งานสะดวกและพกพาไปด้วยได้ทุกที่
เมื่อคนพร้อม อุปกรณ์พร้อมก็สามารถออกไปตกปลาได้อย่างมั่นใจ ทั้งนักตกปลามือใหม่และมือโปรฯ
เก้าอี้สนาม
6 วิธีการเลือก เก้าอี้สนาม ได้อย่างตรงใจและใช้งานคุ้มค่า
เก้าอี้สนาม หรือจะเรียกว่าเก้าอี้สารพัดประโยชน์ก็ได้เช่นกัน เพราะว่านำมาใช้ประโยชน์ได้หลากหลายจริง ๆ ทั้งการใช้เป็นเก้าอี้นั่งเล่นในสวน ใช้ไปนั่งปิกนิก หรือจะใช้เพื่อไปเป็น เก้าอี้สนามเดินป่า แคมป์ปิ้ง เป็นต้น เนื่องจากการออกแบบมาเพื่อให้เกิดความคล่องตัว พกพาไปด้วยได้ทุกที่ที่ต้องการ มีความสะดวกสบายมากขึ้นทั้งการใช้งาน ด้านการดูแลและการเก็บรักษา จึงทำให้ได้รับความนิยมซื้อหามาเพื่อใช้งาน แต่จะเลือกอย่างไรเพื่อให้ได้ของที่มีคุณภาพ มีความแข็งแรงทนทาน สามารถใช้งานได้ยาวนาน มีความอเนกประสงค์ ตอบโจทย์ได้หลากหลายความต้องการ ทำให้ต้องมีวิธีการเลือกแบบมืออาชีพ ที่สำคัญไม่จำเป็นต้องจ่ายในราคาแพงเท่นั้น ราคาย่อมเยาที่เหมาะสมกับคุณประโยชน์ในการใช้งานก็ถือว่ามีความคุ้มค่าที่สุดแล้วเช่นกัน
6 วิธีการเลือกใช้งานเก้าอี้สนามได้อย่างชาญฉลาด
1. เลือกที่ทำมาจากวัสดุที่สามารถใช้ได้ตรงกับวัตถุประสงค์ในการใช้งาน เพราะทำมาจากวัสดุที่หลากหลาย อย่างเช่น การใช้งานกลางแจ้ง ตั้งแคมป์เดินป่า หรือมีปาร์ตี้สนามนอกบ้าน เป็นต้น เลือกที่ทำมาจากอะลูมิเนียม หรือสแตนเลสเพราะมีน้ำหนักเบา สะดวกต่อการขนย้ายและจัดเก็บหลังใช้งาน และยังมีความทนทานแข็งแรง พร้อมทั้งการรับน้ำหนักได้ค่อนข้างมาก จึงพร้อมพาไปลุยได้ในทุกกิจกรรม หรือถ้าเน้นการใช้งานตามชายทะเล ริมแม่น้ำ ควรเลือกวัสดุที่สามารถกันน้ำ กันความชื้นและกันสนิมได้ดี โดยเฉพาะตัวเบาะและพนักควรเลือกที่ทำมาจากไนลอนหรือใยโพลีเอสเตอร์เพราะว่าเป็นวัสดุที่มีคุณสมบัติกันน้ำได้ และยังจะสะดวกต่อการทำความสะอาดอีกด้วย
2. ขาตั้ง อีกหนึ่งส่วนสำคัญของเก้าอี้สนาม ที่ต้องเน้นเรื่องความแข็งแรง โดยเฉพาะบริเวณรอยต่อ ไม่ควรเกิดการชำรุดเสียหายได้ง่าย สามารถรับน้ำหนักได้ดี ถ้าเป็นรูปแบบที่สามารถพับเก็บได้ เมื่อเวลากางออกเพื่อใช้งานควรนั่งได้อย่างสบายตัว ไม่ทำให้รู้สึกไม่มั่นคง เพราะเวลานั่งจะเกร็งและมีความกังวลจนรู้สึกอึดอัด
3. ถ้าใช้เป็นเก้าอี้สนามเดินป่า หรือออกแคมป์ควรเลือกที่มีน้ำหนักเบากว่าเก้าอี้ปกติ โดยเฉพาะเมื่อต้องมีการเดินทางไกลด้วยเท้าก็จะไม่รู้สึกเป็นภาระในการแบกถือมากนัก
4. เลือกที่มีเบาะ หรือพนักพิงที่เน้นให้ความสบายตัวเป็นหลัก แล้วทุกการนั่งบนเก้าอี้สนามจะมีความผ่อนคลาย พร้อมกับสถานที่ที่ไปนั้นก็เหมือนได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นป่าเขา ภูเขา หรือทะเล จะสามารถเทความตึงเครียดจากหน้าที่การงานไปได้หมดแล้วชาร์จพลังงานชีวิตขึ้นได้ใหม่อย่างเต็มที่
5. สามารถกางออกและพับเก็บได้ง่าย โดยทำด้วยตนเอง ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ช่าง ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มก๊วนสาว ๆ หรือเด็กนักเรียน นักศึกษาใช้เพื่อไปเข้าค่าย ก็สามารถใช้งานได้เองอย่างง่ายดาย
6. สามารถเลือกใช้ฟังก์ชั่นเสริมที่มากกว่าการนั่งแบบสบาย ๆ อาทิ ที่พักแขน ช่องใส่ขวดน้ำ หรือมีครบชุดทั้งโต๊ะและเก้าอี้พับได้ ก็เพิ่มความสะดวกสบายขึ้นได้อีก แล้วแต่ความต้องการของแต่ละคน
เก้าอี้สนามไปไหนได้บ้าง สะดวกทุกที่ มีความสุขทุกครั้งในการเดินทาง
– ออกตั้งแคมป์นอกสถานที่ พกพาไปสะดวกกว่าการขนเก้าอี้ที่บ้านไปอย่างแน่นอน โดยเลือกแบบที่สามารถพับเก็บได้มีถุงบรรจุใส่ก็เหมือนกับการสะพายกระเป๋าเสื้อผ้า เมื่อต้องการใช้งานก็สามารถถอดประกอบเป็นเก้าอี้ได้ภายในไม่กี่นาทีเท่านั้น เหมาะสำหรับน้อง ๆ นำติดตัวไปเข้าค่ายลูกเสือ-เนตรนารี เข้าค่ายรด. หรือเข้าค่ายอาสา เป็นต้น
– การเดินป่า สำหรับนักผจญภัยทั้งหลาย ที่ชอบเดินทางเข้าป่าแต่ไม่ชอบมีของหนักพะรุงพะรัง เก้าอี้สนามสามารถตอบโจทย์ในความต้องการนี้ได้อย่างตรงใจแน่นอน แวะพักตรงจุดไหนก็นำเก้าอี้สนามเดินป่าออกมาใช้งานได้อย่างสะดวก
– นำติดตัวไปเที่ยวทะเล ไม่ต้องเช่า ไม่ต้องแย่งกับใคร เพราะสามารถใช้เก้าอี้สนามแบบส่วนตัวได้เลย นั่งนานแค่ไหนก็ได้ไม่ต้องกังวลเรื่องเวลา ประหยัดได้อีก
– นำไปจัดโซนในสวน หรือสนามหน้าบ้าน หรือบนดาดฟ้า พร้อมกับเต้นท์สนามแบบเข้าชุด เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศกับครอบครัว หรือการต้อนรับเพื่อนสนิท เป็นต้น เมื่อต้องการเก็บก็สะดวกและประหยัดพื้นที่ใช้สอยในการเก็บรักษา เพิ่มพื้นที่ในห้องเก็บของได้อีกเยอะ
คุณประโยชน์ที่ลงตัวได้ในการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ ที่สะดวกสบายเมื่อเลือกใช้ เก้าอี้สนาม
ผ้าม่าน
เอาใจคนชอบแต่งบ้านด้วยผ้าม่าน 5 แบบ เพื่อการเนรมิตบ้านสวยให้น่าอยู่ยิ่งขึ้น
