Lazada 4.4

Lazada 4.4 เตรียมช้อปกระหน่ำรับ Summer รับเงินคืนสูงสุด 50%

เชื่อว่าคงมีหลายคนที่กำลังรอ Lazada 4.4 กันอยู่อย่างแน่นอน เพราะเป็นดีลเด็ดวันเลขเบิ้ลที่ขนส่วนลดและโปรโมชันมาให้เลือกช้อปมากมาย เป็นแคมเปญลดใหญ่ประจำเดือนที่ทางลาซาด้าจัดทุกเดือนในวันเลขเบิ้ลตลอดทั้งปี สำหรับใครที่เล็งสินค้าชิ้นไหนไว้ไม่ควรพลาดแคมเปญนี้ วันนี้เราจึงจะพาไปเตรียมตัวสำหรับการช้อปปิ้ง 4.4 กัน

ลาซาด้า 4.4 ช้อปใหญ่ประจำเดือนเมษายน มีอะไรที่น่าสนใจบ้าง?

· เครดิตรับเงินคืนสูงสุด 50% นอกจากสินค้าที่นำมาจัดโปรโมชันมากมายแล้ว ลาซาด้า 4.4 ยังมีเครดิตเงินคืนสูงสุด 50% ให้แลกรับคูปองส่วนลดในการสั่งซื้อสินค้าครั้งต่อไป โดยแนะนำให้สังเกตไอคอนรับเงินคืนที่หน้าสินค้าให้ดี ๆ หากสินค้าไหนที่เข้าร่วมรายการจะมีไอคอนนี้แสดงอยู่ สามารถเก็บคูปองเงินคืนไปใช้ในหน้ารายการชำระเงินได้ เมื่อการสั่งซื้อเสร็จสมบูรณ์แล้วจะได้รับเครดิตเงินคืนกลับมาสูงสุด 50% ขึ้นอยู่กับมูลค่าของสินค้าที่เลือกซื้อ จากนั้นนำไปแลกเป็นคูปองส่วนลดเพื่อใช้ในครั้งต่อไปสำหรับการสั่งซื้อสินค้าบนแพลตฟอร์ม โดยส่วนลดจะลดให้อัตโนมัติเมื่อทำรายการสั่งซื้อ แต่หากไม่อยากใช้ก็เก็บสะสมไว้ใช้ครั้งต่อ ๆ ไปก่อนคูปองหมดอายุได้

· ส่งฟรีไม่มีขั้นต่ำ ไม่ว่าจะซื้อสินค้าราคาเท่าไหร่ก็สามารถใช้โค้ดส่งฟรีได้แบบไม่มีขั้นต่ำ ช่วยให้ช้อปได้สะดวกขึ้น

· ลดจุก ๆ ลดมากถึง 6 ต่อ ได้แก่ คูปองส่วนลดจากลาซาด้า คูปองส่งฟรีช่วยลดค่าจัดส่ง คูปองสะสมหรือโบนัสลดหลายต่อ คูปองส่วนลดจากทางร้านค้า คูปองส่วนลดจากพาร์ทเนอร์ และโค้ดส่วนลดจากพาร์ทเนอร์ ที่สามารถใช้เป็นส่วนลดได้ทั้ง 6 ต่อ ช่วยลดค่าสินค้าและค่าจัดส่งลงได้

· ขนสินค้ามาลดให้ทั้งร้าน สามารถเลือกช้อปสินค้าและใช้ส่วนลดได้ทั้งร้าน มีสินค้าให้เลือกช้อปหลายหมวดหมู่ ไม่ว่าจะเป็น LazMall, LazLOOK, LazGlobal, LazBEAUTY, LazHOME, LazMOM, LazMotors, Lazada Run และอื่น ๆ 

· รวมไอเทมหน้าร้อนรับ Summer เพื่อต้อนรับเดือนที่ฮอตที่สุดแห่งปี ลาซาด้า 4.4 จึงได้เตรียมไอเทมรับหน้าร้อนมาให้เลือกช้อปมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า แว่นกันแดด หมวก กระเป๋า รองเท้า และอื่น ๆ 

เคล็ดลับในการเตรียมตัวช้อป Lazada 4.4 ช้อปอย่างไรให้คุ้ม?

· เตรียมเก็บคูปองส่วนลดล่วงหน้า ลาซาด้า 4.4 จะมีคูปองออกมาให้เก็บก่อนล่วงหน้าเพื่อเก็บไว้ใช้ในวันเปิดแคมเปญควรเก็บคูปองต่าง ๆ ให้ครบ ไม่เพียงแค่คูปองส่งฟรีเพียงอย่างเดียว เพราะคูปองอื่น ๆ ก็สามารถนำมาใช้เป็นส่วนลดได้เช่นกัน

· กดติดตามร้านค้าที่สนใจ หากต้องการซื้อสินค้าจากร้านไหนควรกดติดตามร้านค้าเอาไว้ก่อน เพื่อไม่พลาดส่วนลดและโปรโมชันดี ๆ เพราะเป็นช่วงที่ร้านค้าต่าง ๆ จะออกคูปองส่วนลดมาให้เก็บเพื่อใช้เป็นส่วนลดค่าสินค้า นอกจากนี้การกดติดตามร้านค้ายังมีคูปองส่วนลดให้อีกหนึ่งต่อด้วย

· กดแจ้งเตือนสินค้าในช่วง LazFLASHSALE หากสินค้าที่สนใจขึ้นว่าจะมีการ Flash Sale ควรกดแจ้งเตือนเอาไว้ก่อน เมื่อใกล้ถึงเวลาช้อประบบจะแจ้งเตือนให้ทราบล่วงหน้าเพื่อให้เข้ามาเลือกช้อปสินค้าได้ทันเวลา เพราะสินค้า Flash Sale จะมีจำนวนจำกัด หากช้าสินค้าอาจหมดก่อนได้

· ซื้อเยอะ ก็ลดเยอะ ส่วนลดจะเพิ่มขึ้นตามจำนวนยอดคำสั่งซื้อ ที่ยิ่งซื้อเยอะเท่าไหร่ก็ยิ่งได้ส่วนลดเพิ่มขึ้นเท่านั้น เช่น ส่วนลด 40 บาท เมื่อช้อปขั้นต่ำ 499 บาท ส่วน 100 บาท เมื่อช้อปขั้นต่ำ 999 บาท

· เลือกสินค้าใส่ตะกร้ารอไว้ก่อน หากตั้งใจไว้แล้วว่าจะซื้อสินค้า ควรกดสินค้าใส่ตะกร้าเอาไว้ก่อนเพื่อเตรียมช้อปได้ทันเวลา เพราะคูปองหรือโค้ดส่วนลดอาจหมดก่อนได้ เนื่องจากมีผู้ใช้งานค่อนข้างเยอะ

· กดใช้โค้ดส่วนลดและคูปองให้ครบ ในหน้ารายการสั่งซื้อจะมีช่องให้ใส่คูปองส่วนลด ควรใส่ให้ครบ หากมีโค้ดส่วนลดจากพาร์ทเนอร์หรือร้านค้าควรใส่โค้ดส่วนลดในช่องส่วนลดด้านบน จากนั้นใส่คูปองส่วนลดที่ด้านล่าง แนะนำว่าให้เลือกใช้คูปองที่ได้ส่วนลดมากที่สุด

· สั่งซื้อทันทีที่เริ่มแคมเปญ หากเลือกสินค้าในแคมเปญลาซาด้า 4.4 และเก็บคูปองครบแล้ว เมื่อถึงเวลาก็สามารถกดสั่งซื้อได้เลย เพื่อใช้ส่วนลดต่าง ๆ ได้ทันเวลาและไม่พลาดส่วนลดดี ๆ 

ลาซาด้า 4.4 เป็นแคมเปญประจำเดือนที่พร้อมมอบส่วนลดและโปรโมชันดี ๆ ให้ลูกค้า หากใครที่ชอบช้อปปิ้งหรือมีแพลนจะซื้อสินค้าชิ้นไหนอยู่ สามารถเข้าไปเลือกช้อปในช่วงนี้ได้ เพราะลดกระหน่ำและมอบเครดิตเงินคืนให้สูงสุด 50%

Lazada 4.4

ปืนฉีดน้ำ

เพิ่มความ HOT ให้สงกรานต์นี้ด้วยไอเทม ปืนฉีดน้ำ เก๋ ๆ

คาดว่าสงกรานต์ในปีนี้ ปืนฉีดน้ำ ต้องกลับมาทวงบัลลังก์ไอเทมเด็ดที่ทุกคนต้องมีแน่ ๆ เพราะหลังจากการแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ทำให้รัฐประกาศงดเล่นน้ำมาหลายปี ส่งผลให้ช่วงเทศกาลสงกรานต์ในหลายปีที่ผ่าน ๆ มาเงียบเหงาพอสมควร แน่นอนว่าข้อบังคับนั้นส่งผลเป็นวงกว้าง ทั้งสภาพเศรษฐกิจ สภาพการท่องเที่ยว และเรื่องอื่น ๆ นั้นซบเซาเป็นอย่างมาก

แต่คาดการณ์ว่าในปีนี้ทุกอย่างคงดีขึ้นเป็นเท่าตัว เพราะทางรัฐได้เปิดประเทศให้ชาวต่างชาติเข้ามาเที่ยวในประเทศไทยได้แล้วตั้งแต่เมื่อตอนต้นปี 2566 อีกทั้งยังมีแผนที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยเทศกาลสงกรานต์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก เพื่อให้คนไทยได้มีความสุขและพักผ่อนในช่วงวันปีใหม่ไทย และต้องการให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาเที่ยวกันเป็นจำนวนมาก

วันสงกรานต์ทำไมต้องเล่นน้ำ? พร้อมแนะนำ ปืนฉีดน้ำ สุดฮิต

สงกรานต์เป็นประเพณีเก่าแก่ของไทย ซึ่งวันสงกรานต์จะตรงกับวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 5 คือ ช่วงเคลื่อนย้ายของจักรราศี นับว่าเป็นวันปีใหม่ไทยแบบเก่า ซึ่งประเทศไทยได้รับอิทธิพลทางวัฒนธรรมมาจากประเทศอินเดีย เพียงปรับเปลี่ยนจากการสาดสีเป็นการสาดน้ำแทน ซึ่งแต่ก่อนเราจะใช้เพียงขันเล็ก ๆ สาดน้ำใส่กัน แต่ทุกอย่างก็ปรับเปลี่ยนไปตามยุคสมัย คนก็หันมาใช้ปืนฉีดน้ำแทน ส่งผลให้เทศกาลมีความสนุกสนานมากขึ้น

บางความเชื่อก็กล่าวว่าการเล่นน้ำในเทศกาลสงกรานต์จะช่วยชำระล้างสิ่งที่ไม่ดี แถมยังคลายร้อนในช่วงเดือนเมษายน อีกทั้งประเทศไทยเป็นเมืองพุทธ ส่งผลให้หลาย ๆ เทศกาลมักจะเชื่อมโยงกับศาสนา เทศกาลสงกรานต์ก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน โดยปกติแล้วจะมีการทำบุญตักบาตรและสรงน้ำพระ เพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลให้กับชีวิต อีกทั้งยังมีการรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ด้วย

หลังจากที่ทำกิจกรรมทางศาสนาแล้ว การปะแป้งและเล่นน้ำสงกรานต์ก็ถือว่าได้รับความนิยมมากที่สุด จะเห็นได้ว่ามีปืนฉีดน้ำ แป้งดินสอพอง และถุงซองกันน้ำวางขายเป็นจำนวนมาก ซึ่งปืนฉีดน้ำถือว่าเป็นไอเทมหลักที่ขาดไม่ได้เลย ถ้าใครยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะซื้อแบบไหน ลองมาทำความรู้จักปืนฉีดน้ำ 3 แบบสุดฮิตกันเถอะ

· ปืนฉีดน้ำกระเป๋าเป้ ปืนฉีดน้ำแบบกระเป๋าเป้สะพายด้านหลังนั้นสามารถบรรจุน้ำได้เยอะ ไม่ต้องคอยเติมน้ำบ่อย ๆ ให้เสียเวลา เพราะตัวถังเก็บน้ำค่อนข้างใหญ่ มักเป็นที่นิยมในหมู่เด็ก ๆ เพราะตัวถังจะมีลายตัวการ์ตูนน่ารักให้ได้เลือกซื้อมากมายตามใจชอบ

· ปืนฉีดน้ำกางร่ม ปืนฉีดน้ำแบบมีร่มตรงปลายปืน ส่วนใหญ่มักจะถูกใจผู้หญิงและเด็กมากกว่า เพราะปืนจะมีขนาดเล็กกะทัดรัด และหน้าตาน่ารัก อีกทั้งยังน้ำหนักเบาด้วย เหมาะสำหรับพกพาสุด ๆ แต่อาจจะต้องเติมน้ำบ่อยเล็กน้อย เพราะตรงกระบอกใส่น้ำมีขนาดเล็ก

· ปืนฉีดน้ำขนาดใหญ่ ปืนฉีดน้ำแบบนี้จะมีรูปร่างคล้ายปืนแบบทั่วไป แต่นับว่าคลาสสิกสุด ๆ ได้รับความนิยมทุกยุคทุกสมัย แต่เพราะมีขนาดใหญ่เลยอาจจะหนักกว่าแบบอื่น ๆ ส่วนใหญ่มักจะถูกใจผู้ชายสายลุย อีกทั้งตัวกระบอกมีขนาดใหญ่ ทำให้จุน้ำได้ค่อนข้างเยอะ

How to เตรียมตัวไปเล่นสงกรานต์ยังไงให้ฟิน

1. ทาครีมกันแดด 

การเล่นสงกรานต์เป็นการทำกิจกรรมกลางแจ้ง แน่นอนว่าแสงแดดและอากาศในเดือนเมษายน นับว่าทำร้ายผิวของเราอย่างรุนแรง ดังนั้นเราควรที่จะทาครีมกันแดดสูตรกันน้ำ เพื่อปกป้องผิวสวย ๆ ของเรา อีกทั้งยังช่วยลดโอกาสที่ผิวของเราจะเกิดการไหม้แดดด้วย

2. ถุงหรือกระเป๋ากันน้ำ

หลายคนพอถึงเทศกาลสงกรานต์ก็นึกถึงเพียงแค่ปืนฉีดน้ำอย่างเดียว แต่ทว่าถุงหรือกันน้ำก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะการเล่นน้ำสงกรานต์ทำให้เราต้องตัวเปียกตลอดเวลา หากไม่มีอุปกรณ์ช่วยกันน้ำก็จะส่งผลให้สิ่งของสำคัญของเราเปียกตามไปด้วย เช่น โทรศัพท์ เงิน และอื่น ๆ แต่ถ้ามีถุงกันน้ำก็ช่วยให้เราสามารถเล่นน้ำได้อย่างสบายใจ

3. ปืนฉีดน้ำ

ก่อนจะออกจากบ้านไปเล่นน้ำสงกรานต์ อย่าลืมหยิบปืนฉีดน้ำไปด้วย ซึ่งถือว่าเป็นไอเทมที่สำคัญที่สุด เราควรตรวจสอบสภาพของปืนว่าสามารถใช้งานได้หรือไม่? เพื่อไม่ให้ต้องผิดหวังถ้าพึ่งรู้ตัวว่าปืนของเราพังในระหว่างทาง อีกทั้งถ้าสามารถเติมน้ำใส่กระบอกได้ก็ควรที่จะทำเลย เพราะบางทีถ้าเราออกไปเล่นน้ำข้างนอกอาจจะหาที่เติมน้ำได้ยาก

ประเพณีสงกรานต์ถือว่าเป็นประเพณีที่ดีงามของไทย เราควรช่วยกันอนุรักษ์เอาไว้ เพื่อสืบทอดต่อไปจากรุ่นสู่รุ่น ก่อนจะออกไปเล่นน้ำให้ลองนำวิธีเตรียมตัวไปปฏิบัติตามดู ทั้งทากันแดด เตรียมถุงกันน้ำ และปืนฉีดน้ำด้วย รับรองว่าจะเป็นเทศกาลสงกรานต์ที่สนุกและมีความสุขที่สุดแน่นอน

ปืนฉีดน้ำ

บุฟเฟ่ต์

มารยาทควรรู้ในการทาน บุฟเฟ่ต์ ทานอย่างไรให้อิ่มคุ้ม เจ้าของร้านถูกใจ?

บุฟเฟ่ต์ (Buffet)ได้กลายเป็นประเภทอาหารได้รับความนิยมในยุคนี้ไปแล้ว สังเกตได้จากร้านบุฟเฟ่ต์ต่าง ๆ ที่เปิดตัวขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นบุฟเฟ่ต์ปิ้งย่าง บุฟเฟ่ต์ซีฟู้ด บุฟเฟ่ต์เกาหลี บุฟเฟ่ต์เบเกอรี่ บุฟเฟ่ต์ขนมไทย และอื่น ๆ โดยเสน่ห์ของการทานอาหารแบบบุฟเฟ่ต์คือ มีความหลากหลาย สามารถเลือกทานได้หลายอย่างในราคาเดียว มีทั้งการจำกัดเวลาและไม่จำกัดเวลา แต่การไปทานบุฟเฟ่ต์นั้นก็มีมารยาทที่ควรรู้ด้วยเช่นกัน เพื่อปฏิบัติตัวในพื้นที่ส่วนรวมได้อย่างเหมาะสม

มารยาทที่ควรรู้ที่การทาน Buffet แบบไหนควรทำ แบบไหนไม่ควรทำ?

· ต่อแถวตักอาหาร ไม่แซงคิวผู้อื่น อาหารสไตล์ Buffet จะเป็นอาหารที่ให้เราได้เลือกตักทานเองได้ตามต้องการ โดยมีลูกค้าท่านอื่นเข้ามาใช้บริการร่วมด้วย ในการออกไปตักอาหารในแต่ละครั้งควรต่อแถวทุกครั้ง ไม่ควรไปแทรกข้างหน้าหรือแย่งคนอื่นตัก

· ไม่ตักอาหารจนล้นจาน ควรตักแค่พอดีจาน ไม่ควรอัดแน่นไปจนล้นจานเพราะจะทำให้ดูไม่ดี และเสี่ยงต่อการตกหล่นได้

· ใช้ที่คีบหรืออุปกรณ์ตักอาหารทุกครั้ง ควรใช้อุปกรณ์ตักอาหารที่ทางร้านได้เตรียมไว้ให้สำหรับตักอาหารแต่ละประเภท ไม่ควรนำมาใช้รวมกัน หรือใช้มือหยิบ

· ตักทีละน้อย ไม่อิ่มตักใหม่ได้ ไม่ควรตักอาหารมาทานมากจนเกินไปหรือตักเผื่อผู้อื่น เพราะจะทำให้ทานไม่หมด

· ใช้ภาชนะตักอาหารให้ถูกประเภท บุฟเฟ่ต์ปิ้งย่าง บางร้านจะมีการกำหนดเอาไว้ว่าภาชนะแต่ละประเภทใช้ตักอาหารอะไร เช่น ห้ามนำถ้วยตักขนมหวานมาตักน้ำจิ้ม 

