กีต้าร์ไฟฟ้า

นักดนตรีมือใหม่ควรรู้ กีต้าร์ไฟฟ้า มีกี่แบบ และแบบไหนที่เหมาะสำหรับการใช้งานของคุณ?

กีต้าร์ไฟฟ้า เป็นเครื่องดนตรีที่มีเสน่ห์ มีเสียงที่ไพเราะ ทันสมัย และได้รับความนิยมสูงในหมู่นักดนตรี เรียกว่าใครที่เล่นดนตรีก็มักจะเริ่มจากการเล่นกีต้าร์ก่อน โดยกีต้าร์แบบไฟฟ้าตัวแรกผลิตขึ้นโดย จอร์จ โบแชมป์ (George Beauchamp) ที่ได้ตั้งบริษัทผลิตขึ้นในปี 1930 และในปี 1936 ก็ได้ทำการจดสิทธิบัตรเอาไว้ และเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นเมื่อปี 1960 จากการที่ John Lennon หนึ่งในสมาชิกวงร็อกระดับโลกอย่าง วง “The Beatles” จากเมืองลิเวอร์พูล ประเทศอังกฤษได้นำกีต้าร์ยี่ห้อนี้มาใช้ในการแสดง จนทำให้ Electric Guitar ได้รับความนิยมไปอย่างแพร่หลาย

ประเภทของกีต้าร์ไฟฟ้า แต่ละแบบต่างกันอย่างไร เหมาะสำหรับการใช้งานแบบไหน?

· Solid Body หรือที่หลายคนเรียกว่ากีต้าร์ตัวตัน ความแตกต่างของกีต้าร์แบบ Solid Body คือที่ลำตัวจะไม่มีการเจาะช่องเอาไว้เลย มีตัวรับสัญญาณที่ทำหน้าที่รับแรงสั่นสะเทือนในขณะที่ดีดไปยัง Amplifier เสียงของกีต้าร์แบบ Solid Body จึงค่อนข้างแตกต่างจากกีต้าร์ประเภทอื่น

· Semi-Hallow Body เป็นกีต้าร์กึ่งโปร่งแสง ที่ลำตัวมีการเจาะช่องเอาไว้เพื่อรับสัญญาณและรองรับแรงสั่นสะเทือนขณะดีด จุดเด่นของกีต้าร์แบบ Semi-Hallow Body คือ ช่วยให้เกิดการกำทอนของเสียงได้มากกว่าและช่วยลดเสียงรบกวนลงได้ ให้เสียงแบบอะคูสติกส์ได้มากขึ้น นิยมใช้ในวงแจ๊ส

· Hallow Body เป็นกีต้าร์แบบโปร่ง ที่เจาะช่องลำตัวให้โปร่งคล้ายกับกีต้าร์โปร่ง เพื่อทำให้เกิดการกำทอนของเสียง และรับสัญญาณกับแรงสั่นสะเทือน เป็นชนิดที่ให้เสียงแบบอะคูสติกส์ได้มากที่สุด ช่วยลดเสียงรบกวนได้ดี นิยมใช้กับวงแจ๊สหรือบลูส์

เทคนิคการเลือกซื้อกีต้าร์ไฟฟ้าสำหรับมือใหม่ เลือกอย่างไร แบบไหนดี?

· เลือกจากทรงของกีต้าร์ ปัจจุบันนี้ผลิตออกมาให้เลือกซื้อหลายรูปทรง แต่สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งหัดเล่นควรเริ่มจากทรงมาตรฐานอย่างทรง Stratocaster หรือทรง Telecaster เพราะจะช่วยให้เล่นได้ง่ายขึ้น เหมาะสำหรับการฝึกฝน เพราะหากเลือกทรงที่เล่นยากเกินไป จะเบื่อหรือท้อก่อนที่จะเล่นเป็นได้ แต่หากคนไหนที่เล่นเป็นแล้วก็มีทรงสวย ๆ ให้เลือกหลายทรงเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นทรง Soloist, LPS, VIP, Tele, Mustang แต่หากใครที่ชอบแบบร็อก ๆ หน่อย เหมาะสำหรับทรง Star, Flying V

· เลือกจาก Pickup และคอกีต้าร์ Pickup เป็นตัวขยายเสียงที่ทำหน้าที่สำคัญและมีให้เลือกหลายแบบมาก ๆ สำหรับมือใหม่ควรเลือกแบบมาตรฐานอย่างแบบ Single Coil หรือ Humbuckers เพราะให้เสียงที่ไพเราะและปรับเสียงได้ง่าย นอกจากนี้ยังควรพิจารณาจากคอกีต้าร์ด้วย แนะนำว่าให้ลองจับเล่นก่อนว่าใหญ่หรือเล็กเกินไปหรือไม่ ควรเลือกคอกีต้าร์ที่มีขนาดพอดีมือ และจับได้สะดวก

· เลือกจากสายกีต้าร์ สายกีต้าร์เป็นส่วนสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามเลย เพราะขนาดของสายกีต้าร์ส่งผลต่อเสียงด้วยเช่นกัน มีทั้งแบบหนาและแบบบาง โดยจะมีระดับความยาก – ง่ายแตกต่างกันไป สำหรับมือใหม่ควรเลือกใช้แบบ Fixed Bridge เพราะตั้งสายได้ง่ายและมีความเพี้ยนต่ำ ส่วนสายแบบ Tremolo Bridge จะใช้ระบบปริงเข้ามาช่วยเพื่อเทคนิคการเล่นที่ดีขึ้น ส่วนแบบ Floyd Rose Bridge นิยมใช้สำหรับมือโปร เพราะมีเทคนิคค่อนข้างเยอะ แต่ให้เสียงที่ไพเราะ

· เลือกจากประเภทของไม้ ไม้ เป็นส่วนประกอบหลัก ๆ ของกีต้าร์ไฟฟ้า มีการเลือกใช้หลายประเภท อาทิ ไม้แอช ไม้เอลเดอร์ ไม้มาฮอคกานี ไม้อีโบนี ฯลฯ โดยไม้แต่ละประเภทจะมีเนื้อไม้ที่ต่างกันและมีการนำไปใช้ที่ต่างกัน

· เลือกจากแบรนด์ ควรเลือกแบรนด์ที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน เพราะทำให้มั่นใจได้ว่าจะได้กีต้าร์ที่คุณภาพดีและใช้งานได้นานกว่าแบบทั่วไป

· เลือกจากงบประมาณ มีราคาเริ่มต้นที่หลักพันไปจนถึงหลักแสน ควรตั้งงบเอาไว้ก่อนว่าต้องการกีต้าร์ที่อยู่ในเรทราคาเท่าไหร่

กีต้าร์ไฟฟ้า เล่นไม่ยากอย่างที่คิด หากมีการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอก็จะเล่นได้ในไม่นาน อีกทั้งยังเป็นเครื่องดนตรีที่นิยมอันดับต้น ๆ ในการเล่นในวงแบรนด์อีกด้วย ส่วนการดูแลรักษาก็ไม่ยากเลย หลังใช้งานแล้วควรใช้ผ้านุ่มเช็ดทำความสะอาดสายและบอดี้จากคราบเหงื่อ และควรเก็บใส่กระเป๋ากีต้าร์ทุกครั้งเพื่อป้องกันฝุ่นและช่วยป้องกันการตกหล่นหรือแรงกระแทก ควรเก็บไว้ในที่ที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก ไม่ควรเก็บในห้องทึบหรือห้องแอร์ เนื่องจากผลิตจากไม้ จะทำให้ชื้นและขึ้นราได้  กีต้าร์ไฟฟ้า