สำหรับคนรักการตกแต่งบ้าน เชื่อว่าการได้จัดบ้านให้สวยงามน่าอยู่ ถือเป็นความสุขที่ยากจะหาอะไรมาเปรียบ และเพื่อเป็นการเอาใจคนรักการตกแต่งบ้าน จึงขอพาคนรักบ้านไปทำความรู้จัก ผ้าม่าน ชนิดต่าง ๆ เพื่อให้เหมาะกับสไตล์บ้าน ซึ่งม่านถือเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยทำให้บ้านของคุณน่าอยู่และดูอบอุ่น แถมยังทำหน้าที่เป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นสำคัญที่ทำให้บ้านสวยงามยิ่งขึ้นอีกด้วย
ทำความรู้จัก’ ผ้าม่าน ‘ ประเภทต่าง ๆ แบบไหนบ้างที่เหมาะกับบ้านคุณ
1. ม่านจีบ
หากต้องการเติมเต็มบ้านให้ดูหรูหราร่วมสมัยและดูอบอุ่นอ่อนโยน แนะนำให้เลือกใช้ม่านจีบ ลักษณะของม่านชนิดนี้ ด้านบนจะจับจีบ ทำให้ผ้าม่านดูมีมิติและลักษณะม่านเป็นลอน ๆ จุดเด่นของม่านชนิดนี้คือสามารถเข้ากับบ้านได้หลายสไตล์ จะบ้านโมเดิร์นก็ได้หรือจะบ้านสไตล์วินเทจก็ดี แถมยังมีดีไซน์ให้เลือกมากมายจึงกลายเป็นตัวเลือกยอดนิยมในยุคนี้
2. ม่านพับ
อีกหนึ่งตัวเลือกเพื่อการเนรมิตบรรยากาศให้ดูมีสไตล์ นั่นคือ การใช้ม่านพับ เวลาพับเก็บม่านจะดูเป็นชั้น ๆ ซ้อนกันสวยงาม และเป็นระเบียบเรียบร้อย จุดเด่นคือติดตั้งง่าย แต่ข้อควรระวังคือควรทำความสะอาดบ่อย ๆ เพราะอาจเป็นแหล่งสะสมของฝุ่น
3. ม่านม้วน
หลายคนน่าจะคุ้นตากับผ้าม่านหน้าต่างประเภทนี้ เพราะเป็นที่นิยมในการตกแต่งบ้านและออฟฟิศสมัยใหม่ จุดเด่นคือเมื่อใช้ตกแต่งบ้านมักทำให้บ้านดูโมเดิร์น ร่วมสมัย นอกจากนี้ยังประหยัดพื้นที่ ไม่เกะกะ และทำความสะอาดได้ค่อนข้างง่าย ที่สำคัญยังมีให้เลือกทั้งแบบทึบแสงที่สามารถบังตาและกันแสงแดดได้มากถึง 90 เปอร์เซ็นต์ รวมถึงแบบกรองแสงแดดที่จะทำให้แสงแดดทอดเข้ามาภายในบ้านได้มากยิ่งขึ้น
4. ม่านไม้ไผ่
ใครที่รู้ตัวว่าชอบธรรมชาติและนิยมตกแต่งบ้านให้ได้บรรยากาศหมือนอยู่รีสอร์ทไม้ แนะนำให้เลือกใช้ม่านชนิดนี้ เพราะแค่ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าเป็นม่านที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติมาก ๆ แต่หากนึกไม่ออกลองนึกถึงร้านอาหารญี่ปุ่นที่นิยมตกแต่งร้านด้วยม่านไม้ไผ่ ข้อดีคือเนรมิตบรรยากาศรอบบ้านให้ดูผ่อนคลาย อีกทั้งยังใช้งานได้นาน แต่ถึงอย่างนั้นให้ระมัดระวังเรื่องฝุ่นและอาจเก่าง่ายหากดูแลรักษาไม่ดีพอ
5. มู่ลี่
อีกหนึ่งประเภทม่านที่น่าจะรู้จักกันดี ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วนิยมใช้บริเวณห้องน้ำและห้องครัว จุดเด่นของมู่ลี่คือความแข็งแรง ไม่ดักฝุ่น สามารถใช้ในห้องน้ำและห้องครัวได้เพราะทนความชื้นได้ค่อนข้างดี และยังทำความสะอาดง่ายเพียงหมั่นใช้ผ้าชุบน้ำเช็ด
การดูแลรักษาผ้าม่านให้ใช้งานในแบบยาว ๆ
เมื่อได้ม่านที่ถูกใจแล้ว อย่าลืมดูแลรักษาม่านให้สะอาดและดูเหมือนใหม่เสมอ เพราะฉะนั้นลองมาดูวิธีดูแลรักษาม่านให้สะอาดและใช้งานได้นานกันดีกว่า
– ทำความสะอาดม่านเสมอ
เทคนิคง่าย ๆ ในการเนรมิตม่านให้เหมือนใหม่เสมอ นั่นคือ การทำความสะอาดม่านเป็นประจำ โดยควรทำความสะอาดเดือนละ 1 ครั้ง เพื่อให้มีสีสันสวยงาม ไม่ซีดเร็วจนเกินไป แต่ขอควรระวัง คือ ม่านแต่ละชนิดมีวิธีทำความสะอาดไม่เหมือนกัน เพราะฉะนั้นควรศึกษาให้ดีก่อนว่าต้องใช้วิธีเช็ด วิธีซักมือ หรือวิธีซักเครื่อง เพื่อยืดอายุการใช้งาน
– ฆ่าเชื้อด้วยแสงแดด
แม้ว่าผ้าม่านหน้าต่างมักถูกวางในตำแหน่งซึ่งมีแสงแดดส่องถึงอยู่แล้ว แต่หากบ้านใดติดตั้งไว้ในมุมที่ไม่ค่อยเจอแสงแดด แนะนำให้นำม่านไปตากแดดบ้าง เพื่อฆ่าเชื้อโรค หรือใครที่ถอดออกมาทำความสะอาดก็อย่าลืมตากแดดให้แห้งสนิทเพื่อลดความชื้นและบอกลาปัญหาเชื้อรา
– การดูดฝุ่นก็สำคัญ
เมื่อสังเกตว่าม่านเริ่มมีฝุ่นจับเยอะ แนะนำให้ใช้เครื่องดูดฝุ่นเพื่อลดจำนวนฝุ่นบนม่าน เนื่องจากฝุ่นเป็นสาเหตุทำให้เกิดโรคต่าง ๆ เช่น ภูมิแพ้ และระบบทางเดินหายใจ ดังนั้น นอกจากการทำความสะอาดด้วยการซักแล้วควรทำความสะอาดด้วยการดูดฝุ่นร่วมด้วย
เชื่อว่าคนรักการแต่งบ้านน่าจะพอได้ไอเดียในการเลือกซื้อผ้าม่านเพื่อให้เหมาะกับบ้านบ้างแล้ว ไหนจะยังได้เทคนิคดี ๆ ในการดูแลม่านให้สวยเหมือนใหม่ รับรองได้เลยว่าหากนำวิธีเหล่านี้ไปใช้ บ้านของคุณจะสะอาดและน่าอยู่ยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน
โคมไฟตั้งโต๊ะ
แนะนำ โคมไฟตั้งโต๊ะ 4 แบบ แบบไหนบ้างนะที่เหมาะกับบ้านคุณ
โคมไฟ อุปกรณ์ให้ความสว่างที่เชื่อว่าต้องมีทุกบ้านทุกครอบครัว เพราะโคมไฟเป็นตัวช่วยให้แสงสว่างที่สามารถเป็นเจ้าของได้ในราคาเอื้อมถึง มีรูปแบบให้เลือกมากมาย ที่สำคัญยังมากด้วยประโยชน์ด้านการใช้งาน โดยเฉพาะ โคมไฟตั้งโต๊ะ ที่แม้จะมาพร้อมขนาดมินิแต่กลับอัดแน่นด้วยจุดเด่นดี ๆ และสำหรับใครที่กำลังมองหาโคมไฟสำหรับตั้งโต๊ะ ลองมาดูกันว่าจุดเด่นของโคมไฟประเภทนี้คืออะไรและมีโคมไฟแบบใดบ้างที่เหมาะกับบ้านคุณ
จุดเด่นของการเลือกใช้โคมไฟตั้งโต๊ะภายในบ้าน
– น้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายสะดวก
จุดเด่นสำคัญของการเลือกใช้โคมไฟประเภทตั้งโต๊ะ คือการเป็นตัวช่วยส่องแสงสว่างที่มีน้ำหนักเบา ใช้งานง่าย ไม่ต้องประกอบอุปกรณ์เชื่อมต่อให้ยุ่งยาก ที่สำคัญยังเคลื่อนย้ายสะดวกทำให้ติดตั้งได้ทุกที่ภายในบ้าน โดยไม่ทำให้เปลืองพื้นที่เลยแม้แต่น้อย
– ให้ความสว่างโดยไม่รบกวนคนอื่น
แม้โคมไฟจะเป็นอุปกรณ์ให้แสงสว่าง แต่กลับเป็นอุปกรณ์ที่ให้แสงสว่างในพื้นที่จำกัดหรือพื้นที่ขนาดเล็ก ทำให้การใช้โคมไฟจะไม่รบกวนคนอื่น เหมาะอย่างยิ่งหากตั้งภายในห้องนอนหรือมุมอ่านหนังสือเล็ก ๆ ภายในห้อง
– ตัวช่วยเสริมบรรยากาศห้อง
นอกจากคุณสมบัติการเป็นอุปกรณ์ให้แสงสว่างแล้ว โคมไฟยังเป็นเฟอร์นิเจอร์ชั้นดีที่ช่วยเสริมบรรยากาศภายในห้องให้ดูหรูหราและมีมิติยิ่งขึ้น ทำให้หลายคนนอกจากนำโคมไฟมาใช้ในการอ่านหนังสือแล้วยังใช้เป็นไอเท็มตกแต่งห้องอีกด้วย
แนะนำโคมไฟตั้งโต๊ะ 4 แบบ เพื่อให้เหมาะกับการใช้งานในบ้านคุณ
1. โคมไฟตั้งโต๊ะ อ่านหนังสือ
โคมไฟประเภทนี้แน่นอนว่ามาพร้อมจุดเด่นการเป็นโคมไฟที่ออกแบบมาเพื่ออ่านหนังสือโดยเฉพาะ โดยโคมไฟตั้งโต๊ะ อ่านหนังสือ แม้จะไม่ได้ให้แสงสว่างเทียบเท่าหลอดไฟภายในบ้าน แต่มักมาพร้อมแสงสว่างที่มากในระดับหนึ่ง นอกจากนี้ ไฟที่ใช้ยังเป็นไฟถนอมสายตา ทำให้สามารถอ่านหรือเขียนหนังสือได้นานโดยไม่มีอาการปวดตา รวมถึงบางรูปแบบยังออกแบบมาให้ปรับแสงสว่างได้ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถปรับระดับแสงได้ตามต้องการ ตอบโจทย์การใช้งานได้มากยิ่งขึ้น
2. โคมไฟทูอินวัน ตั้งโต๊ะก็ได้ หนีบที่โต๊ะก็ดี
เพื่อการนำเสนอสินค้าที่ใช้งานสะดวกและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ทำให้สินค้าอย่างโคมไฟมีการพัฒนาดีไซน์เพื่อให้โดนใจกลุ่มเป้าหมายที่สุด จึงได้มีโคมไฟแบบหนีบเพื่อการใช้งานที่สะดวกสบายยิ่งขึ้น ข้อดีของโคมไฟประเภทนี้คือสามารถใช้หนีบตามขอบโต๊ะและหัวเตียงได้ มาพร้อมตัวหนีบขนาดใหญ่เพื่อให้หนีบได้กับหลากหลายวัสดุ นอกจากนี้ยังน้ำหนักเบา เคลื่อนย้ายง่าย ที่สำคัญยังปรับได้หลายทิศทางทำให้สามารถใช้งานได้อย่างหลากหลาย
3. โคมไฟประดับบ้าน เพื่อทุกมุมสวยงามน่าอยู่
โคมไฟประเภทนี้ไม่เพียงแต่ออกแบบมาเพื่อให้แสงสว่างเท่านั้น เพราะยังเน้นการออกแบบให้รูปลักษณ์ดูทันสมัย สวยงาม น่ามอง จนกลายเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหนึ่งของบ้าน ทำให้โคมไฟประเภทนี้มักเน้นเรื่องดีไซน์เป็นหลัก เพื่อให้เหมาะกับบ้านทุกสไตล์ เช่น โคมไฟสไตล์โมเดิร์น โคมไฟสไตล์วินเทจ โคมไฟสไตล์มินิมอล ฯลฯ ซึ่งจะเน้นความสวยงามมากกว่าการเป็นอุปกรณ์ให้ความสว่าง แต่ถึงอย่างนั้นหลายบ้านก็ยังเลือกใช้เพื่อเพิ่มบรรยากาศบ้านให้ดูมีชีวิตชีวามากขึ้น
4. โคมไฟแอลอีดี โคมไฟสามมิติ
อีกหนึ่งประเภทโคมไฟสำหรับตั้งโต๊ะที่นิยมเห็นจำหน่ายมากในปัจจุบัน แม้จะไม่ใช่โคมไฟที่เหมาะกับการอ่านหนังสือ แต่มีจุดเด่นคือดึงดูดสายตา สวยงาม และมักมาพร้อมดีไซน์แปลกใหม่ ตั้งแล้วโดดเด่นทุกพื้นที่โดยเฉพาะตอนกลางคืน แม้จะไม่ใช่โคมไฟที่เน้นให้แสงสว่างแต่กลับมาพร้อมลูกเล่นสุดเจ๋ง นั่นคือ เมื่อกดเปิดจะปรากฏเป็นลวดลายต่าง ๆ เช่น รูปตัวการ์ตูนที่ชื่นชอบ รูปสัตว์น่ารัก ๆ เป็นต้น และจะปรากฏเป็นรูปร่างสิ่งนั้น ๆ แบบสามมิติ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการตกแต่งห้องให้มีสไตล์และทำให้ภายในห้องไม่ดูมืดเกินไปนั่นเอง
โคมไฟตั้งโต๊ะแต่ละชนิดมาพร้อมการใช้งานที่แตกต่างกันตามวัตถุประสงค์ ไม่ว่าจะเป็นโคมไฟที่เน้นเรื่องการใช้งานและเพื่อความสวยงาม โดยก่อนตัดสินใจเลือกซื้อควรพิจารณาวัตถุประสงค์การใช้งานเสียก่อน ที่สำคัญควรเลือกโคมไฟที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน เพื่อการใช้งานยาวนานและตอบโจทย์มากที่สุด
จูบนั้นแปลว่าฉันรักเธอ
จูบนั้นแปลว่าฉันรักเธอ จากการ์ตูนฮิตสู่ภาพยนตร์ยอดนิยมที่สาวสายโลกสวยไม่ควรพลาด
“ถ้าจูบของฉันคือความรัก แล้วความรักของเธอจะเป็นฉันได้ไหม” ประโยคเด็ดจาก ภาพยนต์ ไต้หวันเรื่องเยี่ยม จูบนั้นแปลว่าฉันรักเธอ ที่เข้าฉายในประเทศไทยเมื่อปี 2562 คงจะสร้างความประทับใจให้กับสาวโลกสวยอย่างมากจนต้องรีบไปหามาดูกันอย่างแน่นอน
จูบนั้นแปลว่าฉันรักเธอ หรือชื่อภาษาอังกฤษว่า Fall in Love at First Kiss เวอร์ชั่นปัจจุบันนำแสดงโดยดาราดาวรุ่งชื่อดังอย่าง ดาร์เรน หวัง (หวังต้าลู่) และ หลินหยุน คู่พระนางของเรื่อง เป็นภาพยนต์แนวโรแมนติกคอมเมอดี้ ที่ดัดแปลงมาจากการ์ตูนตาหวานญี่ปุ่นยุค 90s ที่ชื่อว่า Itazura na Kiss หรือชื่อภาษาไทย คือ แกล้งจุ๊บให้รู้ว่ารัก โดยนักเขียนผู้ล่วงลับนาม Kaoru Tada ภาพยนตร์มีความยาว 2 ชั่วโมง 2 นาที กำกับการแสดงโดย เฉินยูชาน เป็นเรื่องราวของหนุ่มอัจฉริยะสุดเพอร์เฟ็กไอคิว 200 ที่ชื่อว่า เจียงจื๋อซู่ กับสาวน้อย หลินซีหยวน สาวห้องบ๊วยแห่งโรงเรียนมัธยมปลายระดับแถวหน้า โดยนางเอกของเรื่องได้แอบหลงรักพระเอกหนุ่มอย่างถอนตัวไม่ขึ้นตามมาตรฐานการ์ตูนญี่ปุ่นตาหวาน ด้วยแรงยุจากเพื่อนทำให้สาวน้อยตัดสินใจมอบจดหมายรักให้ชายหนุ่ม และแน่นอนว่าพระเอกของเราต้องปฏิเสธตามสไตล์หล่อเลือกได้ ด้วยคำพูดที่ว่า “ฉันไม่ชอบผู้หญิงโง่” ช่างเป็นคำปฏิเสธที่แสนเย็นชาและไร้เยื่อใย แต่แล้วชะตาก็เล่นตลกเมื่อทั้งสองต้องมีเหตุให้มาอยู่บ้านเดียวกัน เพราะบ้านของหลินซีหยวนพังเพราะแผ่นดินไหว พ่อของเธอเลยต้องไปพักอยู่กับเพื่อนสนิท นั่นก็คือพ่อของเจียงจื๋อซู่นั่นเอง แล้วความรักของทั้งสองก็เริ่มบังเกิดขึ้นโดยไม่รู้ตัว