· ควรปฏิบัติตามกฎของทางร้าน แต่ละร้านจะข้อปฏิบัติที่แตกต่างกัน โดยส่วนมากจะติดป้ายไว้แจ้งให้ทราบที่หน้าร้าน การไปใช้บริการในแต่ละสถานที่จึงควรปฏิบัติตามกฎระเบียบของร้านนั้น ๆ 

· รักษามารยาทส่วนรวมด้วยการไม่ส่งเสียงดังจนเกินไป เพราะเป็นการรบกวนผู้อื่น

· ไม่ควรใช้น้ำดับไฟเอง หากต้องการให้ไฟเบาลงควรให้พนักงานคีบถ่านออก หากเทน้ำใส่ลงไปในเตาจะทำให้ขี้เถ้าฟุ้งกระจายขึ้นมารบกวนผู้อื่นและตกลงไปใส่อาหารได้

· ไม่ควรปล่อยให้อาหารบนเตาไหม้ทิ้ง หากไม่ทานควรคีบลง เพราะอาหารไหม้จะส่งกลิ่นเหม็นและมีควันฟุ้ง

· ไม่ปล่อยให้หม้อหรือกระทะแห้งจนไหม้ หากทานเสร็จแล้วควรเรียกพนักงานมาเก็บ หรือเติมน้ำเพื่อไม่ให้ไหม้

· ควรรับประทานอาหารที่ตักมาให้หมด ไม่หมกซ่อนในหม้อหรือในภาชนะต่าง ๆ เพราะจะเสียค่าปรับได้

· ไม่แอบนำอาหารกลับบ้าน เพราะปัจจุบันนี้สามารถตรวจสอบได้จากกล้องวงจรปิด ที่หากโดนจับได้จะทำให้เสียค่าปรับหลายเท่า

เคล็ดลับการทาน บุฟเฟ่ต์ ให้อิ่มคุ้ม อร่อยครบ จบสวย!

· อย่ากินน้ำเยอะจนเกินไป ก่อนไปทาน Buffet ควรจิบน้ำมาก่อน เพื่อช่วยให้หลอดอาหารโล่ง ทานได้เยอะ และในระหว่างทานไม่ควรดื่มน้ำมากจนเกินไปเพราะจะทำให้จุก

· อย่าเพิ่งรีบจัดด้วยเมนูข้าวหรือเส้น เพราะเป็นแป้ง หากทานเข้าไปเยอะจะทำให้อิ่มเร็ว

· เริ่มจากเมนูที่ย่อยง่ายก่อน เพื่อเป็นการเรียกน้ำย่อย เพราะการทานอาหารรสชาติจัดก่อนจะทำให้หิวน้ำ

· ทานเรื่อย ๆ ไม่ต้องรีบ แม้ว่าบุฟเฟ่ต์เกาหลีหรือบุฟเฟ่ต์ต่าง ๆ จะมีเวลาที่จำกัด แต่ก็ไม่ควรรีบทานจนเกินไป เพราะจะทำให้จุกและอิ่มเร็ว ควรทานเรื่อย ๆ ทานผักสลับกับเนื้อสัตว์เพื่อให้อาหารย่อยได้ง่ายขึ้น

· ไม่ควรอดอาหารก่อนไปทาน เพราะการอดอาหารจะทำให้กระเพาะอาหารเกิดการหดตัวและจะทำให้ทานได้น้อยลง

· สวมใส่เสื้อผ้าที่สบาย ๆ ยืดหยุ่นได้ดี เพื่อไม่รู้สึกอึดอัดเวลานั่งทาน

· หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มประเภทน้ำอัดลม เพราะเป็นเครื่องดื่มที่มีการอัดก๊าซลงไป ทำให้มีลมในช่องท้อง และจะทำให้อิ่มเร็วขึ้น

· ของหวานควรเก็บไว้ปิดท้าย เพราะของหวานจะกระตุ้นให้อิ่มเร็วขึ้นและมีอาการง่วงนอน ทำให้รู้สึกไม่อยากทานต่อ

สำหรับใครที่ชอบทาน Buffet ก็สามารถนำเคล็ดลับดี ๆ เหล่านี้ไปลองใช้กันได้ ช่วยให้คุณทานได้อร่อยขึ้นและทานได้มากขึ้น และอย่าลืมปฏิบัติตามกฎระเบียบของทานร้านและมารยาททางสังคม เพื่อไม่เป็นที่จับตามองและสามารถทานได้อย่างสบายใจ

บุฟเฟ่ต์

รางปลั๊กไฟ

ชวนไปเลือกซื้อ รางปลั๊กไฟ แบบไหนใช้แล้วปลอดภัย ไม่ต้องกังวลเรื่องไฟฟ้าลัดวงจร?

รางปลั๊กไฟ หรือปลั๊กพ่วง เป็นตัวรับและส่งกระแสไฟฟ้าผ่านเต้ารับเพื่อส่งกระแสไฟไปยังอุปกรณ์ต่าง ๆ เป็นอุปกรณ์ส่งกระแสไฟฟ้าที่สามารถใช้งานแบบเคลื่อนที่ได้ ใช้ได้ทั้งในและนอกสถานที่ ใช้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าได้ทุกประเภท ปัจจุบันนี้มีผลิตออกมาหลายประเภทเพื่อรองรับการใช้งานที่ต่างกัน จึงควรเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งาน เพราะจะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานดีกว่าและปลอดภัยมากกว่า

รางปลั๊กไฟ แบบ 2 ขา กับ 3 ขา ต่างกันอย่างไร ควรเลือกใช้แบบไหนดี?

· ปลั๊กพ่วงแบบ 2 ขา คือ ปลั๊กไฟ ที่มี 2 ขา หรือมี 2 รูสำหรับเสียบใช้งาน โดยปลั๊กประเภทนี้จะไม่มีขาสายดิน ออกแบบมาเพื่อใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่มีผิวเป็นโลหะ เช่น พัดลม ทีวี วิทยุ หม้อหุงข้าว กาต้มน้ำร้อน อุปกรณ์ไฟฟ้าประเภทที่ไม่มีผิวเป็นโลหะต่าง ๆ จึงผลิตปลั๊กออกมาให้มี 2 ขาเพื่อใช้กับเต้าประเภทนี้ได้อย่างปลอดภัยนั่นเอง 

· ปลั๊กพ่วงแบบ 3 ขา เป็นปลั๊กพ่วงที่มีขาสายดินเพิ่มเข้ามาอีก 1 ขา เพื่อทำหน้าที่ช่วยป้องกันกระแสไฟฟ้าลัดวงจรหรือโดนไฟดูด เพราะปลั๊กประเภทนี้จะใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีผิวเป็นโลหะ เช่น เครื่องซักผ้า ตู้เย็น ไมโครเวฟ หม้อทอด คอมพิวเตอร์ หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดอื่นที่มีผิวเป็นโลหะและสามารถทำให้เกิดไฟดูดเมื่อไฟฟ้าลัดวงจรได้

ประเภทของ รางปลั๊กไฟ แบบไหนที่เหมาะสำหรับการใช้งานของคุณ?

· ปลั๊กพ่วง 2 ขา หรือปลั๊ก 3 ตา เป็นปลั๊กไฟ ที่นิยมใช้กันมากที่สุด เพราะสามารถใช้งานได้ทั่วไป เหมาะสำหรับการใช้งามตามบ้านเรือน หรือการใช้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ไม่ได้มีกระแสไฟฟ้าสูง ๆ เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน การชาร์จแบตเตอรี่มือถือ ฯลฯ สามารถรองรับกระแสไฟฟ้าได้ประมาณ 1,500 – 2,300 วัตต์

· ปลั๊กโรลสายไฟ เป็นปลั๊กไฟขนาดใหญ่ที่มีลักษณะเป็นโรลม้วนเก็บสายไฟ ใช้สำหรับการพ่วงไฟในระยะไกล สายไฟยาวหลายเมตร เหมาะสำหรับพ่อค้าแม่ค้าที่ขายของตามตลาดนัดแบบเคลื่อนที่ รองรับได้ทั้งปลั๊กแบบ 2 ขาและแบบ 3 ขา รองรับกระแสไฟได้ 2,500 – 3,500 วัตต์

· ปลั๊กสนามหรือบล็อกยางสนาม เป็นปลั๊กที่เหมาะสำหรับการใช้งานภายนอก ออกแบบมาให้มีสายไฟที่ยาวเป็นพิเศษ วัสดุด้านนอกตัวปลั๊กผลิตจากยาง ช่วยป้องกันไฟฟ้าลัดวงจรและช่วยป้องกันแรงกระแทกได้ดี รองรับกระแสไฟฟ้าได้ 3,500 วัตต์

· ปลั๊กกันไฟกระชาก  เป็นปลั๊กที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันไฟกระชากโดยเฉพาะ เพราะไฟกระชากเป็นอาการที่สามารถเกิดขึ้นได้บ่อย โดยเกิดจากการใช้เสียบอุปกรณ์ไฟฟ้าพร้อมกันมากจนเกินไป ทำให้กระแสไฟไม่พอ สายไฟเกิดการชำรุด หรือเกิดจากผลกระทบจากทางธรรมชาติ ปลั๊กป้องกันไฟกระชากจึงผลิตมาเพื่อช่วยป้องกันไฟฟ้าลัดวงจรจากสาเหตุต่าง ๆ เช่น หม้อแปลงระเบิด ฟ้าผ่า สามารถรองรับกระแสไฟฟ้าได้สูงสุด 3,500 วัตต์

