พาไปดูที่มาของ สตาร์บัค และโลโก้ที่ไม่ใช่นางเงือก! พร้อมเคล็ดลับการสั่งแบบมือโปร
สตาร์บัค (Starbuck) เป็นแบรนด์สัญชาติอเมริกันที่ก่อตั้งขึ้นโดย กอร์ดอน โบว์เกอร์, เจอร์รี บัลด์วิน และเซฟ ซีเกิล โดยเริ่มจากการเปิดร้านขายเมล็ดกาแฟคั่วเล็ก ๆ จนเมล็ดกาแฟของพวกเขาเริ่มเป็นที่นิยมด้วยเมล็ดกาแฟที่คุณภาพสูง จึงได้เปิดร้านกาแฟขึ้นเป็นสาขาแรกที่เมือง Seattle รัฐ Washington สหรัฐอเมริกา เมื่อปี 1971 ซึ่งก็เป็นเวลากว่า 52 ปีมาแล้ว ปัจจุบันนี้ Starbuck มีสาขาทั่วโลกกว่า 30,000 สาขา โดยสตาร์บัคส์สาขาแรกของโลกยังคงเปิดให้บริการตามปกติ และมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลมาจากทั่วโลกเพื่อไปสัมผัสบรรยากาศและลิ้มรสกาแฟที่เป็นสาขาแรกของโลก ส่วนโลโก้ของสตาร์บัคส์ที่หลายคนเข้าใจว่าเป็นนางเงือกก็ต้องบอกว่าไม่ใช่ เพราะความจริงแล้วเป็นรูป “ไซเรน” โดยได้แรงบันดาลใจมาจากต้นหนเรือบนหัวเรือโบราณที่ใช้แผ่นไม้รูปไซเรนมาประดับไว้
เคล็ดลับการสั่งเครื่องดื่ม Starbucks สั่งอย่างไร ควรรู้อะไรบ้าง?
· เลือกประเภท เครื่องดื่มสตาร์บัค แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ เครื่องดื่มร้อน (Hot), เครื่องดื่มเย็น (Iced) และเครื่องดื่มปั่น Frappuccino Blened Baverage เหมือนกับร้านกาแฟแบบทั่วไป แต่จะมีความพิเศษในเรื่องอื่น ๆ
· เลือกขนาดแก้ว แบ่งออกเป็น 4 ขนาด คือ Short เป็นแก้วขนาด 8 ออนซ์ เป็นแก้วไซซ์เล็กที่ใช้สำหรับเครื่องดื่มเมนูร้อนเท่านั้น , Tall แก้วขนาด 12 ออนซ์ ที่ใช้สำหรับเมนูเย็นและเมนูปั่น, Grande แก้วขนาด 16 ออนซ์ หรือไซซ์กลาง ใช้สำหรับเมนูเย็นและเมนูปั่น เป็นไซซ์ที่นิยมในเครื่องดื่มเย็นแบบทั่วไป และ Venti ไซซ์ใหญ่ ขนาด 20 ออนซ์ สำหรับสั่งเมนูสตาร์บัคแบบเย็นและแบบปั่น โดยชื่อเรียกขนาดแก้วของสตาร์บัคส์จะต่างจากชื่อที่เราเรียกกันทั่วไปอย่าง S, M, L เพราะได้แรงบันดาลใจมาจากร้านกาแฟอิตาลีของ Howard Schultz จึงตั้งชื่อเป็นภาษาอิตาเลียนเพื่อให้แบรนด์ออกมาไม่เหมือนใครนั่นเอง
· เลือกปริมาณคาเฟอีน สามารถเลือกได้ 3 ระดับคือ แบบไม่มีคาเฟีอีน (Decaf ), ระดับปกติ (Regular) และแบบเพิ่มช็อต (Extra Shot)
· เลือกประเภทของนม ถือเป็นจุดเด่นของสตาร์บัคส์เลย เพราะหากใครแพ้นมวัวก็สามารถเลือกนมชนิดอื่นแทนได้ มีให้เลือก 3 แบบคือ นมสด (Whole), นมขาดมันเนย (Non-Fat) และนมถั่วเหลือง (Soy)
· เลือกประเภทไซรัป (Syrup) แบ่งออกเป็น 5 ประเภทคือ รสวานิลลา (Vanilla), วานิลลาแบบไม่มีน้ำตาล (Sugar-free Vanilla), คาราเมล (Caramel), เฮเซลนัท (Hazelnut) และแรสเบอร์รี (Raspberry)
· เลือกจาก Topping มีให้เลือก 3 ประเภท คือวิปครีม (Whipped Cream), คอฟฟี่เจลลี่ (Coffee Jelly) และจาวาชิป (Java Chip)
· เลือกจากซอสราด มีให้เลือก 2 แบบคือ ช็อกโกแลตซอส (Chocolate Sauce) และคาราเมลซอส (Caramel Sauce)
แนะนำเมนูลับ สตาร์บัค สำหรับคนรักชาเขียว!
หลังจากที่ชาเขียวในตำนานของ สตาร์บัค อย่าง “Green Tea Frappuccino” ได้กลายเป็นไวรัลและโด่งดังไปทั่วโซเชียลจนทำให้มีคนไปต่อแถวซื้อกันยาว ก็มีอีกหนึ่งเมนูสำหรับคนรักชาเขียวที่เราอยากให้เพื่อน ๆ ได้ไปลิ้มลองกัน นั่นคือ ” Extra Green Tea Frappuccino with Java Chip” หรือถ้าจะให้พูดง่าย ๆ ก็คือ ชาเขียวปั่นที่อัด Topping เข้าไปแบบจุก ๆ หอมหวานด้วย Caramel Syrup เพิ่มความละมุนด้วย Whipped Cream และโรยหน้าด้วย Java Chip ให้เคี้ยวเพลินกรุบ ๆ และ Coffee Jelly แบบเด้งดึ๋ง ๆ แล้วราดหน้าด้วย Chocolate Sauce ตบท้ายด้วย Green Tea On Top เพื่อเพิ่มกลิ่นหอม ๆ ของชาเขียวและสีสันที่สวยงาม ที่จะให้เพื่อน ๆ ได้ลิ้มรสชาติที่หวานหอมอร่อยของขาเชียวและเคี้ยวเพลิน ๆ ด้วย Topping แต่หากใครอยากเปลี่ยน Topping หรือ Syrup ก็ทำได้ตามชอบเลย โดยเมนูสตาร์บัคแก้วนี้มีราคาอยู่ที่ 250 บาท
สำหรับใครที่อยากไปลิ้มลองเมนูต่าง ๆ ของ สตาร์บัค สามารถเดินทางไปได้ที่สาขาใกล้บ้าน ซึ่งก็ไม่ได้มีแค่เมนูกาแฟเข้มข้นเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีเมนูชา เช่น โฮจิฉะ ที ลาเต้ (Hojicha Tea Latte), เมนูช็อกโกแลต เช่น ช็อกโกแลตชิพ ครีม แฟรบปูชิโน่ (Chocolate Chip Cream Frappuccino), เมนูวานิลลา เช่น วานิลลาครีม แฟรบปูชิโน่ (Vanilla Cream Frappuccino), เมนูกาแฟปั่น เช่น คาราเมล แฟรบปูชิโน่ (Caramel Frappuccino) และน้ำผลไม้ เช่น แมงโก้ แพชชั่น ฟรุ๊ต แฟรบปูชิโน่ (Mango Passion Fruit Blended Juice) หากชอบเมนูไหนก็ไปลองสั่งทานกันได้