จูบนั้นแปลว่าฉันรักเธอ เคยถูกนำไปทำเป็นซีรีส์หลายเชื้อชาติหลากหลายครั้ง เริ่มตั้งแต่ปี 1996 เวอร์ชั่นซีรีส์ญี่ปุ่นได้ถือกำเนิดขึ้น โดยใช้ชื่อว่า แกล้งจุ๊บให้รู้ว่ารัก นำแสดงโดย Takashi Kashiwabara จากนั้นในปี 2005 เวอร์ชั่นไต้หวันก็ถือกำเนิดขึ้น นำแสดงโดย เจิ้งหยวนช่าง และหลินอีเฉิน ในชื่อว่า It started with a kiss ได้รับความนิยมไปทั่วเอเชียในยุคนั้น ในปี 2010 เวอร์ชั่นเกาหลีออกฉายครั้งแรก นำแสดงโดย คิมฮยอนจุง ในชื่อว่า Playful Kiss และในปี 2015 เวอร์ชั่นไทยออกฉายในชื่อว่า Kiss Me รักล้นใจ นายแกล้งจุ๊บ นำแสดงโดย ไมค์ พิรัชต์ และ ออม สุชาร์ ที่โด่งดังไกลไปถึงประเทศจีนเลยทีเดียว
หวังต้าลู่ ผู้รับบท เจียงจื๋อซู่ พระเอกของเรื่องเคยพูดถึงบทบาทการแสดงของเรื่องนี้ว่า ตอนแรกที่ได้รับการทาบทามให้เล่นบทนี้ เขาบอกปฏิเสธด้วยเหตุผลที่ว่า บทบาทของพระเอกที่ได้รับนั้นดูสมบูรณ์แบบเกินไป เขาไม่คิดว่าตัวเองหล่อและเก่งแบบนั้น มันทำให้รู้สึกกดดัน และที่สำคัญเขาเองก็ไม่อยากรับบทเด็กหนุ่มนักเรียนมัธยมปลายแบบเดียวกับหลาย ๆ เรื่องที่ผ่านมาอีกด้วย แต่ผู้กำกับก็ยังยืนยันที่จะให้เขารับบทนี้ต่อไป โดยให้เขาสามารถแก้ไขบทได้ตามที่ต้องการ ผู้กำกับใช้เวลากว่า 1 ปีในการทาบทามหวังต้าลู่ เขาก็ปฏิเสธถึง 3 ครั้ง จนสุดท้ายก็ยอมใจอ่อน เพราะคำพูดของผู้กำกับที่ว่า “คุณคือนักแสดง และเพื่อฉีกภาพลักษณ์เก่า ๆ ที่ผ่านมา คุณต้องสร้างความประทับใจจากบทบาทที่แสดงด้วยตัวคุณเอง”
สำหรับจูบนั้นแปลว่าฉันรักเธอเวอร์ชั่นล่าสุดนี้ ทำให้กระแสหนังแนวโรแมนกุ๊กกิ๊กชวนฝันเกินจริงกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้ง ในตอนแรกที่เริ่มสร้างนั้น ถูกกระแสต่อต้านอยู่มาก เนื่องจากถูกนำไปเปรียบเทียบกับซีรีส์ในปี 2005 ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในประเทศไต้หวัน แต่เมื่อหนังเข้าฉายในวันวาเลนไทน์ ปี 2019 ก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากด้วยรายได้ในประเทศจีนกว่า 25 ล้านเหรียญ และในประเทศเกาหลีใต้ 2 ล้านเหรียญ
ใครที่ได้ดูหนังเรื่องนี้ต่างก็บอกว่าเหมือนกำลังอ่านการ์ตูนญี่ปุ่นตาหวานดี ๆ เรื่องนึงที่นางเอกมีความใสซื่อแบบสุดโต่ง ขณะที่ฝ่ายพระเอกก็ช่างเงียบขรึม นิ่ง จะเรียกว่าต้องเก๊กอยู่ตลอดเวลาก็ว่าได้ เหมือนกับว่าทุกคนกำลังแปลงตัวเองเป็นตัวการ์ตูนกันแทบจะทั้งเรื่องกันเลยทีเดียว หากใครที่ชื่นชอบหนังแนวโรแมนติกคอมเมอดี้แล้วละก็ รีบหามาดูด่วน รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน
เลื่อยไฟฟ้า
เทคนิคเลือกซื้อ เลื่อยไฟฟ้า เลือกแบบไหนช่วยผ่อนแรงในการทำงานได้จริง
เลื่อย จริง ๆ แล้วก็นับเป็นอุปกรณ์งานช่างอย่างหนึ่ง แม้ว่าไม่จำเป็นจะต้องมีทุกบ้าน แต่สำหรับคนที่ทำงานด้านช่าง มีความจำเป็นที่จะต้องเลื่อยไม้ ตัดเหล็กอยู่บ่อย ๆ ก็คงจะต้องมีไว้ใช้งาน ปัจจุบันเราก็มักนิยมใช้เป็น เลื่อยไฟฟ้า กันหมดแล้ว เนื่องจากทำงานได้เร็วช่วยประหยัดเวลา
แต่อย่างไรก็ตามเลื่อยก็มีให้เราเลือกใช้งานหลายประเภท การใช้เลื่อยผิดประเภทแทนที่จะทำให้งานของเราเสร็จรวดเร็ว กลับทำให้การทำงานยากขึ้น ดังนั้นมาดูกันดีกว่าว่า เราจะเลือกซื้อเลื่อยประเภทไหนดีที่จะช่วยทำให้เราได้เครื่องมือที่ช่วยผ่อนแรงเราได้จริง ๆ
เลื่อยแท่นวงเดือน
เลื่อยแบบนี้ เป็นเลื่อยไฟฟ้าที่นิยมใช้ตามโรงงานทำไม้และโรงเลื่อยต่าง ๆ ลักษณะโครงสร้างจะเป็นแท่นตัด จึงเรียกว่าเลื่อยแท่น ในส่วนด้านล่างของตัวเครื่องจะติดตั้งมอเตอร์พร้อมใบเลื่อยวงเดือนเข้าไว้ ส่วนด้านบนจะมีฝาครอบกันใบเลื่อย อันเป็นส่วนที่จะเอาไว้ใช้ป้องกันไม่ให้เศษขี้เลื่อยกระเด็นมาถูกหน้าและเข้าตาผู้ปฏิบัติงาน
เลื่อยแบบนี้จะมีคุณสมบัติโดดเด่นในเรื่องของการเลื่อยตัดแผ่นไม้ที่มีขนาดใหญ่ ๆ ได้อย่างสบาย ไม่เพียงแค่ตัดไม้แผ่นใหญ่ได้ ยังสามารถตัดไม้ให้มีลักษณะต่าง ๆ ตามความต้องการได้ด้วย เช่น การทำเดือย เลื่อยเซาะทำร่อง ตัดเฉียงหรือบากเนื้อไม้ เป็นต้น
แม้ว่าเลื่อยแบบนี้จะมีคุณภาพในงานตัดสูง แต่ผู้ที่จะใช้ก็จะต้องชำนาญและคุ้นเคยกับเครื่องเป็นอย่างดี ก่อนจะใช้งานทุกครั้งก็จะต้องสวมเครื่องป้องกันเซฟตี้ตัวเองทุกครั้งด้วย เพราะมีความเสี่ยงสูงสำหรับเครื่องแบบนี้ และหลังจากใช้งานก็จะต้องสำรวจเรื่องสวิตช์และควรจะต้องถอดปลั๊กทุกครั้งหลังใช้เพื่อความปลอดภัย
เลื่อยวงเดือน
เป็นอีกหนึ่งแบบของเลื่อยไฟฟ้าที่นิยมใช้กันตามโรงเลื่อย และกลุ่มงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ เลื่อยแบบนี้เหมาะสำหรับการตัดชิ้นงานขนาดใหญ่ ตัวใบเลื่อยนั้นจะมีขนาดที่กว้างและใหญ่ ขนาดใบเลื่อยมีให้เลือกใช้หลายขนาด แต่ที่นิยมก็จะอยู่ที่ประมาณ 7 นิ้ว
คุณสมบัติของเลื่อยแบบนี้เด่น ๆ เลยก็จะเป็นเรื่องของการตัดขวางตามแนวเสี้ยนไม้ได้ โดยที่รอยตัดจะให้ความนุ่มนวล จึงเหมาะกับการนำไปตัดไม้อัดต่าง ๆ นั่นเอง
เลื่อยฉลุไฟฟ้า
สำหรับใครที่มองหาเลื่อยแบบอเนกประสงค์ ขนาดกะทัดรัดพกพาได้ ตอบโจทย์การใช้งานเลื่อยตัดได้หลายแบบ ก็ต้องเลือกรูปแบบนี้เลย เป็นเลื่อยไฟฟ้าไร้สาย สามารถพกพาไปใช้งานนอกสถานที่ได้ มีความคล่องตัวสูง เหมาะกับการใช้งานตามบ้านทั่วไป
โดยเลื่อยแบบนี้มักจะมาเป็นชุด ให้คุณสามารถใช้งานกับงานได้หลากหลาย เพราะจะมีใบเลื่อยที่เหมาะกับงานต่าง ๆ ให้มาด้วย ซึ่งคุณจะต้องเลือกใบเลื่อยให้ตรงกับงาน อันจะช่วยทำให้งานตัดนั้นง่ายขึ้นและจะไม่ทำให้เครื่องเสียหายด้วย ก็จะมีทั้งใบเลื่อยสำหรับงานไม้ ใบเลื่อยสำหรับตัดพลาสติก และใบเลื่อยสำหรับตัดงานโลหะ
นอกจากนั้นแล้วก็ยังมีใบเลื่อยอีกหลายแบบที่สามารถซื้อหามาเปลี่ยนได้ เช่น ถ้าคุณต้องการจะเลื่อยตัดกระเบื้องเซรามิก ไฟเบอร์กลาส ก็ให้เลือกใบเลื่อยแบบที่ชุบคาร์ไบด์มาใช้งานอย่างนี้เป็นต้น
เลื่อยไฟฟ้า ชักใบ
อีกหนึ่งประเภทของเลื่อยไฟฟ้าไร้สายที่เรียกว่ามีขนาดเล็กสามารถใช้งานได้คล่องตัวมากที่สุด หากมองเผิน ๆ บางคนจะรู้สึกว่าคล้าย ๆ สว่านมือเพราะขนาดตัวเครื่องใกล้เคียงกัน เลื่อยรูปแบบนี้จัดว่าเป็นเลื่อยไฟฟ้าอเนกประสงค์อีกรูปแบบหนึ่งเลยทีเดียว สามารถนำไปใช้ตัดงานได้ทุกชนิด เพียงแค่เลือกใบเลื่อยให้ถูกต้องเหมาะกับงานเท่านั้น แต่ส่วนใหญ่แล้วจะถูกนำไปใช้ในการตัดไม้แปรรูปกันมากที่สุด
โดยมากรูปแบบนี้มักจะปรับระดับความเร็วของการเลื่อยไม่ได้ จะมีความเร็วในการเลื่อยเพียงระดับเดียว นั่นคือ ความเร็วจะอยู่ที่ประมาณ 2,000 รอบต่อนาที อาจจะมีบางรุ่นที่เพิ่มระดับความเร็วในการตัดมาให้เป็น 2 ระดับ แต่ราคาก็จะขยับขึ้นไปอีกนิด ตรงนี้ก็อยู่ที่คุณพิจารณาด้วยว่าจะตัดอะไรและต้องใช้ความเร็วแค่ไหนถึงจะเหมาะสม
นี่คือเลื่อยไฟฟ้าประเภทต่าง ๆ ที่ได้รับความนิยมในการใช้งานในปัจจุบัน ถ้าคุณเลือกใช้ได้ถูกประเภท เหมาะสมกับลักษณะของงาน ก็จะช่วยผ่อนแรงในการทำงานของคุณได้จริงอย่างแน่นอน
ไฟฉาย
เลือก ไฟฉาย อย่างไรให้ได้ความกะทัดรัด ความสว่างพอดี และคุณภาพคุ้มราคา
หลายคนอาจเข้าใจว่าอุปกรณ์อย่าง “ไฟฉาย” นั้นเป็นอุปกรณ์สำหรับเอาไว้ใช้ยามฉุกเฉินเท่านั้น แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่เช่นนั้นเลย นอกเหนือจากเรื่องฉุกเฉินต่าง ๆ แล้วอุปกรณ์ชิ้นนี้ยังสามารถนำมาใช้งานเพิ่มความสว่างให้เราได้ในที่แสงน้อย หลายคนต้องการซื้อสิ่งนี้แต่อยากได้แบบกะทัดรัดพกพาง่ายและให้ความสว่างที่มากพอ แล้วจะเลือกอย่างไรดี
ความสว่างเท่าไหร่ถึงจะเหมาะสม
ปัจจุบันไฟฉายส่วนใหญ่จะใช้เป็นแบบ LED เกือบทั้งหมดแล้ว ซึ่งจัดว่าเป็นไฟฉายแรงสูง ตัวหลอดจะมีขนาดนิดเดียวแต่ให้ความสว่างสูงมาก ซึ่งบางคนก็อาจจะไม่ต้องการไฟฉายแรงสูงขนาดนั้น เพราะบางครั้งส่องไปกระทบเข้าที่ตาใครก็จะทำให้แสบตาและเป็นอันตรายต่อสายตาได้ แล้วทีนี้จะเลือกอย่างไรให้ได้ความสว่างแบบพอดี ๆ ไม่มากไป ไม่น้อยไป
สิ่งที่จะต้องดูหลัก ๆ เลยก็คือ เรื่องของลูเมน เป็นค่าความสว่าง คือถ้ามีค่าลูเมนมากก็หมายถึงยิ่งสว่างมาก โดยความสว่างที่เหมาะสมแนะนำสำหรับไฟฉาย จะอยู่ที่ประมาณ 150 – 200 lumen อาจจะมากกว่านั้นได้บ้างเล็กน้อย ซึ่งความสว่างประมาณนี้ ก็เพียงพอกับการใช้งานทั่วไป สามารถส่องสว่างได้ไกลถึงราว ๆ 50 เมตรเลยทีเดียว
ไฟฉาย เรื่องของแบตเตอรี่ก็สำคัญ
แหล่งพลังงานของไฟฉายก็จะมาจากพลังงานแบตเตอรี่ ซึ่งไฟฉายบ้างรุ่นอาจรองรับการใช้งานกับถ่านชาร์จด้วย อันนี้คุณก็ต้องเลือกให้เหมาะสม เพราะมีข้อเด่นข้อด้อยแตกต่างกันไป นอกจากนั้นในปัจจุบันยังมีอีกแบบที่ชาร์จกับไฟบ้านผ่านสาย USB ได้ด้วย
กรณีถ้าเลือกไฟฉายแบบที่ใช้ได้เฉพาะถ่านก้อนปกติทั่วไป แน่นอนว่าก็ดูสะดวกดี เมื่อถ่านหมดไฟแล้วก็สามารถทิ้งไปและซื้ออันใหม่มาเปลี่ยนได้แบบไม่ยากนัก แต่จุดด้อยของไฟฉายแบบนี้ก็จะอยู่ตรงที่ช่วงที่ถ่านใกล้หมด เพราะความสว่างของแสงน้อยลง และการใช้ต่อเนื่องในกรณีฉุกเฉินถ้าเราไม่ได้เตรียมถ่านสำรองไว้ก็อาจจะใช้ไม่ได้อีก
ส่วนถ้าเลือกแบบที่ใส่ถ่านชาร์จได้ แบบนี้ก็จะได้ความคุ้มค่าตรงที่เมื่อใช้จนพลังงานหมดก็สามารถชาร์จแล้วนำกลับมาใช้ใหม่ได้ โดยไม่ต้องสิ้นเปลืองไปซื้อถ่านใหม่มาใส่ แต่แน่นอนจุดด้อยของรูปแบบนี้ก็คือ จะต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น เพราะตัวไฟฉายเองก็จะราคาสูงขึ้น รวมไปถึงเราจะต้องซื้อถ่านชาร์จที่มีราคาแพงกว่าถ่านทั่วไปมาใช้คู่กันด้วย
ขนาดและฟังก์ชันการใช้งานเสริม
ขนาดของไฟฉายก็เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่เราต้องคำนึงถึงด้วย หากต้องการใช้งานในพื้นที่จำกัด กระบอกไฟฉายขนาดใหญ่ ๆ ก็คงจะไม่สะดวกแน่ ก็แนะนำให้ใช้ไฟฉายเล็ก ๆ แบบที่พกติดกระเป๋าได้ ความสว่างก็เพียงพอต่อการใช้งานในพื้นที่จำกัดอยู่แล้ว ส่วนกรณีถ้าคุณจะใช้ในพื้นที่กว้าง ๆ ไปออกแคมป์เดินป่า ก็ควรจะเลือกไฟฉายขนาดใหญ่สักหน่อย เพื่อจะได้ส่องมองเห็นในมุมมองที่กว้างได้มากขึ้น
สำหรับฟังก์ชันการใช้งานเสริม ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ต้องเอามาพิจารณาร่วมด้วย อย่างบางรุ่นจะมีระบบไฟกระพริบ สำหรับการส่งสัญญาณ ซึ่งสะดวกกว่าการมากดสวิตช์ปิดเปิดเป็นสัญญานเองมาก เพราะการปิด-เปิดบ่อย ๆ อาจทำให้หลอดขาดได้ง่าย บางรุ่นเพิ่มคุณสมบัติด้านกันน้ำเข้ามา หากใครที่ต้องใช้ส่องกลางสายฝน หรือส่องใต้น้ำก็ควรจะเลือกในส่วนนี้ด้วยนั่นเอง
นอกจากนั้นแล้วยังมีบางรุ่นที่มีขนาดใหญ่ เหมาะสำหรับการใช้งานภาคสนาม ก็จะมีฟังก์ชันเป็นวิทยุ หรือการเปิด mp3 ได้เพิ่มเติมเข้ามาด้วย แต่แน่นอนว่ารูปแบบนี้ก็จะต้องใช้พลังงานจากแบตเตอรี่สูงมากและราคาก็สูงมากขึ้นตามฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลายด้วยเช่นกัน
อย่างไรก็ตามถ้าคุณต้องการไฟฉายใช้งานทั่วไปไม่ได้ใช้งานภาคสนามก็แนะนำในแบบที่พกพาได้ แค่เลือกระดับความสว่างหรือค่าลูเมนให้เหมาะสม ประมาณ 200 ลูเมนก็ได้ คุณก็จะได้ความสว่างที่กำลังพอเหมาะพอดี และอย่าลืมเลือกฟังก์ชันเสริมเข้ามาด้วยอย่างเช่นการเพิ่มโหมด SOS ไฟฉุกเฉินเข้ามา อาจจะเลือกแบบที่ชาร์จกับ USB มาใช้ก็ได้ เท่านี้ก็จะได้ความคุ้มค่าครบตามที่คุณต้องการแล้ว
เครื่องมือช่าง
6 เครื่องมือช่าง ที่คุณควรมีติดบ้าน มีไว้ใช้ย่อมสะดวกกว่าเสมอ
จริงอยู่ว่าทักษะความสามารถทางช่างนั้นไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนจะทำได้หรือมีความถนัดกันทุกคน แต่หลาย ๆ ครั้งที่ในชีวิตประวันของเรา จำเป็นจะต้องมีการไขนั้น เจาะนี่ทั้งโดยตั้งใจและไม่ตั้งใจ อย่างการเจาะกำแพงเพื่อทำที่แขวน การขันนอตต่าง ๆ หากทุกครั้งที่ทำจะต้องวิ่งไปยืมอุปกรณ์กับเพื่อนบ้านก็คงจะไม่ดีแน่ ดังนั้น คุณควรจะหาซื้อ เครื่องมือช่าง ติดบ้านเอาไว้บ้าง เครื่องมืออุปกรณ์ทางช่าง 6 อย่างที่คุณควรมีประจำบ้านเอาไว้เสมอ จะมีอะไรบ้างนั้น มาติดตามกันได้เลยเครื่องมือช่างไฟฟ้า
1.ชุดไขควง เครื่องมือช่าง
อาจเรียกได้ว่าไขควงเป็นอุปกรณ์เครื่องมือช่างที่ทุกบ้านจะต้องใช้เสมอ การประกอบโต๊ะ การถอดประกอบพัดลม และเครื่องใช้ไฟฟ้า รถยนต์ ล้วนจำเป็นจะต้องมีการใช้ไขควงช่วยเสมอ ฉะนั้น มีไขควงติดบ้านไว้ก็ย่อมดีกว่า แต่ไขควงก็มีให้เลือกใช้หลายขนาด และรูปแบบก็มีทั้งปากแบนและไขควงแฉก ซึ่งถ้าจะให้ดีซื้อเป็นชุดไขควงมาเลยจะดีกว่า
เพราะชุดไขควงจะมีไขควงให้เลือกหลายขนาดและมีครบทุกแบบ แต่ถ้าคุณต้องการใช้งานเกี่ยวกับเรื่องไฟฟ้า ก็ต้องเลือกเครื่องมือช่างไฟฟ้าอย่างไขควงวัดไฟ ซึ่งอาจจะมีหรือไม่มีอยู่ในชุดไขควงก็ได้ เวลาซื้อก็ซื้อมาให้ครบก็จะช่วยให้คุณจบทุกงานไขแบบง่าย ๆ
2.ตลับเมตร
เป็นอีกหนึ่งชิ้นที่นับว่าเป็นเครื่องมือช่างที่ช่างมืออาชีพและสมัครเล่นควรจะต้องมี เพราะถึงแม้คุณจะไม่ได้ประกอบหรือประดิษฐ์อะไรก็ตาม ตลับเมตรก็ยังมีความจำเป็นต้องใช้ เช่นกรณีคุณจะซื้อเฟอร์นิเจอร์เข้าบ้านสักชิ้น ก็ต้องมีการวัดพื้นที่ ซึ่งงานแบบนี้ตลับเมตรช่วยได้
3.ไฟฉาย
หลายคนอาจจะแปลกใจว่าไฟฉายจะเป็นอุปกรณ์ช่างด้วยหรือ ใช่แน่นอน คุณลองนึกถึงเวลาที่จะต้องทำสวิตช์ไฟในบ้านใหม่ดูสิ เราจะต้องตัดไฟก่อน ถ้าไม่มีไฟฉายส่องสว่างแทนล่ะก็คงทำงานยากแน่ จึงอาจเรียกได้ว่าไฟฉายเป็นเครื่องมือช่างไฟฟ้าอย่างหนึ่งก็คงไม่ผิดนัก
4.ค้อน
เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์มาก ๆ ทุกบ้านจึงควรจะต้องมีเอาไว้ เวลาจะทุบจะตอกอะไรจะได้สะดวกมากขึ้น ค้อนนั้นมีหลัก ๆ ก็ 2 รูปแบบ แต่ถ้าใช้ทั่วไปแนะนำให้เลือกใช้ “ค้อนหงอน” ซึ่งจะใช้ตอกก็ได้ จะใช้ถอนตะปูหรืองัดสิ่งต่าง ๆ ก็ได้ อเนกประสงค์มากขึ้น และควรจะเลือกส่วนด้ามที่เป็นไม้หรือเหล็ก และเลี่ยงด้ามที่เป็นยาง เพราะแบบนี้อายุการใช้งานมักจะสั้น
5. ชุดคีม
จัดว่าเป็นชุดเครื่องมือช่างที่ขาดไปไม่ได้เลยอีกหนึ่งอย่าง ซึ่งคีมนั้นก็จะมีส่วนปากคีมให้เลือกหลายแบบ จึงแนะนำว่าเวลาซื้อให้เลือกซื้อเป็นชุดมาเลยจะดีกว่า เพราะจะได้คีมคีบครบทุกแบบ ครอบคลุมการใช้งานที่หลากหลาย
6.ชุดประแจหรือชุดบล็อก
สำหรับการไขนอตใหญ่ ๆ อย่างนอตที่ล้อรถยนต์หรือนอตที่ขันตรึงไว้กับเสาต่าง ๆ ไม่ว่าจะขันล็อคให้แน่นหรือใช้สำหรับคลายล็อค เราก็จำเป็นที่จะต้องใช้ประแจเข้าช่วย แต่เนื่องจากขนาดหัวนอตนั้นมีหลายขนาด การซื้อประแจจึงต้องซื้อแบบหลากหลาย ถ้าจะให้ง่ายซื้อเป็นชุดบล็อกมาเลยจะดีกกว่า เพราะจะมีประแจปากตายทุกเบอร์ให้เลือกใช้ มีทั้งแบบข้อต่อสั้น-ยาวก็จะสะดวกมากขึ้นในการทำงาน
หรือถ้าใครมีงบประมาณจำกัดไม่อยากซื้อเป็นชุดประแจปากตาย ก็อาจจะเลือกซื้อเป็นประแจเลื่อนมาใช้งานก็ได้ แต่แนะนำว่าให้ซื้อมากกว่า 1 ไซส์ก็จะทำให้สามารถขันสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกและครอบคลุม อย่างไรก็ดีก็ต้องทราบไว้ด้วยว่าประแจเลื่อนนั้นอาจมีข้อจำกัดในเรื่องการล็อคชิ้นงาน บางครั้งอาจจะล็อคตัวชิ้นงานไม่ค่อยอยู่ การใช้ประแจปากตายจึงตอบโจทย์ได้ดีกว่านั่นเอง
นี่คือ 6 อุปกรณ์เครื่องมือช่างที่ทุกบ้านควรจะต้องมีเอาไว้ เพื่อความสะดวกในการนำมาใช้งานได้ทันที และไม่ต้องเสียเวลาไปรบกวนหยิบยืมจากเพื่อนบ้าน แต่ถึงอย่างไรเวลาเลือกซื้อก็ต้องพิจารณาให้ถี่ถ้วนก่อนจะตัดสินใจซื้อด้วย เพราะอุปกรณ์เหล่านี้มีหลายเกรด ที่ไม่มีคุณภาพก็มีเยอะ ทางที่ดีควรเลือกซื้อตามแบรนด์ที่ช่างมืออาชีพใช้ก็จะดีกว่า ราคาสูงขึ้นนิดหน่อยแต่ได้คุณภาพแน่นอนกว่าเยอะ
ติดตามบทความเนื้อหาสาระดีๆ พร้อมเคล็ดลับต่างๆ ให้คุณได้อัพเดทกัน ที่นี่
ธานอส
ธานอส วายร้ายในจักรวาล MARVEL ที่ได้รับความสนใจไม่แพ้เหล่าฮีโร่
เชื่อเลยว่าใครที่เป็นแฟนหนังของจักรวาล MARVEL จะต้องรู้จักกับตัวร้ายสุดโดดเด่นของเรื่องอย่าง “ธานอส” กันแน่นอน การ์ตูนและภาพยนตร์ของค่าย MARVEL นั้นมีความพิเศษอยู่อย่างหนึ่งตรงที่ว่า สามารถสร้างตัวละครที่โดดเด่นขึ้นมาได้อย่างน่าสนใจ แม้ว่าจะเป็นตัวร้ายของเรื่องก็มีบทบาทสำคัญจนคนต้องจดจำ ซึ่งจะว่าไปแล้วความเด่นนั้นไม่แพ้เหล่าฮีโร่ของเรื่องเลยทีเดียว
แม้ว่าตัวละครที่เป็นตัวร้ายของหนังในจักรวาล MARVEL นั้นจะมีอยู่หลายตัวที่มีความน่าสนใจและโดดเด่นขึ้นมาอย่างเช่น Loki และ Ultron แต่ตัวละครเหล่านี้ก็ยังไม่ได้ถูกกล่าวถึงมากเท่ากับ THANOS ทำไมตัวละครนี้จึงน่าสนใจ มาลองทำความรู้จักตัวละครนี้กันให้มากขึ้นกันดีกว่า
ภูมิหลังของ THANOS
จริง ๆ แล้ว ตัวละครธานอสนั้นไม่ได้เพียงปรากฏตัวในการ์ตูนและภาพยนตร์จักรวาลเหล่าฮีโร่เรื่อง Avenger เท่านั้น แต่ยังเคยไปปรากฏตัวในหนังเรื่อง Guardian of the galaxy ในภาคที่ 1 ด้วย แต่ในเรื่องดังกล่าวนี้กลับไม่ได้ให้ความสำคัญกับตัวละครนี้สักเท่าไหร่ แต่นั่นก็เหมือนเป็นการเปิดตัวให้ทุกคนได้เห็นบทบาทและความสามารถของตัวละครนี้กันนั่นเอง
หากเมื่อมาดูเรื่องราวที่ผู้สร้างได้ผูกไว้ให้กับตัวละครนี้ก็มีความน่าสนใจ ธานอสแต่ดั้งเดิมนั้นเขาเป็นชาวไททั่น แต่เพราะเกิดมาด้วยรูปร่างหน้าตาที่ดูผิดแผกออกไป ตัวสีม่วงดูประหลาดทำให้แม่ของเขายังรังเกียจ ซึ่งถ้าดูจากจุดเล็ก ๆ แค่นี้ตัวละครตัวนี้ก็มีความหลังครั้งอดีตที่น่าสงสาร
เขาเป็นเด็กที่ใฝ่ดี ขยันตั้งใจเรียน แต่ก็เพราะรูปลักษณ์ภายนอกที่ประหลาดจึงมักถูกเด็กในวัยเดียวกันแกล้ง ดูถูกและเหยียดหยามมาตลอดสิ่งเหล่านี้กดทับชีวิตของ THANOS เอาไว้เรื่อยมา นั่นจึงทำให้เขากลายเป็นคนที่สันโดษ
แต่แล้ววันหนึ่งเขาก็ได้พบกับเพื่อนใหม่คนหนึ่งเป็นผู้หญิง ที่มอบไมตรีให้เขาในแบบที่เขาไม่เคยได้จากใคร แต่เพื่อนหญิงคนนั้นก็ได้พาเขาไปพบถ้ำลึกลับแห่งหนึ่ง THANOS ได้พาเพื่อน ๆ ที่อยู่ในกลุ่มของเขาไปที่ถ้ำแห่งนั้น แต่แล้วก็เกิดเหตุร้ายถ้ำถล่มทุกคนตายหมด ยังเว้นเขาที่รอดชีวิตมา
ตราบาปนั้นถูกตรึงไว้ในใจของเขา จนเขาไม่เปิดใจให้กับสิ่งใด ยกเว้นเพื่อนหญิงปริศนาคนนั้น ที่ได้ชักชวนให้เขาเริ่มรู้จักการทำลายชีวิต และนั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของวายร้ายสุดเยือกเย็นของจักรวาล MARVEL
ไอเทมประจำกายที่กลายมาเป็นของเล่นสุดฮิต
สิ่งที่น่าแปลกสำหรับตัวละครธานอสก็คือ เป็นตัวละครวายร้ายที่เด็ก ๆ ให้ความสนใจเป็นอย่างมาก อาวุธหรือไอเทมประจำกายที่ตัวละครนี้ใช้ในเรื่องก็คือ ถุงมือธานอส ซึ่งจะต้องอาศัยพลังของอัญมณีทั้ง 6 สีเข้าช่วยเสริมความแกร่ง ซึ่งอัญมณีทั้ง 6 สีที่มีอยู่ในถุงมือธานอสนั้นก็จะมอบพลังพิเศษในแบบที่ต่างกันออกไปเช่น
· สีน้ำเงิน – จะช่วยให้มีพลังในการควบคุมจิตใจผู้อื่น
· สีม่วง – จะทำให้มีพลังในการกลับเข้าสู่ห้วงอวกาศ และจะย้ายร่างตัวเองไปอยู่มิติไหนก็ได้
· สีส้ม – ช่วยให้สามารถควบคุมช่วงเวลา ทั้งในอดีต ปัจจุบันและอนาคตได้ เป็นต้น
ซึ่งเรียกง่าย ๆ ถุงมือนี้เป็นยอดอาวุธสุดอันตราย หากตกไปอยู่ในมือผู้ใด ก็สามารถที่จะกลายเป็นจอมวายร้ายได้เลยทีเดียว ด้วยพลังอำนาจพิเศษที่เหนือจินตนาการนี่เองที่กลายเป็นจุดเด่นของไอเทมอันนี้ เมื่อกลายมาเป็นของเล่นเด็ก ๆ จึงกลายเป็นสิ่งที่ช่วยให้เด็กได้จินตนาการได้อย่างไม่รู้จบเลยทีเดียว จุดนี้แม้จะเป็นจุดเล็ก ๆ แต่ก็ทำให้ตัวละครนี้กลายเป็นอีกหนึ่งตัวละครที่เด็ก ๆ ให้ความสนใจไม่น้อย