· ปลั๊กกรองไฟ เป็นปลั๊กที่เหมาะสำหรับเครื่องเสียง ชุดโฮมเธียเตอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่หรือมีกำลังไฟสูง เพราะมาพร้อมกับฟังก์ชันช่วยกรองสัญญาณภาพและเสียงจากคลื่นแทรก รองรับกระแสไฟฟ้าได้สูงสุด 3,500 วัตต์

เรื่องควรรู้ในการเลือกซื้อ รางปลั๊กไฟ แบบไหนที่ตอบโจทย์ความต้องการ

· เลือกจากประเภทของปลั๊ก ก่อนอื่นควรทราบก่อนว่าต้องการ รางปลั๊กไฟ ไปใช้ประโยชน์แบบไหน หากใช้พ่วงไฟตามบ้านเหมาะสำหรับปลั๊ก 3 ตา เพราะใช้งานง่าย มีขนาดไม่ใหญ่จนเกินไป แต่หากต้องการใช้สำหรับการขายของตามตลาดนัด เหมาะสำหรับปลั๊กโรลสายไฟหรือปลั๊กบล็อกยางสนาม เพราะมีความทนทานมากกว่า รองรับกระแสไฟได้มากกว่า และมีสายไฟที่ยาวกว่า

· เลือกจากจำนวนช่องเสียบ แต่ละรุ่นจะทำช่องเสียบมาไม่เท่ากัน มีให้เลือกตั้งแต่ 2 ช่องขึ้นไปจนถึง 12 ช่อง 

· เลือกจากความยาวของสายไฟ หากต้องการใช้งานภายในห้อง ความยาวขนาด 1 – 3 เมตรก็กำลังดี แต่หากใครต้องการยาวกว่านั้นก็มีปลั๊กที่สายไฟยาวถึง 10 เมตรเลย

· เลือกรุ่นที่มีระบบความปลอดภัย ควรเลือกรุ่นที่มีระบบเซอร์กิตเบรกเกอร์ (Circuit Breaker) เพราะจะตัดไฟอัตโนมัติเมื่อเกิดไฟฟ้าลัดวงจร

· เลือกจากฟังก์ชันการใช้งาน เช่น มีสวิตช์เปิด – ปิด มีช่องเสียบสาย USB สามารถเสียบชาร์จโทรศัพท์มือถือหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ได้

ปลั๊กพ่วงเป็นอุปกรณ์ที่มีประโยชน์ในการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ ภายในบ้าน ที่ช่วยขยายช่องจ่ายกระแสไฟจากเต้ารับให้เพิ่มขึ้นได้ แต่ทั้งนี้ ในการเลือกซื้อควรเลือกรุ่นที่มีเครื่องหมาย มอก. ที่บอกถึงมาตรฐานการผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่ได้มาตรฐานและมีความปลอดภัย หากเลือกใช้ปลั๊กแบบทั่วไปที่ไม่ได้มาตรฐานจะทำให้เกิดอันตรายในการใช้งานได้

รางปลั๊กไฟ

รองเท้าเซฟตี้

รองเท้าเซฟตี้ จำเป็นมากแค่ไหน ทำไมถึงควรใส่ ช่วยได้อย่างไร?

เคยสงสัยไหมว่าทำไมผู้ที่ทำงานก่อสร้างหรือโรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ ถึงจำเป็นต้องสวมใส่ รองเท้าเซฟตี้ ? เพราะผู้ที่ทำงานในสถานที่นั้น ๆ มีความเสี่ยงสูงมากกว่าการทำงานในสถานที่ทั่วไป เนื่องจากเป็นงานที่ต้องใกล้ชิดกับเครื่องจักร ของมีคม ของหนักของแข็ง สารเคมี น้ำมัน หรืออื่น ๆ การสวมใส่รองเท้าจึงไม่ใช่แค่รองเท้าแบบทั่วไป แต่ควรเป็นรองเท้าที่ช่วยเซฟตี้ได้ด้วย เพราะอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้

รองเท้าเซฟตี้ช่วยให้ปลอดภัยอย่างไร ช่วยป้องกันอะไรได้บ้าง?

· ช่วยป้องกันเท้าจากวัตถุแหลมคม รองเท้าเซฟตี้ผลิตจากวัสดุที่มีความแข็งแรงและทนทานสูงจึงช่วยป้องกันการถูกของแหลมคมอย่างตะปู นอต เศษเหล็กหรือเศษกระจกทิ่มแทงได้ 

· ช่วยป้องกันของหนักหล่นใส่เท้าหรือแรงกระแทก หัวรองเท้าออกแบบมาเป็นรองเท้านิรภัยที่ผลิตจากเหล็กหรือโลหะที่มีความแข็งแรงสูง จึงช่วยป้องกันของหนักหล่นใส่หน้าเท้าได้ เพราะบริเวณหน้าเท้าเป็นบริเวณที่มีกระดูกและเส้นเลือด หากถูกของหนักหล่นใส่แรง ๆ อาจทำให้กระดูกแตกหรือนิ้วเท้าขาดได้

· ช่วยป้องกันการตัดเฉือนได้ ในกรณีที่ทำงานเกี่ยวกับการใช้เครื่องจักรกลหรือเครื่องมืออุตสาหกรรมที่มีความคมสูงอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุในการตัดเฉือนได้ง่าย เช่น การใช้เครื่องตัดไฟฟ้า เลื่อยไฟฟ้า และอื่น ๆ  

· ช่วยป้องกันไฟฟ้าดูดหรือช็อต พื้นรองเท้าจะผลิตจากยางหรือหนังแท้ที่มีคุณสมบัติช่วยป้องกันการเกิดไฟฟ้าสถิตจากกระแสไฟฟ้าที่รั่วไหล จึงช่วยป้องกันไฟดูดหรือไฟช็อตได้

· ช่วยป้องกันการลื่น สำหรับงานที่ต้องเผชิญกับคราบน้ำมันหรือสารอื่น ๆ ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ถือว่ามีโอกาสสูงที่จะเกิดอุบัติเหตุจากการลื่นได้ง่าย รองเท้าเซฟตี้จึงออกแบบมาเพื่อช่วยป้องกันการลื่นได้

การเลือกรองเท้าเซฟตี้สำคัญแค่ไหน ควรดูที่อะไรบ้าง?

· เลือกให้เหมาะกับประเภทการใช้งาน หลายคนมักเข้าใจว่ารองเท้าเซฟตี้สามารถใช้งานได้ทุกประเภทไม่ว่าจะทำงานด้านไหนก็ตาม แต่ความจริงแล้วออกแบบมาให้ใช้งานได้เฉพาะทาง โดยแต่ละแบบจะออกแบบมาให้มีประโยชน์การใช้งานที่ต่างกัน จึงควรเลือกประเภทที่เหมาะกับการทำงานเป็นหลัก เช่น หากทำงานก่อสร้างที่เสี่ยงต่อของมีคมและของหนัก ควรเลือกรองเท้าเซฟตี้หัวเหล็กเพื่อช่วยป้องกันของหนักหล่นใส่และแรงกระแทกต่าง ๆ หรือหากทำงานเกี่ยวกับโรงไฟฟ้าหรือกระแสไฟฟ้า ควรเลือกรองเท้าที่มีคุณสมบัติช่วยป้องกันไฟฟ้าสถิตได้ด้วย

· เลือกจากหัวรองเท้า ควรเลือกรองเท้าที่เป็นหัวเหล็กหรือหัวคอมโพสิต เพราะช่วยป้องกันแรงกระแทกได้ดีกว่า โดยสามารถป้องกันแรงกระแทกได้สูงถึง 200 จูล หรือประมาณ 20 กิโลกรัม จากความสูง 1 เมตร

· เลือกจากหนังรองเท้า หลัก ๆ แล้วแบ่งออกเป็น 2 แบบคือ หนังแท้ และหนังเทียม โดยหนังแท้จะมีความทนทานมากกว่า ทนต่อการขีดข่วนและมีความยืดหยุ่น แต่จะมีราคาสูงกว่าหนังเทียม ส่วนหนังเทียมจะมีน้ำหนักเบากว่า สวมใส่สบาย ช่วยป้องกันสารเคมีบางประเภทได้ เหมาะสำหรับงานเบา ๆ 

· เลือกจากพื้นรองเท้า แบ่งออกเป็น 2 แบบคือ พื้นยางไนไตรล์ (NBR) และพื้น PU (Polyurethane) โดยพื้นยางไนไตรล์จะมีความทนทานสูง ทนต่อสารเคมีและน้ำมัน ช่วยป้องกันการลื่นได้ดี ที่สำคัญคือ สามารถทนความร้อนได้สูงถึง 300 องศาเซลเซียส ส่วนพื้น PU จะทนความร้อนได้ประมาณ 160 องศาเซลเซียส และช่วยป้องกันการลื่นได้

· เลือกรองเท้าที่มีมาตรฐานมอก. รองเท้าเซฟตี้ที่ดีควรเป็นรองเท้าที่มีมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) เพราะเป็นมาตรฐานที่ช่วยยืนยันได้ว่ารองเท้าคู่นั้นได้ผลิตมาอย่างได้มาตรฐานและสามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ควรหลีกเลี่ยงรองเท้าที่ไม่มีมาตรฐานมอก. เพราะเป็นรองเท้าที่ไม่ได้มาตรฐานและขาดคุณภาพในการใช้งาน ช่วยปกป้องเท้าและป้องกันอุบัติเหตุได้ไม่เต็มที่ หากนำมาสวมใส่อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย

· เลือกขนาดที่สวมใส่ได้พอดีเท้า ไม่ควรมีขนาดเล็กหรือใหญ่จนเกินไป เพราะจะทำให้เคลื่อนไหวไม่สะดวกและไม่คล่องตัว เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย และไม่ควรนำรองเท้าของผู้อื่นมาใส่ เพราะนอกจากจะมีขนาดที่ไม่พอดีเท้าแล้วยังทำให้เกิดความไม่มั่นใจในคุณภาพของรองเท้าด้วย

จะเห็นว่า รองเท้าเซฟตี้ นั้นเป็นอุปกรณ์เซฟตี้ที่สำคัญและมีความจำเป็นในการทำงานไม่น้อยเลย หากใครที่ทำงานเกี่ยวกับงานก่อสร้าง โรงไฟฟ้า เครื่องจักรกล หรืองานอุตสาหกรรมต่าง ๆ ก็อย่าลืมเลือกซื้อไปใช้เพื่อความปลอดภัยในการทำงานของคุณ

รองเท้าเซฟตี้

ผ่อนไม่ใช้บัตร

ผ่อนไม่ใช้บัตร ทำได้จริงหรือ? มีขั้นตอนการใช้งานอย่างไร? เลือกผ่อนอะไรได้บ้าง?

ในช่วงนี้หลายคนอาจได้ยินเกี่ยวกับการ ผ่อนไม่ใช้บัตร กันมาบ้างแล้ว ทำให้หลายคนเกิดความสงสัยว่าการผ่อนสินค้าแบบไม่ใช้บัตรนั้นจะสามารถทำได้อย่างไร มีหลักเกณฑ์อะไรในการใช้งาน และจะสามารถผ่อนสินค้าโดยไม่มีบัตรเครดิตได้จริงหรือไม่ เพราะสินค้าส่วนใหญ่ก็ต้องใช้บัตรเครดิตในการผ่อนด้วยกันทั้งนั้นเพื่อเป็นหลักประกันในการผ่อนสินค้า วันนี้เราจึงจะพาไปทำความรู้จักกับบริการนี้กันว่า ทำได้จริงไหม และทำได้อย่างไร?

การผ่อนไม่ใช้บัตร มีขั้นตอนการผ่อนอย่างไร? มีเงื่อนไขอะไรบ้าง?

· สมัครก่อนใช้บริการ ปัจจุบันนี้การผ่อนไม่ใช้บัตรมีให้เลือกใช้บริการหลายแห่งหลายร้านค้า ควรเลือกร้านค้าที่น่าเชื่อถือ มีความปลอดภัย และจำหน่ายสินค้าที่เป็นของแท้ เช่น แอปพลิเคชันช้อปปิ้งออนไลน์ เพราะมีสินค้าให้เลือกหลากหลาย และควรตรวจสอบดูก่อนว่ามีสินค้าที่ต้องการหรือไม่ หากมีก็สามารถสมัครใช้บริการผ่านแอปพลิเคชันได้

· ยอมรับรายละเอียดและเงื่อนไขต่าง ๆ ก่อนสมัครควรอ่านรายละเอียดและเงื่อนไขต่าง ๆ ก่อนว่าสามารถยอมรับและปฏิบัติตามเงื่อนไขที่กำหนดต่าง ๆ ได้หรือไม่ เพราะหากสมัครใช้งานแล้วจะหมายถึงการยอมรับข้อตกลงและเงื่อนไขต่าง ๆ ด้วย หากยอมรับได้ก็สามารถสมัครใช้บริการผ่อนสินค้าไม่ใช้บัตรได้เลย

· กรอกข้อมูลส่วนตัวที่เป็นจริงและสามารถตรวจสอบได้ เพราะหลังจากที่กรอกข้อมูลแล้วจะต้องทำการยืนยันตัวตนว่าเป็นผู้ใช้งานจริง และจะมีระบบตรวจสอบอีกครั้งเพื่อทำการอนุมัติการใช้งาน หากคุณสมบัติตรงกับเงื่อนไข การอนุมัติสำเร็จ ก็สามารถเริ่มใช้งานได้ทันที

· จะต้องสั่งซื้อสินค้าจากในแอปพลิเคชันที่สมัครใช้บริการเท่านั้น ไม่สามารถใช้บริการนี้กับแอปพลิเคชันอื่น ๆ ได้ สมัครที่ไหน ใช้ที่นั่น เพราะได้บันทึกข้อมูลต่าง ๆ เอาไว้หมดแล้ว

· สินค้าที่ผ่อนจะต้องไม่เกินวงเงินที่กำหนด แต่ละที่อาจให้วงเงินในการผ่อนสินค้าที่ไม่เท่ากัน จึงควรดูก่อนว่าที่เลือกใช้บริการนั้นให้วงเงินมาเท่าไหร่ เช่น วงเงินสูงสุด 100,000 บาท ก็ควรผ่อนสินค้าในวงเงินที่กำหนด ไม่สามารถใช้กับสินค้าที่ราคาสูงกว่าวงเงินที่กำหนดได้

· ควรชำระยอดสินค้าให้ตรงในทุกงวด เช่น หากเลือกผ่อนแบบ 6 เดือน ก็ควรชำระให้ตรงงวดทุกเดือน ไม่ควรชำระเงินเกินงวดเพราะอาจผิดเงื่อนไขและมีปัญหาตามมาได้ อีกทั้งการผ่อนไม่ใช้บัตรในปัจจุบันยังทำได้สะดวกขึ้น เพราะไม่มีขั้นต่ำในการผ่อน สามารถเลือกผ่อนได้ตามที่ต้องการ เพียงแค่ผ่อนให้ตรงงวดเท่านั้นเอง

· ควรชำระเงินให้ครบตามระยะเวลาในการผ่อน เมื่อครบ 6 เดือนแล้ว ควรชำระยอดให้ครบตามกำหนด เพราะถ้าไม่ครบจะทำให้การผ่อนบานปลายและมีดอกเบี้ยได้

เคล็ดลับในการผ่อนไม่ใช้บัตร ผ่อนอย่างไรให้ไม่บานปลาย

· การผ่อนไม่ใช้บัตรควรมีรายได้ที่มั่นใจก่อนว่าจะสามารถผ่อนได้ โดยเฉพาะคนที่ไม่มีเงินเดือน เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาในภายหลัง

· ควรเตรียมเงินสำรองไว้สำหรับการผ่อนในแต่ละงวด ควรวางแผนการเงินให้ดี และเตรียมเงินสำหรับผ่อนสินค้าไม่ใช้บัตรในแต่ละงวดแยกเอาไว้ต่างหากโดยไม่นำไปใช้

· ของที่ผ่อน 1 ชิ้นไม่ควรเกิน 20% ของรายได้ต่อเดือน เช่น รายได้ต่อเดือนประมาณ 15,000 บาท ของที่เลือกผ่อนแต่ละชิ้นไม่ควรเกิน 20% ของรายได้ต่อเดือน หรือประมาณ 3,000 จากรายได้ต่อเดือน 15,000 บาท เพื่อไม่ให้การผ่อนไปรบกวนค่าใช้จ่ายในส่วนอื่น ๆ 

· ควรมีเงินสำรองไว้ครึ่งหนึ่งของราคาของก่อนเลือกผ่อนจ่าย เพื่อป้องกันรายจ่ายที่มากขึ้นในช่วงสิ้นเดือน ควรเตรียมเงินสำรองไว้สำหรับผ่อนของก่อนอย่างน้อย 50% เช่น ต้องการผ่อนของราคา 3,000 บาท ควรมีเงินไว้สำรองอย่างน้อย 1,500 บาท เพื่อให้กระทบกับค่าใช้จ่ายในปัจจุบันน้อยที่สุด

· ยอดผ่อนของทั้งหมดทุกชิ้นไม่ควรเกิน 50% ของรายได้ต่อเดือน เพราะแต่ละชิ้นดูเหมือนจะน้อยแต่เมื่อนำมารวมกันแล้วก็อาจทำให้ผ่อนไม่ไหวได้

· ไม่ควรกดเลือกผ่อนเล่น ๆ โดยไม่ต้องการใช้งานจริง เพราะเป็นการกระทำที่ผิดเงื่อนไข หากสินค้าไปส่งถึงบ้านแล้วไม่ทำการผ่อนต่อเลยก็จะทำให้เกิดปัญหาใหญ่ได้

การ ผ่อนไม่ใช้บัตร เป็นบริการที่ดีและช่วยให้ซื้อของได้โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต แต่ในการใช้งานนั้นก็ควรใช้งานอย่างถูกวิธีและวางแผนการเงินให้เพียงพอต่อรายจ่ายในแต่ละเดือน เพื่อไม่ให้กระทบกับรายได้หลัก

ผ่อนไม่ใช้บัตร

Lazada Pay Later

ง่ายกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว Lazada Pay Later ช้อปก่อน ค่อยจ่าย ผ่อนนาน 6 เดือน ไม่มีขั้นต่ำ!

สำหรับใครที่เป็นสายช้อปปิ้งเชื่อว่าจะต้องถูกใจกับบริการใหม่ของ Lazada อย่าง Lazada Pay Later กันอย่างแน่นอน เพราะได้เปิดประสบการณ์ใหม่ในการช้อปปิ้งออนไลน์ที่ให้คุณสามารถเลือกซื้อสินค้าได้ตามที่ต้องการโดยไม่ต้องชำระเงินก่อน หากต้องการสินค้าชิ้นไหนก็จิ้มลงตะกร้า สั่งซื้อ และรอรับที่บ้านได้เลย เรียกว่าเป็นบริการใหม่ที่มีความสะดวกสบายมากเลยทีเดียว ส่วนจะมีการใช้งานอย่างไรนั้น เราจะพาไปดูกัน

Laz Pay Later ใช้ซื้ออะไรได้บ้าง ผ่อนได้นานแค่ไหน?

· ช้อปก่อน จ่ายทีหลังได้ Buy Now, Pay Later เป็นชื่อเต็มของ ลาซาด้า Pay Later ที่หมายถึงการซื้อของก่อนแล้วค่อยจ่ายเงินทีหลัง เป็นบริการที่ช่วยค่าใช้จ่ายตอนสิ้นเดือนลงได้ เพราะสั่งซื้อเดือนนี้แต่เลือกจ่ายได้เดือนหน้า 

· ไม่มีบัตรเครดิตก็ผ่อนได้ โดยปกติแล้วการผ่อนสินค้าจะต้องใช้บัตรเครดิต แต่หากเป็นคนทั่วไปที่ไม่สามารถทำเครดิตได้ก็จะไม่สามารถผ่อนสินค้าได้ แต่ LazPayLater สามารถทำได้ ให้เข้าไปเลือกผ่อนสินค้าที่ต้องการได้โดยไม่ต้องไปสมัครบัตรเครดิตให้ยุ่งยากเลย

· เลือกผ่อนสินค้าได้ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นของชิ้นเล็กหรือของชิ้นใหญ่ก็สามารถผ่อนได้แบบสบาย ๆ โดยไม่ต้องกังวลเลยว่าจะมีราคาถูกหรือราคาแพง สินค้าราคาไม่กี่พันก็สามารถผ่อนได้แล้ว

· วงเงินสูง 100,000 บาท ให้คุณเลือกช้อปสินค้าได้ด้วยวงเงินสูงสุดถึง 100,000 บาท ซึ่งถือว่าเป็นวงเงินที่สูงพอ ๆ กับการเลือกผ่อนสินค้าผ่านบัตรเครดิตเลย ให้คุณซื้อของชิ้นใหญ่ได้แบบสบาย ๆ โดยไม่ต้องจ่ายเงินก่อน

· ผ่อนชำระได้นาน 6 เดือน ไม่ต้องกลัวว่าจะหมุนเงินได้ไม่ทัน เพราะสามารถเลือกผ่อนได้นานถึง 6 เดือนเลยทีเดียว

· ผ่อนได้ไม่มีขั้นต่ำ ในแต่ละเดือนสามารถเลือกผ่อนได้ว่าต้องการผ่อนเท่าไหร่ ไม่มีการกำหนดขั้นต่ำ หากเดือนไหนมีน้อยก็จ่ายน้อยได้ แต่หากเดือนไหนมีมากก็จ่ายมากได้

· ไม่มีค่าธรรมเนียม ช้อปเท่าไหร่ก็จ่ายไปเท่านั้น ไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมให้ยุ่งยาก

· ไม่ต้องใช้เอกสารให้ยุ่งยาก สามารถสมัครใช้งานแบบออนไลน์ได้ โดยไม่ต้องเตรียมเอกสารต่าง ๆ ให้ยุ่งยาก ใช้เพียงข้อมูลส่วนตัวเท่านั้นเอง

การสมัคร Lazada Pay Later ทำอย่างไร?

· ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Lazada เพื่อใช้งาน LazPayLater จาก App Store หรือ Play Store ลงในสมาร์ตโฟน สามารถใช้งานได้ทั้งระบบ iOS และระบบ Android

· เลือกกดเข้าไปในแอปพลิเคชัน Lazada  แล้วเลือกเมนู “บัญชี” ที่อยู่ทางมุมขวาล่าง 

· กดเลือก “LazPayLater” 

· เมื่อเข้าไปแล้วจะมีรายละเอียดเกี่ยวกับการสมัคร ให้อ่านรายละเอียดการสมัครและเงื่อนไขต่าง ๆ ให้ครบก่อน แล้วจึงค่อยกด สมัคร “LazPayLater” 

· จากนั้นให้กรอกข้อมูลส่วนตัวให้ครบถ้วน ตรวจสอบข้อมูลให้ถูกต้องและทำการยืนยันตัวตน จากนั้นให้ตั้งรหัส PIN เพื่อการเข้าใช้งานในครั้งต่อไป

· รอระบบตรวจสอบและทำการอนุมัติวงเงิน ในขั้นตอนนี้ส่วนมากแล้วจะใช้เวลาไม่นาน หากอนุมัติสำเร็จแล้วก็สามารถเลือกช้อปสินค้าได้ทันที

วิธีการสั่งซื้อสินค้าด้วยการเลือกชำระเงินผ่านช่องทาง LazPayLater

· เลือกช้อปสินค้าที่ต้องการสั่งซื้อในแอปพลิเคชัน เพื่อใช้งาน ลาซาด้า Pay Later

· เลือกวิธีการชำระเงินเป็นช่องทาง “LazPayLater” เพื่อเปิดใช้บริการ เพราะหากไม่กดเลือกช่องทางนี้ระบบอาจเลือกเป็นช่องทางอื่น เช่น การชำระผ่านบัตรเครดิต Lazada Wallet, Internet Banking หรือการชำระเงินปลายทางแทนได้

· เลือกระยะเวลาในการผ่อนสินค้า โดยสามารถผ่อนได้นานสูงสุด 6 เดือน หรือหากใครต้องการผ่อนให้หมดไว ๆ ก็เลือกผ่อน 3 เดือนได้ 

· รอรับสินค้า หลังจากทำการสั่งซื้อเสร็จเรียบร้อยแล้วก็สามารถรอรับสินค้าที่บ้านได้เลย ไม่ต้องจ่ายเงินก่อน เมื่อของถึงมือแล้วก็ไม่ต้องง่ายเงิน เป็นบริการที่ให้คุณได้ช้อปก่อนจ่ายทีหลังจริง ๆ 

LazPayLater เป็นทางเลือกใหม่ในการซื้อสินค้าออนไลน์ที่สามารถผ่อนได้โดยไม่ต้องใช้บัตรเครดิต ไม่ต้องมีสลิปเงินเดือนหรือใช้เอกสารอะไรให้ยุ่งยากเลย เหมาะสำหรับคนที่มีค่าใช้จ่ายเยอะ หรือไม่สะดวกจ่ายเงินก้อนใหญ่ เป็นบริการดี ๆ ที่เหมาะสำหรับทุกคน โดยเฉพาะคนวัยทำงาน หากใครที่สนใจก็สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชันมาสมัครใช้งานกันได้ ใช้งานง่ายเหมือนการสั่งซื้อของออนไลน์จากในแอปพลิเคชันลาซาด้า 

Lazada Pay Later

เครื่องตัดหญ้าไฟฟ้า

เคล็ดลับการใช้ เครื่องตัดหญ้าไฟฟ้า อย่างถูกวิธี ใช้อย่างไรให้ปลอดภัยและมีประโยชน์

แม้ว่าการตัดหญ้าจะดูเหมือนงานที่ทำได้ยาก แต่ เครื่องตัดหญ้าไฟฟ้า ก็ผลิตมาเพื่อช่วยให้การตัดหญ้าเป็นสิ่งที่ง่ายขึ้นและใครก็สามารถตัดได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นผู้เชี่ยวชาญเพียงอย่าง แต่พ่อบ้านแม่บ้านก็สามารถตัดได้เช่นกันหากมีการใช้งานอย่างถูกวิธี เครื่องตัดหญ้าแบบไฟฟ้าต่างจากเครื่องตัดหญ้าแบบน้ำมันหลายอย่าง เครื่องตัดหญ้าน้ำมันจะมีรอบการตัดสูง ทำให้ควบคุมตัวเครื่องได้ยาก เหมาะสำหรับผู้ที่เชี่ยวชาญโดยเฉพาะ

เครื่องตัดหญ้าไฟฟ้า มีแบบไหนบ้าง?

· แบบมีสาย เป็นเครื่องตัดหญ้าไฟฟ้าที่ทำงานโดยการเสียบเข้ากับไฟบ้านเพื่อใช้งาน มีสายไฟในตัว ข้อดีคือ มีกำลังไฟสูง แต่ในการใช้งานนั้นจะต้องคอยต่อปลั๊กพ่วงเพื่อใช้งาน และควรระวังไม่ให้ตัดไปโดยสายไฟด้วย 

· แบบไร้สาย เป็นเครื่องตัดหญ้าที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน ออกแบบมาให้ใช้งานได้แบบไร้สาย ไม่ต้องคอยต่อปลั๊กพ่วง สามารถเปิดใช้งานได้เลย ทำงานโดยใช้แบตเตอรี่

ข้อดีของเครื่องตัดหญ้าไฟฟ้าดีอย่างไร ทำไมถึงควรใช้?

· ใช้งานง่าย ดีไซน์จับถนัดมือ เครื่องตัดหญ้าไฟฟ้าออกแบบมาให้ใช้งานได้อเนกประสงค์ มีด้ามจับ ช่วยให้จับได้ถนัดมือ ควบคุมตัวเครื่องได้ง่าย ไม่ต้องกลัวว่าเครื่องจะส่ายไปส่ายมา โดยเครื่องตัดหญ้าไฟฟ้าแบบด้ามจับเหมาะสำหรับใช้ตัดหญ้าทั่วไปตามสวนหรือบริเวณอื่น ๆ ที่หญ้ารก เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีบริเวณไม่กว้าง แต่หากต้องการตัดในพื้นที่กว้างเหมาะสำหรับเครื่องตัดหญ้าไฟฟ้าแบบรถเข็น เพราะช่วยทุ่นแรงได้ดีกว่า

· น้ำหนักเบา เพราะทำงานด้วยการใช้แบตเตอรี่จึงมีน้ำหนักที่เบาและเคลื่อนย้ายสะดวก ควบคุมทิศทางในการตัดหญ้าได้ง่าย ขนย้ายง่าย

· ไม่ส่งกลิ่นเหม็น โดยในการใช้งานนั้นจะมีแค่เพียงกลิ่นหญ้าเท่านั้น เนื่องจากไม่ได้ใช้น้ำมันในการทำงานจึงไม่ทำให้เหม็นกลิ่นเขม่าควัน

· เสียงเบา ทำงานเงียบ ไร้เสียงรบกวน ไม่รบกวนสมาธิในการทำงาน ช่วยให้ได้ยินเสียงภายนอกขณะใช้งานได้

· ถอดประกอบง่าย สามารถถอดเปลี่ยนใบมีดเองได้ ออกแบบมาให้ถอดใช้งานง่าย

· ไม่ต้องเติมน้ำมัน ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในแต่ละครั้งลงได้ 

· ดูแลง่าย ตัวเครื่องและใบมีดออกแบบมาให้ทำความสะอาดง่าย ดูแลง่าย ไม่ยุ่งยาก

· ประหยัดพื้นที่จัดเก็บ เพราะมีขนาดที่ไม่ใหญ่จนเกินไปและสามารถถอดประกอบได้จึงช่วยประหยัดพื้นที่จัดเก็บลงได้

ข้อควรระวังในการใช้เครื่องตัดหญ้า ใช้อย่างไรให้ปลอดภัย?

