สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า เพื่อนเดินทางสำหรับคนรุ่นใหม่ ใช้งานง่าย เลือกได้ในแบบที่ชอบ
ในช่วงนี้เราคงได้เห็น สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ตามวิ่งตามถนนตรอกซอกซอยกันมากขึ้น เพราะเป็นยานพาหนะรูปแบบใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยให้ได้เดินทางได้สะดวกขึ้นในระยะทางใกล้ ๆ เช่น ซื้อของหน้าปากซอย แทนการเดินหรือการใช้ยานพาหนะที่ต้องเติมน้ำมัน สกู๊ตเตอร์ทำงานโดยใช้ไฟฟ้า ชาร์จไฟหนึ่งครั้งสามารถขับขี่ได้ไกลหลายกิโลเมตร สำหรับใครที่สนใจหรือมีแพลนจะซื้อแต่ไม่รู้ว่าควรเลือกซื้อแบบไหนดีเราก็มีมาบอกกัน
การเลือกซื้อสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าต้องดูที่อะไรบ้าง?
· ขนาดและน้ำหนัก หลายคนมองข้ามเพราะคิดว่าเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นในการเลือกซื้อสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าแต่ความจริงแล้วจำเป็นมากกว่าที่คิด เพราะขนาดและน้ำหนักนั้นมีผลต่อการใช้งานโดยตรง หากมีน้ำหนักมากเกินไปจะทำให้เคลื่อนย้ายไม่สะดวกได้ โดยเฉพาะคนที่ใช้ร่วมกับการเดินทางด้วยระบบโดยสารแบบอื่น ๆ
· ความเร็วสูงสุด เพื่อได้รุ่นที่ทำความเร็วได้ตรงกับความต้องการ โดยส่วนมากแล้วความเร็วในการวิ่งสูงสุดจะอยู่ที่ประมาณ 25 – 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หากเป็นรุ่นทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 18 – 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็นความเร็วในระดับที่ปลอดภัย สามารถหยุดรถได้ง่าย และความเร็วประมาณ 35 – 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ที่ถือว่าเดินทางได้ค่อนข้างเร็วเมื่อเทียบกับการปั่นจักรยาน
· ระยะทางในการขับขี่ เพื่อดูว่าสกู๊ตเตอร์รุ่นนั้น ๆ สามารถวิ่งได้ไกลแค่ไหนต่อการชาร์จไฟ 1 ครั้ง เพื่อคำนวณการเดินทางได้อย่างถูกต้องทั้งไปและกลับ โดยระยะทางในการเดินทางจะอยู่ที่ประมาณ 40 – 65 กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟหนึ่งครั้ง หากคำนวณระยะทางไม่ดีอาจทำให้แบตเตอรี่หมดก่อนถึงจุดหมายได้
· เวลาการชาร์จ ควรเลือกรุ่นที่ใช้เวลาชาร์จไม่นานจนเกินไป โดยทั่วไปแล้วจะใช้เวลาชาร์จอยู่ที่ประมาณครั้งละ 3 – 5 ชั่วโมง หากเลือกรุ่นที่ใช้เวลาชาร์จนานเกินไปจะทำให้กินไฟและสร้างความไม่สะดวกได้
· ฟังก์ชันการใช้งาน แต่ละรุ่นจะมีฟังก์ชันการใช้งานที่แตกต่างกัน ควรเลือกรุ่นที่มีฟังก์ชันเสริมตรงกับการใช้งานเพื่อช่วยให้ใช้งานได้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เช่น ปรับความเร็วได้ 3 ระดับ, มีหน้าจอแสดงผลแบบ LCD ช่วยให้มองเห็นได้ง่ายขึ้น, สามารถพับเก็บได้ ช่วยสร้างความสะดวกในการพกพาและช่วยประหยัดพื้นที่ลงได้, , มีระบบควบคุมความเร็วคงที่แบบอัตโนมัติ เพื่อช่วยให้สกู๊ตเตอร์ทำความเร็วได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องปรับระดับบ่อย เหมาะสำหรับการขี่ทางตรง
· ระบบความปลอดภัย เพื่อความปลอดภัยในการใช้งานควรมีระบบความปลอดภัยที่ดี เช่น ระบบล็อกกันขโมย, แบตเตอรี่ป้องกันความร้อน เพื่อป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร
· ระบบเบรก เพราะเบรกเป็นสิ่งสำคัญในการขับสกู๊ตเตอร์จึงควรเลือกระบบเบรกที่ได้มาตรฐานและช่วยสร้างความปลอดภัยในการขับขี่ เช่น เบรกระบบไฟฟ้า E-ABS ที่จะช่วยป้องกันล้อล็อกเมื่อมีการเบรกกะทันหัน เพราะหากล้อล็อกจะทำให้สกู๊ตเตอร์หยุดและเกิดการกระชากได้ ทำให้เสียการทรงตัวและมีโอกาสเกิดอุบัติเหตุง่าย, ระบบเบรกคู่ ที่จะช่วยเบรกได้อย่างนุ่มนวลทั้งล้อหน้าและล้อหลังเมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน
· รองรับน้ำหนักได้สูงสุด แต่ละรุ่นมีการเลือกใช้วัสดุที่ต่างกันทำให้มีความแข็งแรง ทนทาน และมีความสามารถในการรับน้ำหนักได้ไม่เท่ากัน บางรุ่นรับน้ำหนักได้สูงสุด 100 กิโลกรัม แต่บางรุ่นรองรับน้ำหนักได้สูงถึง 200 กิโลกรัม
เรื่องควรรู้ในการขี่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ปลอดภัยหรือไม่ ควรปฏิบัติอย่างไร?
· สวมอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยทุกครั้งที่ขับขี่สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้า ควรสวมหมวกกันน็อกและอุปกรณ์ป้องกัน เช่น สนับศอก สนับเข่า ทุกครั้งที่ขับขี่เพื่อความปลอดภัยบนท้องถนน
· ไม่ควรขี่บนถนนใหญ่หรือเส้นทางจราจร เพราะตามกฎหมายแล้วการขี่สกู๊ตเตอร์บนท้องถนนนั้นถือว่าผิดกฎหมายและยังไม่มีกฎหมายรองรับโดยตรง
· ขับขี่ด้วยความเร็วที่เหมาะสม ความเร็วที่เหมาะสมอยู่ที่ 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็นระดับความเร็วที่ปลอดภัยที่กฎหมายต่างประเทศระบุไว้
· หลีกเลี่ยงพื้นขรุขระหรือพื้นที่ไม่เสมอกัน เพราะอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย เนื่องจากล้อมีขนาดเล็กและเป็นยาง อาจทำให้ยางแตกได้
ปัจจุบันนี้สกู๊ตเตอร์ไฟฟ้ามีให้เลือกมากขึ้นและมีฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลายมากขึ้นเพื่อรองรับการใช้งานในหลาย ๆ รูปแบบ สามารถขับขี่ได้ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ
