รู้เรื่อง ตู้เย็น ในมุมที่ลึกขึ้น เวลาเลือกซื้อจะได้ตรงกับใจ
หลายคนอาจจะเข้าใจว่า เวลาเลือกซื้อ ตู้เย็น ไม่น่าจะใช่เรื่องยาก เพียงแค่ดูยี่ห้อที่คุ้นเคย เลือกขนาดความจุให้สอดคล้องกับความต้องการ ประมาณขนาดตู้ให้ลงตัวกับการจัดวางในที่พักอาศัยได้แบบไม่เปลืองพื้นที่จนเกินไป และขอแบบประหยัดไฟด้วยเพียงเท่านี้ก็น่าจะเพียงพอ เท่านี้ก็ตัดสินใจซื้อได้เลย แต่ในความเป็นจริงแล้วเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นนี้ไม่ได้มีแบบเดียวให้คุณเลือก ลองมาทำความเข้าใจเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นนี้ในมุมที่ลึกขึ้นกันดีกว่า
ตู้เย็นสองประตู มีประเภทให้เลือกมากกว่าที่เข้าใจ
หากไม่ใช่คนที่ชำนาญหรือเป็นคนที่คุ้นเคยกับการเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าบ่อย ๆ ก็คงจะไม่ค่อยทราบว่าตู้เย็นสองประตูขนาดกลาง ๆ ไปถึงขนาดใหญ่ที่เป็นที่นิยมในท้องตลาดไม่ได้มีประเภทเดียวให้เลือกซื้อ อันที่จริงแล้วอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าแบบนี้จะมีแยกย่อยออกมาเป็น 2 รูปแบบ นั่นคือ
1.Side by Side
Side by Side เป็นตู้ขนาดใหญ่ที่มีจุดเริ่มต้นการดีไซน์ที่ยุโรป เป็นตู้แช่ที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของชาวตะวันตกที่มีวัฒนธรรมการจับจ่ายซื้ออาหารไม่บ่อย แต่เมื่อออกมาซื้อสินค้าซื้ออาหารทีก็จะซื้อครั้งละมาก ๆ เมื่อซื้อเยอะ ตู้แช่เย็นจึงต้องมีขนาดใหญ่เพื่อให้เพียงพอต่อการเก็บอาหารจำนวนมาก และเนื่องจากขนาดตู้ที่ใหญ่ใช้พื้นที่บ้านค่อนข้างมาก จึงทำให้ตู้แช่เย็นแบบนี้จึงจำเป็นต้องออกแบบประตูตู้เป็นแบบเปิดได้ทั้งซ้ายและขวา เพื่อลดปัญหาพื้นที่การใช้งานในบ้าน จุดหนึ่งที่ต้องรู้ไว้สำหรับใครที่จะเลือกซื้อตู้แช่เย็นแบบนี้ก็คือ แม้ว่าจะดีไซน์มาให้เปิดประตูตู้ได้ทั้งซ้ายและขวา ภายในถูกแยกสัดส่วนการใช้งานออกเป็นสองฝั่งก็จริง แต่โดยปกติแล้วพื้นที่ทั้งสองฝั่งจะไม่เท่ากัน จะมีส่วนที่กว้างและส่วนที่แคบ ทำให้บางครั้งจะเกิดปัญหาตรงที่จะนำอาหารชิ้นใหญ่ ๆ หรือชามใหญ่ ๆ ใส่เข้าไปในตู้ไม่ได้ และตู้เย็นแบบนี้จะกินไฟค่อนข้างมาก
2. French Door