· ตรวจสอบใบมีดให้เข้าล็อกก่อนใช้งาน สำหรับใครที่เปลี่ยนใบมีดเครื่องตัดหญ้าไฟฟ้า ควรตรวจสอบให้มั่นใจก่อนว่าใบมีดนั้นได้แนบสนิทและเข้าล็อกดีแล้ว เพื่อป้องกันใบมีดกระเด็นหลุดออกมา

· ไม่ควรนำไปตัดกิ่งไม้ขนาดใหญ่ เป็นอุปกรณ์ที่ออกแบบมาสำหรับตัดเล็มหญ้าเท่านั้น บางรุ่นออกแบบมาให้ตัดกิ่งไม้ขนาดเล็กได้ แต่ไม่สามารถตัดกิ่งไม้ขนาดใหญ่ได้ เพราะขนาดใบมีดและกำลังการทำงานไม่เพียงพอสำหรับการตัดกิ่งไม้ขนาดใหญ่ จึงไม่ควรนำไปตัด เพราะจะทำให้เกิดแรงเหวี่ยงที่ทำให้เกิดอันตรายได้

· ไม่ควรตัดชิดขอบกำแพงหรือผนังปูน เพราะจะทำให้ใบมีดบิ่นและเกิดแรงตีกลับจากการกระทบของแข็ง

· ไม่ควรใช้ตัดหญ้าบนพื้นที่มีหิน เพราะหากใบมีดเหวี่ยงไปโดนหิน จะทำให้หินกระเด็นใส่จนได้รับบาดเจ็บได้ เพราะแรงเหวี่ยงนั้นค่อนข้างแรงและหินก็เป็นวัตถุที่เป็นของแข็ง อาจเจาะเข้าเนื้อหรือกระเด็นเข้าตาได้

· สวมใส่อุปกรณ์ป้องกันขณะใช้งาน ควรสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันดวงตา เสื้อผ้าที่ปิดมิดชิด เพื่อป้องกันใบมีดเหวี่ยงเศษไม้หรือเศษหินมาโดน

· ไม่ควรใช้ติดต่อกันนานจนเกินไป เมื่อเครื่องเริ่มร้อนแล้วให้ปิดพักเครื่องก่อน แล้วค่อยเปิดใช้งาน เพื่อช่วยถนอมตัวเครื่องและช่วยยืดอายุการใช้งาน 

· ปิดเมื่อเลิกใช้งาน ไม่ควรเปิดทิ้งไว้ เพราะตัวเครื่องอาจเหวี่ยงหรือหมุนไปโดนข้าวของจนเกิดความเสียหายได้

· ทำความสะอาดก่อนเก็บเข้าที่ ควรเช็ดทำความสะอาดใบมีด ใบพัด และตัวเครื่องก่อนเก็บเข้าที่ เพราะเปื้อนหญ้า ยางไม้ เศษดินหรือเศษฝุ่น ที่หากปล่อยไว้จะเกาะใบมีด ทำให้ไม่คม

สำหรับพ่อบ้านแม่บ้านคนไหนที่อยากได้ เครื่องตัดหญ้าไฟฟ้า ไปใช้สำหรับดูแลสวนหรือตัดหญ้าตามริมรั้วบ้านก็หาซื้อไปใช้งานกันได้ มีให้เลือกหลายรุ่นหลายราคา นอกจากนี้ยังมี เครื่องตัดแต่งพุ่มไม้ ที่ช่วยแต่งให้พุ่มไม้ออกมาเป็นทรงสวยด้วย

เครื่องตัดหญ้าไฟฟ้า

กล้องวงจรปิด Hikvision

พาไปดูเทคโนโลยีน่าใช้ใน กล้องวงจรปิด Hikvision ดีอย่างไร ทำไมถึงเป็นที่นิยม?

หากพูดถึง กล้องวงจรปิด Hikvision คงเป็นแบรนด์แรก ๆ ที่หลายคนนึกถึง เพราะเป็นแบรนด์ผู้ผลิตกล้องวงจรปิดชั้นนำของโลกที่มุ่งไปที่เทคโนโลยีและการพัฒนา โดยมีทีมงานวิศวกรวิจัยพัฒนาการผลิตภัณฑ์กว่า 7,000 คน จนทำให้เป็นแบรนด์กล้องวงจรปิดที่มีความล้ำสมัยด้วยนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่นำมาปรับใช้ได้อย่างลงตัว ไฮวิชั่น ก่อตั้งขึ้นในปี 2001 โดยใช้ชื่อว่า Hangzhou Hikvision Digital Technology Co., Ltd. เป็นแบรนด์ที่โด่งดังไปทั่วโลกและบริษัทชั้นนำต่างก็นิยมเลือกใช้ ส่วนจะดีอย่างไรและมีเทคโนโลยีอะไรที่น่าสนใจบ้าง ไปดูเลย

ประเภทของ กล้องวงจรปิด

· กล้องวงจรปิดสำหรับติดตั้งภายในอาคาร ส่วนมากแล้ว กล้องวงจรปิด สำหรับติดตั้งภายในอาคารจะออกแบบมาเป็นลักษณะของครึ่งวงกลมหรือเรียกว่า กล้องโดม เพื่อความสวยงามและไม่เป็นที่สะดุดมากจนเกินไป เพราะภายในอาคารเป็นบริเวณที่มีคนอาศัยอยู่ค่อนข้างเยอะ หากเลือกใช้ทรงยาวจะทำให้ดูเป็นที่น่าจับตามองมากจนเกินไป อีกทั้งยังทำให้ผู้คนเกิดความหวาดระแวงด้วย ข้อดีของกล้องโดมคือ สามารถหมุนได้ 360 องศา ช่วยเก็บภาพได้ในวงกว้างและบันทึกได้ในทุกสถานการณ์

· กล้องวงจรปิดสำหรับติดตั้งภายนอกอาคาร เป็นกล้องทรงยาวที่จะเน้นไปที่เรื่องความคมชัดเป็นหลัก บางรุ่นออกแบบมาให้มีความคมชัดสูงถึง 5 ล้านพิกเซล จุดเด่นของกล้องภายนอกอาคาร Hikvision คือ สามารถบันทึกภาพสีได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งกลางวันและกลางคืน โดยได้นำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้เพื่อให้ภาพกลางคืนมีความคมชัดสูงแม้ว่าจะมีแสงสว่างน้อยก็ตาม

รวมเทคโนโลยีน่าใช้ใน Hikvision 

· เทคโนโลยี DWDR ป้องกันการย้อนแสง กล้องวงจรปิด หลายรุ่นมาพร้อมกับ เทคโนโลยี DWDR ที่ช่วยป้องกันการย้อนแสง เพราะการติดตั้งกล้องในบางตำแหน่งอาจทำให้มีแสงกระทบและเกิดภาพย้อนแสงจนมองเห็นไม่ชัดได้ เทคโนโลยีนี้จึงเข้ามาช่วยทำให้ภาพถ่ายย้อนแสงมีความคมชัดยิ่งขึ้น

· เทคโนโลยีการบีบอัดภาพ H.264 เป็นเทคโนโลยีที่มีการบีบอัดภาพและเสียงให้ออกมามีความคมชัดเท่ากัน

· เทคโนโลยี 3D DNR เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้ภาพออกมาดูมีมิติมากขึ้นและมีความคมชัด

· เทคโนโลยี Low Illumination เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยปรับแสงสว่างภาพให้เกิดความสมดุล

· เทคโนโลยี Smart IR เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยปรับระยะอินฟราเรดในช่วงกลางคืน เพื่อให้ภาพตอนกลางคืนเห็นชัดขึ้นแม้ในระยะไกล 

· เทคโนโลยีภาพ High Definition เป็นความละเอียดระดับสูง 2560 x 1944P ที่สามารถเก็บรายละเอียดต่าง ๆ ของภาพได้อย่างชัดเจน ขยายภาพได้โดยไม่แตก เช่น ทะเบียนรถ

ประโยชน์การติดตั้ง กล้องวงจรปิด Hikvision 

· ช่วยบันทึกเหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ เพราะเหตุการณ์สำคัญต่าง ๆ ไม่อาจคาดเดาได้ การติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้จึงช่วยบันทึกเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นได้ในทุกช่วงเวลา 

· ช่วยดูแลสอดส่องเวลาไม่อยู่บ้าน แม้จะไม่อยู่บ้านก็สามารถใช้กล้องวงจรปิดทำหน้าที่ช่วยดูแลสอดส่องบริเวณต่าง ๆ ของบ้านแทนได้ผ่านแอปพลิเคชันในสมาร์ตโฟน ที่สามารถเปิดดูได้แบบเรียลไทม์ 