นอกจากเรื่องของไอเทมอาวุธประจำกายที่โดดเด่นแล้ว เรื่องพลังกำลังที่มหาศาลสูสีหรืออาจจะมากกว่าตัวละครฮีโร่อย่างเดอะฮัลค์ และพลังที่สามารถจะฟาดโล่ของกัปตันอเมริกาให้แหลกได้ ก็เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญที่กระตุ้นให้ผู้ชมต้องให้ความสำคัญกับตัวละครอย่าง ธานอส จึงเรียกว่าตัวละครนี้เป็นวายร้ายที่มีบทบาทเด่นไม่แพ้ตัวละครเอกของเรื่องเลยนั่นเอง
ผ้าคลุมโซฟา
อยากได้โซฟาใหม่ และอยากประหยัดเงินในกระเป๋าด้วยจะทำอย่างไร
ในปัจจุบันนี้ใคร ๆ ก็คงอยากใช้จ่ายอย่างประหยัดกันทั้งนั้น โดยเฉพาะในเรื่องที่ไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินมากก็จะหลีกเลี่ยง เพื่อให้มีกินมีใช้ในชีวิตประจำวันแบบไม่ต้องขัดสนมากนัก หรือไม่ต้องมีหนี้สิน ไม่ต้องซื้อของเงินผ่อน หรือกู้สินเชื่อ เพราะยังไม่รู้ว่าจะมีเงินไปชำระค่าดอกเบี้ยหรือไม่ แล้วจะมีทางออกอย่างไร ถ้าใจหนึ่งก็อยากเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์ใหม่อย่างโซฟาที่ใช้มานานหลายปีจากราคาหลักหมื่นให้เหลือเพียงแค่หลักร้อย-หลักพัน เท่านั้นเอง ทางเลือกหนึ่งที่จะสามารถได้ทั้งโซฟาที่เหมือนซื้อใหม่และทำให้ประหยัดเงินในกระเป๋าเอาไว้ใช้อย่างอื่นอีกด้วยก็คือ การเลือก ผ้าคลุมโซฟา ผืนใหม่มาแทนที่ผ้าคลุมผืนเก่า โดยไม่ต้องซื้อเปลี่ยนใหม่ทั้งชุด ซึ่งมีให้เลือกหลายหลายรูปแบบ หลากหลายสีสัน ไม่ว่าจะเป็นโทนสีเดียวล้วนเก๋ ลายการ์ตูนแนวน่ารัก ลายดอกไม้สวยใส แม้แต่เน้นที่สามารถกันน้ำได้ก็มีมาให้เลือกเช่นกัน ทางเลือกใหม่ในรูปแบบของคนรุ่นใหม่ที่ฉลาดเลือกอย่างคุ้มค่า
เลือกสีผ้าคลุมโซฟาอย่างไร เพื่อความเป็นสิริมงคลตามหลักฮวงจุ้ย
1. สีขาว แสดงถึงความบริสุทธิ์อ่อนโยน มีความปลอดโปร่งดูสบายตาและสามารถทำให้มีความสงบเยือกเย็นได้ ใช้กับโซฟาในห้องนั่งเล่น หรือห้องนอนเด็ก ๆ ก็ลงตัวมาทีเดียว เพราะสามารถทำลายความเครียดและอารมณ์ที่หงุดหงิดไปได้มาก เสริมพลังงานให้กับชีวิตได้มากขึ้นอีกหลายเท่าตัว
2. สีดำ ที่ไม่น่าเชื่อว่ามีพลังดึงดูดสูงมากเลยทีเดียว เพราะเป็นสีแห่งสัญลักษณ์ของความเฉลียวฉลาด มีพลังอำนาจที่เหนือกว่า ภายใต้ความสงบและสุขุม เหมาะกับการเลือกผ้าคลุมโซฟาในห้องทำงาน
3. สีฟ้า ความเชื่อตามหลักฮวงจุ้ยนั้นเป็นสัญลักษณ์แห่งการเปลี่ยนแปลงและการเจริญเติบโต เหมาะกับการเริ่มตันอย่างเช่น ในวันปีใหม่เพื่อให้มีอะไร ๆ เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น อีกทั้งในแง่ของความรู้สึก สีฟ้าทำให้รู้สึกสดชื่นมีความสดใส กระตุ้นความกระตือรือร้นให้กับทุกคนได้อย่างน่าอัศจรรย์
4. สีเขียว ซึ่งเป็นสีแห่งธรรมชาติ มองดูแล้วย่อมสบายตาและทำให้ผ่อนคลายช่วยบำบัดความเครียดไปได้แบบไม่รู้ตัวและตามความเชื่อแล้วยังสามารถนำความเจริญรุ่งเรืองมาสู่ชีวิตได้อีกด้วยจึงเหมาะกับทุกส่วนภายในบ้าน
5. สีเหลือง สัญลักษณ์ของพลังอำนาจและความมั่นคง รวมถึงพลังแห่งความหวัง เพื่อให้ทุกคนในบ้านที่ได้มานั่งโซฟาได้รู้สึกว่าการใช้ชีวิตในทุกวันควรมีความหวังอยู่เสมอ ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคที่ต้องเจอ
6. สีน้ำตาล สีที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น สามารถใช้ร่วมกับโทนสีอื่น ๆ เพื่อเพิ่มพลังบวกในด้านอื่นเพิ่มขึ้นได้ และเป็นโทนสีเอิร์ธโทนที่คนให้ความนิยมเลือกมาใช้เป็นผ้าคลุมโซฟาอันดับต้น ๆ อีกด้วย
7. สีชมพู สัญลักษณ์แห่งความบริสุทธิ์และความอ่อนหวาน เหมาะกับน้อง ๆ วัยใส และใคร ๆ ที่ชื่นชอบโทนชมพูอยู่แล้วสามารถตัดสินใจได้แบบไม่ลังเล อยากเปลี่ยนโทนสีบ่อย ๆ ก็เลือกผ้าคลุมโซฟาแบบสวมทับ
8. สีแดง แรงฤทธิ์ไม่ผิดนัก เพราะสามารถช่วยกระตุ้นพลังในตัวให้มีชีวิตชีวาอยู่เสมอ สดใสไม่เหนื่อยล้า เหมาะกับในห้องทำงาน หรือห้องรับแขกมากเช่นกัน
9. สีม่วง สัญลักษณ์ที่เสริมความมั่งคั่ง อำนาจวาสนาและนำพาจิตใจให้มีพลังงานบวกเพิ่มขึ้นกลบพลังงานด้านลบจากใจ ลองใช้ในห้องนอน ห้องพระ ก็เหมาะสมไม่น้อย
ผ้าคลุมโซฟา แบบสวมทับ ตอบรับการใช้ชีวิตแบบ NEW NORMAL
ผ้าคลุมโซฟา ที่สามารถสวมทับโซฟาตัวเดิมได้เลยนั้น ก็จะดีในด้านความสะดวกและง่ายต่อการถอดซักทำความสะอาดได้มากขึ้นอีกด้วย ซึ่งตอบโจทย์การใช้ชีวิตในยุค NEW NORMAL ต้องปลอดภัยเอาไว้ก่อน เพื่อไม่ให้มีโอกาสติดเชื้อโรคได้ง่าย และเซฟคนอื่นภายในบ้านได้อีกด้วย โดยเฉพาะคนที่มีภูมิคุ้มกันต่ำอย่าง ผู้สูงวัย เด็กเล็ก และผู้ป่วย เป็นต้น เมื่อถอดเปลี่ยนได้สะดวกก็ไม่ต้องเสียเวลาในการสวมใส่มากนัก สามารถทำเองได้ ไม่ต้องจ้างช่างมาทำให้ อยากเปลี่ยนโทนสี หรือลวดลายใด ก็ซื้อมาเก็บไว้เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศที่ต้องการได้ทุกช่วงเวลา โดยเลือกสีตามหลักฮวงจุ้ยด้วยเพื่อคุณค่าและความสบายทางใจ ก็ช่วยเพิ่มความสุขให้มากขึ้นได้อีกอย่างแน่นอน
พบกับบทความ เนื้อหาสาระดีๆ ที่จะมาอัพเดทเทรนด์ และ เคล็ดลับดีๆให้กับคุณ ที่นี่