French Door เป็นตู้แช่แบบ 2 ประตูเช่นกัน แต่แบบนี้จะย้ายเอาช่องแช่แข็งไปไว้ด้านล่าง ซึ่งอาจจะดูแปลกไปจากตู้แช่เย็นทั่วไปที่ ยึดหลักเรื่องของกฎฟิสิกส์การไหลของอากาศ ที่เป็นทฤษฎีว่าอากาศเย็นจะไหลลงต่ำเสมอจึงนำส่วนช่องแช่แข็งไว้ด้านบนเพื่อให้อากาศเย็นไหลกระจายปกคลุมไปในช่องแช่ส่วนต่าง ๆ ด้านล่างเป็นการควบคุมอุณหภูมิของตู้แช่ แต่ตู้ในรูปแบบนี้จะเป็นสไตล์การดีไซน์ตู้แช่เย็นแบบฝรั่งเศส เพราะในฝรั่งเศสอากาศเย็นอยู่แล้ว เฉลี่ยอุณหภูมิโดยรวมจะอยู่ที่ประมาณ 7 – 15 องศาเซลเซียส ทำให้คนไม่ค่อยซีเรียสกับเรื่องของการแช่อาหาร ตู้แช่จึงเอาไว้เก็บอาหารมากกว่าถนอมอาหารจึงทำให้การออกแบบต้องเน้นไปในเรื่องความสะดวกในการเปิด-ปิดใช้งาน ต้องง่ายกับหยิบจับนำอาหารเข้าออกตู้ จึงได้ย้ายช่องแช่แข็งที่ไม่ค่อยได้ใช้ไปไว้ด้านล่าง ถ้าคุณไม่ค่อยได้แช่แข็งอาหารอะไรมากรูปแบบตู้สไตล์นี้ก็ถือว่าน่าสนใจ
ตู้เย็นแบบไหนที่เหมาะกับสไตล์การใช้ชีวิตยุคใหม่
คนในยุคปัจจุบันส่วนใหญ่แล้วจะเริ่มมีรูปแบบการใช้ชีวิตเป็นครอบครัวเดี่ยวมากขึ้น หรือบางทีก็อาจใช้ชีวิตเป็นโสดเลยก็มี สไตล์ที่พักอาศัยก็จะเน้นไม่ใหญ่โต อยู่เป็นคอนโดมิเนียมหรือห้องเช่าเล็ก ๆ กันมากขึ้น เมื่อสไตล์การใช้ชีวิตเปลี่ยนแปลงไป ไม่ได้อยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่หลาย ๆ คนเหมือนในสมัยก่อน การซื้อเป็น ตู้เย็นเล็ก ขนาด 3.5 – 4.5 คิวมาใช้ก็นับเป็นสิ่งเหมาะสมกับขนาดที่อยู่อาศัยและห้องครัวที่เล็กลง เพราะหากเลือกซื้อตู้เย็นขนาดที่มากกว่า 4.5 คิวขึ้นไปมาใช้ก็จะทำให้เกิดความสิ้นเปลืองทั้งเรื่องพื้นที่ใช้สอยในที่พักอาศัย และยังเป็นการสิ้นเปลืองค่าไฟฟ้าโดยใช่เหตุอีกด้วย หากอยู่คอนโดมิเนียมหรือห้องเช่าเพียง 1 – 2 คน ตู้เย็นเล็กก็เพียงพอและตอบโจทย์การใช้ชีวิตแล้ว ราคาก็ถูกกว่าตู้ใหญ่ กินไฟก็น้อยกว่า ใช้พื้นที่จัดวางก็น้อยกว่า ถือว่าเป็นรูปแบบที่ลงตัวกับการใช้ชีวิตในยุคนี้มากเลยทีเดียว
จะเห็นว่าอันที่จริงแล้วการเลือกซื้อตู้เย็น มีสิ่งที่เราต้องคิดต้องพิจารณาต้องเลือกมากมายเหมือนกัน เพราะเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นนี้เป็นอะไรที่เราซื้อมาครั้งหนึ่งแล้วต้องใช้ไปนาน ๆ 7 – 10 ปี ดังนั้นจะซื้อทั้งทีก็ควรจะพิถีพิถันในการเลือกให้ดี เลือกให้ตรงกับใจที่สุดจะได้ตอบโจทย์กับสไตล์การใช้ชีวิตของเราทั้งในวันนี้และวันข้างหน้าด้วย