· ช่วยป้องกันขโมย หากขโมยเห็นว่ามีกล้องวงจรปิดก็จะหลีกเลี่ยงเพราะกลัวว่าจะโดนจับได้ แต่หากขโมยเข้ามาจริง ๆ ก็มีระบบแจ้งเตือนความปลอดภัยเมื่อเกิดการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ เพื่อเฝ้าระวังได้ทันเวลา

· ช่วยเฝ้าระวังความปลอดภัยของคนในบ้าน สำหรับบ้านที่มีเด็กเล็กหรือผู้สูงอายุอาศัยอยู่ตามลำพัง สามารถใช้กล้องวงจรปิดเป็นสื่อกลางในการเฝ้าระวังเหตุการณ์ต่าง ๆ ในบ้านได้ นอกจากนี้ยังรวมถึงการติดตามพฤติกรรมของสัตว์เลี้ยงด้วย

· สามารถสนทนากับคนในบ้านผ่านกล้องได้ มาพร้อมกับไมโครโฟนในตัว ที่ให้คุณสามารถสนทนากับคนที่บ้านผ่านกล้องวงจรปิดได้ สามารถสนทนาโต้ตอบได้ ไมโครโฟนรองรับเสียงได้ในระยะไกลหลายเมตร

· ใช้เป็นหลักฐานได้ เมื่อเกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ ขึ้นสามารถนำภาพจากกล้องวงจรปิดไปใช้เป็นหลักฐานทางรูปคดีหรือในเรื่องต่าง ๆ ได้ 

กล้องวงจรปิด  เป็นอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยที่สามารถติดตั้งได้ทั้งภายในและภายนอก สำหรับใครที่สนใจอยากซื้อไปติดตั้งไว้ที่บ้านก็หาซื้อมาใช้กันได้ มีให้เลือกหลายรุ่น หากเลือกรุ่นสำหรับติดตั้งภายนอกอาคาร ควรเลือกรุ่นที่มีมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นระดับสูง เช่น IP67 เพื่อป้องกันน้ำฝน ละอองน้ำ และฝุ่นละอองต่าง ๆ 

กล้องวงจรปิด Hikvision

เต็นท์ Naturehike

เลือก เต็นท์ Naturehike อย่างไรให้ตรงกับการใช้งานและไม่ต้องกลัวน้ำเข้าเต็นท์!

เต็นท์ Naturehike เป็นแบรนด์สัญชาติจีนที่ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2005 เพื่อผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์สำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง โดยจะเน้นไปที่อุปกรณ์เดินป่าและอุปกรณ์สำหรับแคมป์ปิ้งเป็นหลัก โดยสินค้าที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือ เต็นท์ เพราะมีผลิตออกมาหลายประเภท ไม่เพียงเฉพาะเต็นท์สำหรับมือโปรแต่ยังมีเต็นท์สำหรับมือใหม่และเต็นท์สำหรับครอบครัวด้วย จุดเด่นของเต็นท์แบรนด์ Naturehike คือ มีน้ำหนักที่เบาแต่มีคุณภาพสูง เพื่อการพกพาที่สะดวกสบาย ทำให้ Naturehike เป็นแบรนด์อันดับต้น ๆ ที่คนมักจะนึกถึงเมื่อต้องการซื้อเต็นท์นั่นเอง

รู้หรือไม่? เต็นท์ แต่ละแบบเหมาะสำหรับการใช้งานแบบไหน?

· Naturehike Cloud up เป็นเต็นท์กลางแจ้งสำหรับ 1 คน มีขนาดกะทัดรัด ผ้าคลุมเต็นท์ผลิตจากผ้า Oxford มีประสิทธิภาพในการกันน้ำกันฝนสูง ตะเข็บด้านข้างมีการป้องกันน้ำซึมเข้าได้เป็นอย่างดี โครงเต็นท์เป็นแบบ Double Layer วัสดุด้านในผลิตจากเส้นใยโพลีเอสเตอร์และตาข่าย ส่วนผ้าเต็นท์ด้านนอกผลิตจากไนลอนผสมกับผ้าโพลีเอสเตอร์ เป็นเต็นท์ที่มีน้ำหนักเบา เหมาะสำหรับกิจกรรมกลางแจ้งอย่างการแคมป์ปิ้ง เดินป่า

· Naturehike Taga เป็นเต็นท์สำหรับใช้งาน 2 คน โครงเต็นท์ใช้เสาอะลูมิเนียมอัลลอยด์ไขว้กัน 2 อัน ฟรายชีทผลิตจากไนลอนเคลือบด้วยซิลิโคนและมีการเย็บปิดตะเข็บ ทำให้มีประสิทธิภาพในการป้องกันน้ำเข้าสูง ด้านในเต็นท์ค่อนข้างกว้าง มีตาข่ายระบายอากาศและช่วยป้องกันยุงหรือแมลงเข้าได้

· Naturehike Star River เป็นเต็นท์แบบ 2 ชั้นรูปทรงตัว V ที่มีประสิทธิภาพในการกันน้ำและกันลมสูง ทนต่อแรงลมได้ดี มีความแข็งแรง โครงเต็นท์ทำจากอะลูมิเนียม ผ้าเต็นท์ผลิตจากไนลอน ผ้าโพลีเอสเตอร์ และเคลือบอีกชั้นด้วยซิลิโคนทำให้มีความทนทานสูง แต่มีน้ำหนักที่เบา Naturehike รุ่นนี้สามารถรองรับการใช้งานได้ 2 คน ทำทางเข้า – ออกมาให้ 2 ทาง มีตาข่ายระบายอากาศและป้องกันแมลงด้านใน

· Naturehike Ango เป็นเต็นท์กางอัตโนมัติสำหรับครอบครัวที่เหมาะสำหรับมือใหม่หัดกางหรือคนที่ชอบความสะดวกสบาย รองรับการใช้งานได้ 3 คน มีขนาดค่อนข้างใหญ่ ดีไซน์สวยงาม กางง่ายไม่ยุ่งยาก ด้านหน้ามีกันสาดสำหรับกันฝนหรือน้ำค้าง ด้านในออกแบบมาให้มีตาข่ายระบายอากาศได้รอบทิศทาง มีประสิทธิภาพในการป้องกันน้ำและลมได้ดี นอกจากนี้ยังมีคุณสมบัติช่วยป้องกันรังสียูวี UPF50+ ด้วย

· Naturehike Brighten เป็นเต็นท์ทรงกระโจมที่ผลิตจากผ้าคอตตอนในสไตล์มินิมอล มีความสวยงาม ผ้าเต็นท์ด้านนอกเคลือบด้วย PVC ทำให้กันน้ำและกันลมได้ดี เป็นเต็นท์ครอบครัวที่มีให้เลือก 2 ขนาด คือ ขนาดสำหรับ 3 – 4 คน และขนาดใหญ่สำหรับ 5 – 8 คน

· Naturehike P Series เป็นเต็นท์ทรงโดมขนาดกะทัดรัด กางง่าย เก็บง่าย เน้นความสะดวกสบายเป็นหลัก วัสดุด้านนอกผลิตจากโพลีเอสเตอร์เคลือบด้วย PU และมีการเคลือบสารป้องกันรังสี Ultra Violet จึงทำให้รุ่นนี้สามารถกันได้ทั้งน้ำ ลม และแสงแดดด้วยค่าการป้องกัน UPF50+ ส่วนผ้าเต็นท์ผลิตจากผ้า Oxford มีหลังคากันสาดด้านหน้า ด้านในมีตาข่ายระบายอากาศ รองรับได้ 2 – 4 คน

เคล็ดลับในการเลือกซื้อ เต็นท์ Naturehike แบบง่าย ๆ !

· เลือกจากจำนวนผู้ใช้งาน เต็นท์มีผลิตออกมาหลายขนาด มีเต็นท์สนามสำหรับใช้งาน 1 คน เต็นท์สำหรับ 2 คน และเต็นท์ครอบครัวสำหรับ 3 – 8 คน 

· เลือกจากขนาดตอนกางและตอนเก็บ ขนาดเต็นท์ไม่ได้ดูแค่ตัวเต็นท์แต่ต้องรวมไปถึงตอนที่กางฟรายชีทและตอนตอกสมอด้วย เพื่อให้ทราบว่าใช้พื้นที่เท่าไหร่ต่อการกางในแต่ละครั้ง และควรดูที่ขนาดตอนพับเก็บแล้วด้วยว่าสะดวกต่อการพกพาหรือไม่

· เลือกจากวัสดุและน้ำหนัก เพราะวัสดุแต่ละประเภทมีประสิทธิภาพในการใช้งานไม่เหมือนกัน

· เลือกจากประสิทธิภาพในการป้องกันต่าง ๆ เช่น กันน้ำ น้ำค้าง กันฝน กันยูวี

· เลือกจากฟังก์ชันการใช้งาน เช่น กันสาด หน้าต่างระบายอากาศ ทางเข้า – ออก

Naturehike เป็นแบรนด์ที่ขึ้นชื่อเรื่องความทนทาน ออกแบบมาสำหรับการใช้งานกลางแจ้งโดยเฉพาะ ช่วยปกป้องจากแดด ลม ฝน และแมลงต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งเต็นท์แต่ละรุ่นยังเน้นการออกแบบมาให้มีน้ำหนักเบาเพื่อความสะดวกในการเดินทาง หากใครที่กำลังมองหาเต็นท์ดี ๆ สำหรับไปแคมป์ปิ้งสักหลังหนึ่ง Naturehike ก็เป็นคำตอบที่ดี

เต็นท์ Naturehike